พระตถาคตแสดงลักษณะ ๓ ตรัสธรรมจำแนกสัจจะ ๔ พร้อมด้วยอาการ ๑๖
เวลาที่พระตถาคตเสด็จไปสิ้นทาง ๑๘ โยชน์ ทรงทำภิกษุปัญจวัคคีย์ให้เข้าใจแล้ว
คัดจาก อรรถกถา อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต ปฐมปัณณาสก์ จักกวรรคที่ ๔๓. สีหสูตร อรรถกถาสีหสูตรที่ ๓ประทับนั่งเหนืออจลบัลลังก์ขัดสมาธิ อันหมู่เทพได้ประชุมพร้อมกัน หมื่นจักรวาลห้อมล้อมแล้วจึงประกาศพระธรรมจักร โดยนัยเป็นอาทิว่า อันตะส่วนสุด ๒ นี้ อันนักบวชไม่ควรเสพดังนี้ พึงทราบเหมือนเวลาราชสีห์แผดสีหนาท.
ก็แลเมื่อตถาคตทรงแสดงพระธรรมจักรนี้ เสียงอุโฆษแห่งธรรมของราชสีห์คือพระตถาคต ก็ปกคลุมหมื่นโลกธาตุเบื้องต่ำถึงอเวจี เบื้องบนจดภวัคคพรหม. เวลาเมื่อพระตถาคตแสดงลักษณะ ๓ ตรัสธรรมจำแนกสัจจะ ๔ พร้อมด้วยอาการ ๑๖ จนถึงพันนัย
ทำไม ท่านอรรถกถาจารย์ (พุทธโฆสะ) สัจจะ ๔ พร้อมด้วยอาการ ๑๖ เพราะทั่วไปจะเห็นเขึยน สัจจะ ๔ พร้อมด้วยอาการ ๑๒ หรือ มีทั้งหมุน สัจจะ ๔ พร้อมด้วยอาการ ๑๖ กับ สัจจะ ๔ พร้อมด้วยอาการ ๑๒ ไปด้วยกันในพระธัมจักรกัปวัตณสูตร อาจารย์
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
อาการ ๑๖ จะแสดงถึงการแทงตลอดในความเป็นจริงของสัจจะทั้ง ๔ แต่ละสัจจะๆ มีความเป็นจริง ๔ อย่าง ตามข้อความใน [เล่มที่ 69] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม 7 ภาค 2 - หน้า ๔๘๘ ดังนี้
สัจจะ ๔ มีการแทงตลอดด้วยญาณเดียวด้วยความเป็นของแท้ ด้วยอาการ ๑๖ คือ สภาพแห่งทุกข์ เป็นสภาพบีบคั้น ๑ เป็นสภาพที่ปัจจัยปรุงแต่ง ๑ เป็นสภาพให้เดือดร้อน ๑ เป็นสภาพแปรปรวน ๑ เป็นสภาพแท้ สภาพแห่งสมุทัยเป็นสภาพประมวลมา ๑ เป็นเหตุ ๑ เป็นเครื่องประกอบไว้ ๑ เป็นสภาพกังวล ๑ เป็นสภาพแท้ สภาพแห่งนิโรธ เป็นที่สลัดออก ๑ เป็นสภาพสงัด ๑ เป็นสภาพที่ปัจจัยไม่ปรุงแต่ง ๑ เป็นอมตะ ๑ เป็นสภาพแท้ สภาพแห่งมรรค เป็นเครื่องนำออก ๑ เป็นเหตุ ๑ เป็นทัศนะ ๑ เป็นใหญ่ ๑ เป็นสภาพแท้ สัจจะ ๔ ท่านสงเคราะห์ด้วยญาณเดียว ด้วยความเป็นของแท้ ด้วยอาการ ๑๖ นี้ สัจจะใดท่านสงเคราะห์เป็นหนึ่ง สัจจะนั้นเป็นหนึ่ง บุคคลย่อมแทงตลอดสัจจะหนึ่งด้วยญาณเดียว เพราะเหตุนั้น สัจจะ ๔ จึงมีการแทงตลอด ด้วยญาณเดียว.
... ยินดีในกุศลของคุณ preechacupr และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...

