ไม่ชินหูในภาษาบาลี

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  20 ก.ย. 2568
หมายเลข  50971
อ่าน  492

ไม่เป็นไรเลยเรื่องภาษา ขอให้เข้าใจลักษณะของสภาพธรรม สำหรับผู้ที่ไม่ชินหูในภาษาบาลีและไม่รู้คำแปล ฟังไว้ก่อนดีกว่าตัดไหม ให้ชินๆ ไว้ และค่อยๆ หาความหมายของพยัญชนะนั้น แสดงถึงความสนใจที่จะรู้ลักษณะต่างๆ ที่เป็นความละเอียด เพราะถ้าตัดออกไปเลยก็ยังคงไม่ชินหูอยู่


รับฟัง ...

ไม่ชินหูในภาษาบาลี

ถ. วันนี้ฟังเรื่องหิริโอตตัปปะรู้สึกว่า ตัวเองมีอกุศลเกิดขึ้นมากมาย และหวนระลึกไปถึงปีเศษๆ ที่อาจารย์แสดงธรรมเรื่องลักษณะของโทสะ ผมก็อัดเทปไว้ กลับไปบ้านก็เปิดฟังอีกหลายครั้ง ก็เกิดความซาบซึ้ง อัดต่ออีก ๔ – ๕ ชุด ส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่สนใจในธรรมด้วยกัน โดยคิดว่า ถ้าเขาได้ฟังแล้ว เขาคงจะสงสัยแน่ๆ ในลักษณะของโทสะนั้น เพราะอาจารย์พูดภาษาบาลีมาก และอธิบายลักษณะของโทสะทั่วๆ ไปก็มาก ก็รอว่าเมื่อไรเขาจะถามเรา แต่ก็เงียบหายไป ผมก็นำเอาเทป ม้วนนั้นกลับมานั่งฟังใหม่อีกครั้งหนึ่ง และพิจารณาว่า ลักษณะของโทสะนั้นมีภาษาบาลีอยู่มาก เราสมควรที่จะตัดต่อเทปไหม

สุ. แล้วแต่ ไม่เป็นไรเลยเรื่องภาษา ขอให้เข้าใจลักษณะของสภาพธรรม

ถ. ผมก็ตัดต่อแล้วเป็นชุด แต่ก็ไม่กล้าส่งเทปนั้นไปให้ใครฟัง

สุ. ขอประทานโทษ สำหรับผู้ที่ไม่ชินหูในภาษาบาลีและไม่รู้คำแปล ฟังไว้ก่อนดีกว่าตัดไหม ให้ชินๆ ไว้ และค่อยๆ หาความหมายของพยัญชนะนั้น แสดงถึงความสนใจที่จะรู้ลักษณะต่างๆ ที่เป็นความละเอียดของโทสะ เพราะถ้าตัดออกไปเลยก็ยังคงไม่ชินหูอยู่ [ตอนที่ 1579]

ผู้ฟัง เรื่องที่มีการตัดต่อเทปของท่านอาจารย์ เท่าที่ผมมีประสบการณ์ ในการศึกษาธรรมมาบ้างเล็กน้อย และเท่าที่ศึกษามา กว่าจะได้พบแนวทางที่ถูกต้อง ก็เสียเวลามาก ผมมีความคิดเห็นว่า การตัดศัพท์บาลีออกจากเทปท่านอาจารย์ ผมเห็นว่าไม่สมควร เพราะเราจะเห็นได้ในชีวิตประจำวันว่า ภาษาไทยในหนังสือพิมพ์ แต่ละปีๆ มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ธรรมเป็นของจริงที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง ทรงแสดงไว้ด้วยภาษาบาลี เป็นภาษาที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศที่โชคดีมากที่ได้รับอารยธรรมทางด้านภาษา คือ ภาษาไทยมีภาษาบาลีปนอยู่ด้วยมาก ทำให้ภาษาบาลีและภาษาไทยเข้ากันได้พอสมควร ทำให้ธรรมยังคงอยู่ได้ อย่างประเทศจีนจะเห็นชัด เป็นมหายาน จึงเปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะไม่คงภาษาเดิมไว้ เขานำภาษาบาลีมาเปลี่ยนแปลงเป็นภาษาของเขา และแต่ละปีภาษาก็ตีความกัน ต่างออกไป อรรถก็เคลื่อนไปมาก เพราะฉะนั้น การศึกษาธรรมซึ่งมีจุดประสงค์ว่า เข้าใจสิ่งที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดง และพระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพานไปแล้ว ไม่มีอะไรเหลือ เหลือแต่พระสูตรที่ทรงอธิบาย ถ้าพระสูตรยังคงเป็นภาษาดั้งเดิมอยู่ การศึกษาเพื่อที่จะเข้าถึงอรรถก็ยังพอมีหวัง แต่ถ้าเราเปลี่ยนเป็นภาษาที่ง่าย เช่น เลิกใช้ภาษาบาลี เปลี่ยนเป็นภาษาไทยจะได้จะเข้าใจง่าย ต่อมาอีกยุคหนึ่ง ภาษานั้นก็อาจจะเปลี่ยนแปลงความหมาย ไม่เหมือนกับที่เราใช้ภาษาบาลีที่เหมือนภาษา ที่ตายแล้ว อย่างไรก็ยังคงอรรถไว้ได้

สุ. นี่เป็นเหตุหนึ่งซึ่งดิฉันได้เคยเรียนให้ทราบแล้วว่า การบรรยายธรรมของดิฉันเป็นเพียงการเริ่มต้น เป็นแนวทาง เป็นการบุกเบิกสำหรับรุ่นต่อๆ ไปที่จะศึกษาพระธรรมให้แตกฉาน กว้างขวาง ลึกซึ้งขึ้นอีก เพราะถ้าไม่มีการปูแนวทางเอาไว้ให้สะดวกสำหรับรุ่นหลังที่จะมาศึกษาต่อ ก็คงต้องเริ่มต้นคลำหนทางกันใหม่

เพราะฉะนั้น ข้อความในพระสูตรก็ตาม หรือที่ยกจากพระไตรปิฎกโดยตรง หรืออรรถกถา แม้ว่าจะมีบางคำซึ่งอาจจะทำให้คนที่ไม่ชิน เข้าใจได้ไม่ชัดเจน หรืออาจจะเป็นคำที่ทำให้ต้องคิด และพิจารณาในอรรถในเนื้อความนั้นจึงจะเข้าใจได้ แต่นั่นก็ยังเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจในพระธรรม และไม่ทอดทิ้งแม้คำที่ยัง ไม่เข้าใจ เพราะว่าเห็นประโยชน์ รักษาไว้ เพื่อในกาลข้างหน้าจะได้ศึกษาและพยายามหาความเข้าใจให้แจ่มแจ้งขึ้น

แต่สำหรับบางบุคคล ต้องคำนึงถึงบางบุคคลด้วย นอกจากบางกาลเทศะแล้ว ยังบางบุคคลซึ่งอาจจะไม่สนใจในพระธรรมถึงขั้นนี้ แต่ต้องการเรื่องเบาๆ ง่ายๆ ที่พอจะเข้าใจได้ เมื่อมีคำยากก็จะทิ้งความสนใจทันที เห็นว่าเป็นเรื่องที่ยากไป สูงไปเพราะฉะนั้น ท่านที่มีเจตนาอยากจะให้ท่านผู้นั้นมีความเข้าใจ ก็เป็นการเฉพาะตัว ส่วนตัวที่จะตัดคำยากๆ ออกได้ นี่ก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละท่าน ซึ่งควรพิจารณาเมื่อหวังประโยชน์แก่บุคคลอื่น ก็ทำตามอัธยาศัยของผู้นั้นได้ [ตอนที่ 1580]

การสนทนาธรรมที่มูลนิธิฯ วันเสาร์ที่ ๒๗ เม.ย. ๒๕๕๗


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 21 ก.ย. 2568

การบรรยายธรรมของดิฉันเป็นเพียงการเริ่มต้น เป็นแนวทาง เป็นการบุกเบิกสำหรับรุ่นต่อๆ ไปที่จะศึกษาพระธรรมให้แตกฉาน กว้างขวาง ลึกซึ้งขึ้นอีก เพราะถ้าไม่มีการปูแนวทางเอาไว้ให้สะดวกสำหรับรุ่นหลังที่จะมาศึกษาต่อ ก็คงต้องเริ่มต้นคลำหนทางกันใหม่

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ