ความไม่รู้จักตัวเอง ก็คือไม่รู้จักโลก

ท่านอาจารย์ ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า สังคม ก็คือแต่ละบุคคลรวมกันเป็นสังคมหนึ่งสังคมใด เพราะเหตุว่าถ้าใช้คำว่า “สังคม” ก็ไม่ได้หมายถึงเฉพาะคนเดียว ใช่ไหม สังคมหนึ่งก็จะต้องประกอบด้วยบุคคลหลายคน เพราะฉะนั้นการที่จะแก้สังคม ช่วยสังคม หรือทำให้สังคมดีขึ้น จะเป็นไปไม่ได้เลย ถ้าแต่ละบุคคลไม่แก้ตัวเอง ซึ่งแต่ละบุคคลมารวมกันเป็นสังคม เพราะฉะนั้นจะแก้ตัวเองได้ จะเห็นได้ว่า ถ้ามีอวิชชา คือ ความไม่รู้สภาพธรรมที่มีจริงโดยความถูกต้อง เช่นไม่เข้าใจเรื่องของกุศลและอกุศล และไม่เข้าใจเรื่องผลของกุศลและผลของอกุศล ไม่มีทางใดที่จะทำให้ตัวเองและสังคมดีขึ้น
เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่า ถ้าทุกคนยังมีอวิชชา คือ ความไม่รู้จักตัวเอง ก็คือไม่รู้จักโลก
ที่กล่าวว่า ไม่รู้จักตัวเอง ไม่รู้จักโลก ก็เพราะเหตุว่าตัวเองมีตา มีหู มีจมูก มีลิ้น มีกาย มีใจ และสิ่งที่เราเรียกว่า “โลก” ก็ไม่พ้นจากสิ่งที่ตาเห็น เสียงที่หูได้ยิน กลิ่นที่จมูก จิตรู้กลิ่นทางจมูก เป็นต้น หรือการคิดนึกเรื่องราวต่างๆ ก็จะไม่พ้นจากโลกย่อยๆ ๖ โลกนี้เลย ที่รวมกันเป็นโลกใหญ่ที่เข้าใจว่าเป็นโลกที่วุ่นวาย ต้องมาจากตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะฉะนั้นถ้าอวิชชาไม่รู้ความจริงของโลกทั้ง ๖ ทางนี้ ก็ไม่มีทางจะสงบได้ แต่ถ้ามีปัญญาเกิดขึ้นทีละเล็กทีละน้อย ก็จะทำให้เข้าใจโลกถูกต้องขึ้นว่า สิ่งใดเป็นประโยชน์ที่แท้จริง และสิ่งใดยังไม่ใช่ประโยชน์ที่แท้จริง
เพราะฉะนั้นประโยชน์จริงๆ ก็คือ แต่ละคนแก้ไขตัวเอง แล้วในขณะเดียวกันก็ช่วยเหลือเกื้อกูลให้คนอื่นได้หนทางวิธีที่จะแก้ไขตัวเองด้วย ถ้าสามารถจะเป็นไปได้ แต่ถ้าไม่มีการรู้จักตัวเอง และไม่มีการแก้ตัวเอง ก็แก้สังคมไม่ได้
ฟังเพิ่มเติม โสภณธรรม ครั้งที่ 137


