การอบรมเจริญกุศลและการอบรมเจริญปัญญานั้นเพื่ออะไร

ข้อที่น่าคิดซึ่งจะต้องพิจารณาอยู่เสมอก็คือว่า การอบรมเจริญกุศลและการอบรมเจริญปัญญานั้นเพื่ออะไร
นี่เป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์มากสำหรับชีวิตประจำวัน เพราะเหตุว่าการที่จะรู้แจ้งอริยสัจจธรรมจนกระทั่งประจักษ์ลักษณะของพระนิพพาน สามารถจะดับกิเลสเป็นพระอริยบุคคลได้ เป็นเรื่องที่จะต้องอบรมจริงๆ ด้วยการขัดเกลากิเลส ด้วยปัญญาที่พิจารณารู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในชีวิตประจำวัน เพื่อบรรลุถึงสังขารุเปกขาญาณ คือ ปัญญาที่เป็นกลางวางเฉย ไม่หวั่นไหวในนามธรรมและรูปธรรมทั้งหลายในชีวิตประจำวัน เป็นการละคลายความผูกพันยึดมั่นในนามธรรมและรูปธรรมด้วยปัญญา ซึ่งสังขารุเปกขาญาณก็เป็นญาณสุดท้ายก่อนที่มรรควิถีจิตจะเกิด
นี่ก็แสดงให้เห็นว่า หนทางหรือระยะทางที่ปัญญาจะอบรมเจริญ จากขณะหนึ่งสู่อีกขณะหนึ่งในชีวิตประจำวันจริงๆ ผู้ที่อบรมเจริญปัญญานั้นสามารถที่จะรู้ได้จริงๆ ว่า เริ่มมีการละคลายความไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจในชีวิตประจำวันจริงๆ เพิ่มขึ้นหรือไม่ ไม่ใช่หวังเพียงว่า เมื่อทำอย่างนั้นอย่างนี้แล้ว ปัญญาก็จะเกิดขึ้นโดยปัจจุบันทันที รู้แจ้งอริยสัจจธรรม แต่ปัญญาที่เพิ่ม จะเพิ่มพร้อมกับสติที่ระลึกศึกษารู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ
เพราะฉะนั้นจึงเป็นสิ่งที่จะต้องพิจารณาโดยละเอียดว่า ปัญญาต้องเพิ่มขึ้นรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ คือ ในขณะนี้ จากการฟัง และเป็นการพิจารณาสิ่งที่ได้ฟังด้วยความเข้าใจ จนถึงแม้ในขณะนี้เอง สติเกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพนามธรรมหรือรูปธรรมทางตา หรือทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ
เพราะฉะนั้นถ้าไม่ฟังพระธรรมอยู่เรื่อยๆ แล้วก็ไม่พิจารณาโดยละเอียด ก็ไม่สามารถจะรู้ได้เลยว่า การวางเฉยมีหลายลักษณะ บางท่านอาจจะหลงเข้าใจผิดคิดว่า วางเฉยได้มากแล้ว แต่ว่าตามความเป็นจริงถ้าปัญญาไม่เกิด จะไม่ใช่การวางเฉยด้วยปัญญา แต่จะเป็นการหลงเข้าใจว่า ได้ละคลายความผูกพันในนามธรรมและรูปธรรมและวางเฉย
ด้วยเหตุนี้การอบรมเจริญอริยมรรคมีองค์ ๘ ก็เป็นเรื่องที่ละเอียดจริงๆ ที่จะต้องเข้าใจโดยไม่ผิด โดยไม่คลาดเคลื่อนแม้เพียงเล็กน้อย ก็จะต้องรู้ว่า ขณะใดเกิดความเข้าใจผิด หรือว่าหลงเข้าใจผิดบ้างหรือเปล่า


