บวชพระ ทอดกฐิน 

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  29 ก.ย. 2568
หมายเลข  51036
อ่าน  450

ทุกคนทราบด้วยปัญญาของตนเองว่า กุศลไม่ได้อยู่ที่บวชพระ และไม่ใช่อยู่ที่ทอดกฐิน แต่อยู่ที่จิต ขณะใดที่ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ จึงบวชพระ ขณะใดที่ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ จึงทอดกฐิน เพราะฉะนั้น การทอดกฐิน หรือการบวชพระก็เป็นทางของกุศลจิต ซึ่งเมื่อกุศลจิตเกิดแล้ว จะทำให้คิดดีบ้าง และทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่ดีบ้าง หรือมีวาจาที่ดีที่เป็นประโยชน์บ้าง


รับฟัง ...

กุศลมากน้อยอยู่ที่จิต

สุ. การทำบุญด้วยการบวชพระและทอดกฐิน อย่างใดจะได้กุศลกว่ากัน และการทำบุญของเศรษฐีจำนวนมากๆ กับคนยากจนจำนวนเล็กน้อย จะมีอานิสงส์ต่างกันหรือไม่อย่างไร

อ.สมพร ทั้งสองอย่างก็เป็นกุศล แต่กุศลจะได้มากได้น้อยอยู่ที่จิต เช่น เราจะบวชลูกหรือบวชหลาน เลี้ยงแขกอย่างมากมาย ฆ่าวัว ฆ่าหมู ฆ่าเป็ดไก่ อย่างนี้เป็นต้น เพื่อเลี้ยงกันในงานบวช กุศลจากการบวชก็มีเหมือนกัน แต่อกุศลก็ เกิดมากเช่นกัน สำคัญที่สุด การบวช ถ้าไม่ทำลาย ไม่เบียดเบียนสัตว์อื่น เว้นจากอกุศลจริงๆ ถือว่าเป็นการบวชที่ได้กุศลมาก เพราะว่าบวชแล้วก็ศึกษาธรรม ปฏิบัติธรรม

การทอดกฐินเป็นกุศลเฉพาะกาล ถ้าเรามีเจตนาบริสุทธิ์ทั้ง ๓ กาล ก็ถือว่า มีอานิสงส์มาก แต่เจตนาของเราจะบริสุทธิ์ทั้ง ๓ กาล บางทีก็เป็นไปได้ยาก

ทั้ง ๓ กาลอย่างไร คือ ก่อนจะให้ทาน คือ ก่อนจะทอดกฐิน เราก็มีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มีความโลภเกิดขึ้น ไม่มีความโกรธเกิดขึ้น ไม่มีโมหะเกิดขึ้น เรียกว่า บุพพเจตนา ขณะที่กำลังถวายกฐิน อกุศลก็ไม่เกิด เมื่อถวายกฐินไปแล้วก็ระลึกถึงกุศลนั้น อกุศลก็ไม่เกิด เมื่อกุศลเกิดอยู่ทั้ง ๓ กาล คือ ก่อนให้ กำลังให้ และให้แล้ว อกุศลไม่เกิดเลย ก็ถือว่ามีอานิสงส์มาก

แต่อานิสงส์มากอย่างไรนั้น ดูการปฏิบัติ ปฏิบัติอย่างไรที่จะพ้นจากทุกข์ในวัฏฏสงสารได้ วิธีการปฏิบัติอย่างนั้นทำให้พ้นจากทุกข์ได้ ถือว่ามีอานิสงส์มาก และได้รับอานิสงส์มาก เราจะตัดสินอย่างเด็ดขาดต้องดูการพ้นจากทุกข์ว่ามาก หรือน้อย ถ้าจิตเรามีกุศลมาก ก็ได้อานิสงส์มาก

สุ. กลับมาถึงปัญหาที่อยากจะถาม ซึ่งคงจะช่วยให้ท่านผู้ฟังได้คิด คือ ที่ถามว่า การทำบุญด้วยการบวชพระและทอดกฐิน อย่างใดจะได้กุศลกว่ากัน

ถามทำไม คือ น่าคิดจริงๆ ถ้าอย่างไหนได้กุศลมากกว่าก็จะทำอย่างนั้น และไม่ทำอีกอย่างหนึ่งหรืออย่างไร หรืออยากจะรู้ว่าเพราะอะไร ไม่ว่าจะเป็น การบวชพระ การทอดกฐิน

แต่ถ้าทุกคนทราบด้วยปัญญาของตนเองว่า กุศลไม่ได้อยู่ที่บวชพระ และไม่ใช่อยู่ที่ทอดกฐิน แต่อยู่ที่จิต ขณะใดที่ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ จึงบวชพระ ขณะใดที่ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะ จึงทอดกฐิน เพราะฉะนั้น การทอดกฐิน หรือการบวชพระก็เป็นทางของกุศลจิต ซึ่งเมื่อกุศลจิตเกิดแล้ว จะทำให้คิดดีบ้าง และทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ที่ดีบ้าง หรือมีวาจาที่ดีที่เป็นประโยชน์บ้าง

เพราะฉะนั้น ต้องรู้ ต่อไปนี้ไม่ต้องถามใครอีกเลย เพราะว่าใครจะรู้จิตใจของคนอื่น ทุกคนมีจิตซึ่งจะต้องรู้จักตัวของตัวเอง ไม่ใช่ถามคนอื่นว่าเป็นกุศลไหม ถ้าเวลานี้จะถามคนที่อยู่ที่นี่ว่า จิตของท่านผู้นี้เป็นกุศลไหม ก็ยากที่จะรู้ได้

ใครก็ตามที่ถามว่า จิตเป็นกุศลไหม พิจารณาจิตของตัวเองในขณะนี้ กำลังฟังและเข้าใจ ขณะนั้นเป็นกุศล แต่ขณะที่ฟังแล้วไม่เข้าใจหรือไม่สนใจเลย ขณะนั้นถึงแม้จะนั่งที่นี่ จะบอกว่าเป็นกุศลไม่ได้ จะบอกว่าวันนี้มานั่งฟัง การสนทนาธรรม จิตเป็นกุศล ทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจและไม่สนใจ ขณะนั้นต้องไม่ใช่กุศล

การที่จะรู้ว่าวันนี้บุญมากหรือน้อย ไม่ใช่อยู่ในขณะที่บวชพระ ในขณะที่ทอดกฐิน ในขณะที่ใส่บาตร ในขณะที่ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่เป็นขณะที่ระลึกรู้สภาพ ของจิตว่า เป็นกุศล หรือเป็นอกุศล ถ้าเป็นโดยลักษณะนี้ คนอื่นไม่ต้องบอกเลย สามารถรู้เองได้จริงๆ ว่า ขณะนี้เป็นกุศลมาก หรือเป็นกุศลน้อย

แต่อย่าให้เป็นคำถามในลักษณะที่ว่า ถ้าอย่างหนึ่งอย่างใดได้กุศลมากกว่าแล้ว จะไม่ทำอีกอย่างหนึ่ง และถึงแม้ว่าจะไม่ทอดกฐิน และจะไม่บวชพระ แต่วันนี้ ไม่ว่าจะคิดถึงใคร ไม่ได้คิดถึงด้วยความพยาบาท ความผูกโกรธ หรือความริษยา หรือความผูกพัน แต่คิดถึงด้วยความเป็นเพื่อน ต้องการที่จะช่วยเหลือใครในขณะใด ขณะนั้นก็เป็นกุศลแล้ว เพราะฉะนั้น กุศลไม่ใช่มีแต่การให้ทาน หรือใส่บาตร เลี้ยงพระ บวชพระ ทอดกฐิน แต่เป็นทุกขณะที่จิตไม่มีโลภะ ไม่มีโทสะ ไม่มีโมหะ [ตอนที่ 1843]


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 29 ก.ย. 2568

บวชทำไม สมควรบวชไหม

บวชทำไม สมควรบวชไหม การบวชเป็นภิกษุไม่ใช่เป็นอยู่อย่างสบายให้ผู้คนกราบไหว้ แต่เพราะเป็นผู้ที่เห็นกิเลสและเห็นโทษของกิเลส และรู้ว่าหนทางเดียวที่จะขัดเกลากิเลสก็ด้วยความเข้าใจพระธรรมจึงบวชเพื่อศึกษาธรรมและขัดเกลากิเลสยิ่งกว่าคฤหัสถ์ [ทำไมบวช โดย สุจินต์ บริหารวนเขตต์]

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 29 ก.ย. 2568

กฐินตามพระธรรมวินัย

กฐินตามพระธรรมวินัย ไม่ใช่เรื่องเงินทองเป็นการถูกต้อง แต่ว่ายุคนี้สมัยนี้ไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้น กฐิน ไม่ใช่กฐิน แต่เป็นเรื่องเงินทอง เพราะว่า ถ้าเป็นกฐินจริงๆ ไม่ใช่หน้าที่ของคฤหัสถ์ เพราะว่า เป็นเรื่องของพระวินัย

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
มังกรทอง
วันที่ 3 ต.ค. 2568

แต่ละคำองค์พระศาสดา จักศึกษาจนเข้าใจ หนักแน่นไม่หวั่นไหว ด้วยเข้าใจในอนัตตา กราบอาจารย์สุจินต์ให้ เมตตาได้ทุกเวลา อีกเปี่ยมความกรุณา น้อมศรัทธาอาจารย์เทอญ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ