เหตุที่จะ เอาชนะใจตัวเองได้?
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย
เอาชนะใจตัวเอง ใจหรือจิต มีทั้งจิตที่เป็นกุศลหรืออกุศลจิต จิตที่เป็นอกุศล คือมีสภาพธัมมะที่เป็นกิเลส ทำให้จิตเศร้าหมอง ดังนั้นการ เอาชนะก็ต้องชนะกิเลส ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่มีสัตว์บุคคล ตัวตน ไม่มีเรา มีแต่ธรรมแล้วมีตัวใคร หรือเปล่าที่จะเอาชนะกิเลสหรือมีธรรมที่ชนะกิเลส ธรรมที่จะชนะกิเลสคือ ปัญญา กิเลสมีหลายระดับที่จะต้องชนะ ปัญญา จึงมีหลายระดับเช่นกัน
การเอาชนะกิเลส เพียงชั่วคราว แต่กิเลสก็ยังไม่หมด เช่น ชนะความตระหนี่ แล้วให้ ก็เป็นผลมาจากการฟังพระธรรมจนเข้าใจ เป็นเหตุให้ชนะความตระหนี่ได้เป็นต้น การชนะความโกรธ เปลี่ยนเป็นขันติหรือเมตตา เพราะฟังเรื่อง เมตตาและพระธรรมส่วนต่างๆ บ่อยๆ ก็เป็นเหตุปัจจัยให้ชนะความโกรธได้ แต่ก็ชั่วขณะเท่านั้น มีเหตุก็ตระหนี่อีก โกรธอีก ดังนั้นหนทางที่จะชนะใจตนเอง คือชนะกิเลสให้ดับหมดไม่เหลือ คือ การอบรมเจริญปัญญา (สติปัฏฐาน) เข้าใจความจริงว่าทุกอย่างเป็นธรรม แม้ขณะที่ กิเลสเกิดขึ้นก็เข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา นี่คือหนทางดับกิเลสครับ หนทางเดียวเท่านั้น อบรมเจริญสติปัฏฐาน ระลึกสภาพธัมมะที่มีในขณะนี้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา โดยเริ่มจากการฟังให้เข้าใจว่าธรรมคืออะไร อดทนที่จะฟังพระธรรมต่อไปนะ หนทางเดียวครับ
ขออนุโมทนาครับ
[เล่มที่ 41] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกายคาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๒- หน้าที่ 340
ข้อความบางตอนจาก
เรื่องบัณฑิตสามเณร
" อันคนไขน้ำทั้งหลายย่อมไขน้ำ ช่างศรทั้งหลายย่อมดัดศร ช่างถากทั้งหลายย่อมถากไม้ บัณฑิตทั้งหลายย่อมฝึกตน"
(ฝึกได้ ด้วยการฟังพระธรรมให้เข้าใจและระยะเวลานาน หนทางเดียวครับ)
ขออุทิศกุศลให้สรรพสัตว์
เหตุเดียวเท่านั้นคือ ฟังพระธรรมของพระผู้มีพระภาค เพื่อละคลายความไม่รู้ความจริงว่า ทุกอย่างเป็นธรรมะ ไม่ใช่เรา ฟังแล้วพิจารณาอย่างแยบคายถึงเหตุปัจจัยของสรรพสิ่ง แล้วสังขารขันธ์ที่เป็นกุศล ก็จะปรุงแต่งจิตให้มั่นคงในพระธรรมยิ่งขึ้นจากความเข้าใจในพระธรรม ตามกำลังของปัญญาที่สั่งสมมา
ผู้ที่มีปัญญามากแต่ไม่ได้ตรัสรู้อริยสัจจธรรมด้วยตนเอง แม้ว่าในชาตินั้นจะสามารถบรรลุเป็นพระอรหันต์ได้ ก็ไม่บรรลุ เพราะไม่ได้ฟังพระธรรมของพระพุทธเจ้า ต่อให้เกิดเป็นพรหม เป็นพรหมก็เป็นเราที่เป็นพรหม ยังมีกิเลส มีตัวตน ติดข้องในสิ่งที่เป็นที่พอใจในภพชาติที่เกิด ก็ยังไม่ชนะสงครามภายในจิตของตนเอง และยังจะต้องกลับมาเป็นมนุษย์อีก แล้วก็เวียนเกิดเวียนตายอีก ไม่พ้นไปจากสังสารวัฏ
ขอเชิญคลิกอ่านครับ ....
