ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมคืออย่างไร

ผู้ฟัง และที่ว่า ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม แค่ไหนที่เรียกว่าปฏิบัติ
ท่านอาจารย์ ตั้งแต่ขั้นต้น คือ ความเป็นผู้ว่าง่าย ความเป็นผู้อดทน ตลอดไปจนกระทั่งการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม คือ การเจริญสติปัฏฐาน อบรมเจริญปัญญาตามข้อประพฤติปฏิบัติที่ถูก
ผู้ฟัง คือน้อมปฏิบัติตามธรรมที่ได้ฟัง ที่ได้เรียน ที่ได้จำมา ที่ได้ใคร่ครวญแล้วนั้น
ท่านอาจารย์ เพราะเหตุว่า ประโยชน์ของการฟังพระธรรมให้เข้าใจ เพื่อการปฏิบัติตาม นี่สำคัญที่สุด และไม่ใช่แต่เฉพาะในขั้นของการเจริญสติปัฏฐานเท่านั้น ทุกขั้น ไม่ว่าจะทรงแสดงเรื่องของความไม่โกรธ ทุกคนที่ยังโกรธอยู่ คิดยังไง ยังจะเป็นผู้ว่ายาก คือว่าอยากจะโกรธต่อไปอีก หรือว่าเป็นผู้น้อมไปที่จะไม่โกรธ เพราะเหตุว่าจะไม่โกรธทันที เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่แม้กระนั้นพระธรรมที่ได้ฟังก็ทำให้จิตอ่อนโยน แล้วก็มีศรัทธาที่จะน้อมไปที่จะประพฤติปฏิบัติตาม ที่ใช้คำว่า “น้อมประพฤติปฏิบัติตาม” เพราะเหตุว่าทุกคนยังปฏิบัติตามทันทีไม่ได้ตรงตามที่ได้เข้าใจ เช่นเข้าใจว่า โลภะไม่ดี โทสะไม่ดี โมหะไม่ดี แต่ว่าใครจะละโลภะ โทสะ โมหะ ได้ในเมื่อปัญญายังไม่เจริญขึ้นถึงขั้นที่จะละได้
เพราะฉะนั้นทุกคนฟังพระธรรมเพื่อเข้าใจในเหตุในผล อกุศลเป็นอกุศล เป็นโทษ กุศลเป็นกุศล ไม่เป็นโทษ ถ้าเข้าใจอย่างนี้แล้วก็น้อมไปที่จะละอกุศล และเจริญกุศลยิ่งขึ้น ไม่ใช่ยังเป็นผู้ที่แข็งกระด้าง ว่ายาก ไม่ว่าพระธรรมจะว่าอย่างไร แต่ใจยังต้องการที่จะเป็นอกุศลต่อไปอีก ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะไม่ได้รับประโยชน์จากการฟังพระธรรม เพราะฉะนั้นผู้ที่ประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรมก็ตั้งแต่ในขั้นต้นจนถึงขั้นสุดท้าย คือ ปฏิบัติธรรมในขั้นที่ทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้
ถ้าไม่เข้าใจแล้ว จะทำให้ปฏิบัติธรรมที่ทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมก็ไม่ได้ ถ้ายังเป็นผู้ที่ว่ายาก ไม่อดทน มักโกรธ ก็ไม่สามารถที่จะเห็นประโยชน์ของการเป็นผู้ว่าง่าย อดทน และน้อมไปที่จะเจริญกุศลยิ่งขึ้น


