สนทนาธรรมเพื่ออุทิศกุศลแด่คุณปาหนัน บารมีธรรม บ่าย 29/10/68

ค่อยๆ สะสมความเห็นถูกเข้าใจถูกของสิ่งที่เกิดแล้วมีเดี๋ยวนี้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงหนทางที่จะประจักษ์แจ้งความจริงของธรรมะแต่ละหนึ่ง มั่นคงที่จะรู้ว่าหนทางที่จะประจักษ์แจ้งมีเพราะพระองค์ทรงแสดงอริยสัจสี่

กำลังสว่างอย่างนี้แต่มืดยิ่งกว่ามืดเพราะไม่สามารถรู้ความจริงของสิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้ได้

ธรรมะอนัตตา บังคับไม่ให้เกิดไม่ได้บังคับไม่ให้ดับไม่ได้ เพราะฉะนั้นอยู่ในความมืดในความไม่รู้อะไรเลย แล้วคิดว่าเป็นเราเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่เป็นธรรมะที่เกิดดับสืบต่อทุกขณะ ... จริงไหม ... รู้หรือเปล่า ... ละเอียดยิบแต่ละขณะ เพราะฉะนั้นฟังคำของผู้ทรงตรัสรู้และเข้าใจถูกทีละเล็กทีละน้อยจนกว่าโลกจะปรากฏตามความเป็นจริง

โลกคือสิ่งที่เกิดและดับทั้งหมดจนกว่าจะเป็นโลกุตระ ... พ้นจากโลกเมื่อธรรมะปรากฏทีละหนึ่ง เริ่มเข้าใจความลึกซึ้งพระปัญญาของพระพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้และเข้าใจความจริงที่ลึกซึ้ง โลกไม่มีอะไรนอกจากสิ่งที่ปรากฏแต่ละทาง ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นแต่สิ่งที่มีปัจจัยเกิดแล้วดับ เพราะฉะนั้นจะฟังต่อไปไหม ... ขันติบารมี ... วิริยบารมี ... สัจจบารมีเพื่อนเนกขัมมะบารมี

เห็นพระมหากรุณาของพระพุทธเจ้าไหม? ทรงบำเพ็ญพระบารมีเพื่อให้คนอื่นได้รู้ความจริงด้วย เพราะฉะนั้นเพียงความเข้าใจถูกเห็นพระมหากรุณาของพระองค์ จนกว่าจะค่อยๆ เข้าใจถูกขึ้น ตรงต่อความจริงเป็นสัจจบารมี

ไม่มีบารมีรู้ความจริงไม่ได้!!

ไม่รู้ไปหมด ถ้าเข้าใจทีละคำจะค่อยๆ รู้ ต้องมีความเข้าใจละเอียดขึ้น มั่นคงขึ้น เพราะฉะนั้นสภาพธรรมะละเอียดลึกซึ้งสักแค่ไหน ไม่ใช่เราก็จริง แต่ยังไม่รู้ว่าไม่ใช่เรา เพราะฉะนั้นต้องมีหนทางที่จะรู้ว่าเป็นอะไรจึงไม่ใช่เรา!!!

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ถ้าเข้าใจทีละคำ จะค่อยๆ รู้ ต้องมีความเข้าใจละเอียดขึ้น มั่นคงขึ้น สภาพธรรมละเอียดลึกซึ้งสักแค่ไหน ไม่ใช่เราก็จริง แต่ยังไม่รู้ว่าไม่ใช่เรา ต้องมีหนทางที่จะรู้ว่าเป็นอะไรจึงไม่ใช่เรา

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ