ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ๑๗-๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  19 มิ.ย. 2568
หมายเลข  50215
อ่าน  1,965

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

วันอังคารที่ ๑๗ ถึง วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ รองศาสตราจารย์สมเจตน์ ดวงพิทักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย กราบเรียนเชิญท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา และคณะอาจารย์จากมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ผู้ช่วยศาสตราจารย์อรรณพ หอมจันทร์ กรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา อาจารย์กุลวิไล สุทธิลักษณวนิช อาจารย์ธีรพันธ์ ครองยุทธ อาจารย์วิชัย เฟื่องฟูนวกิจ อาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย และ อาจารย์ธนากร นรวชิรโยธิน เพื่อไปสนทนาธรรมที่ หอประชุมขุมทองวิไล มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย

ข้อความบางตอนจากการสนทนาธรรม เมื่อวันอังคารที่ ๑๗ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘

รองศาสตราจารย์สมเจตน์ ดวงพิทักษ์ : ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เรียนคณะวิทยากร จาก มศพ. สหายธรรมที่เคารพทุกท่าน และบุคคลากร พิเศษสุดนะครับ น้องนักศึกษา ที่จะมีโอกาสได้ฟังอะไร ที่ไม่เคยได้ฟัง ไม่เคยได้ยิน ผม รองศาสตราจารย์สมเจตน์ ดวงพิทักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ในนามมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ขอต้อนรับทุกท่าน ด้วยความยินดียิ่ง

วันนี้มาถึง วันนี้อยากให้เกิด ณ ผืนแผ่นดินแห่งนี้ ได้เกิดขึ้นจริงๆ กับความตั้งใจที่อยากให้พวกเราทุกคน ได้มีโอกาสฟังอะไรสักอย่างหนึ่ง ที่เป็นที่พึ่งที่แท้จริง ดังหัวข้อที่คิดมาวันนี้ "อะไรคือที่พึ่งที่แท้จริง" อยากให้พวกเราจดจำมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย ซึ่งปีนี้จะมีอายุครบ ๕๒ ปี

ผมเอง อยากเล่าความรู้สึกนิดหนึ่ง ถึงที่มาที่ไป เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๗ ก็มีโอกาสได้ฟังท่านอาจารย์สุจินต์ ผ่านทางยูทูป ก็..ทำไม? อะไร? ทำไมไม่เข้าใจและไม่เข้าใจ แล้วก็ฟังด้วยความอดทน ฟังด้วยความเคารพ ฟังด้วยพระมหากรุณาธิคุณ ฟังด้วยปัญญาธิคุณ บริสุทธิคุณ ต่างๆ

พอได้ฟังท่านอาจารย์สุจินต์ ก็ได้พบว่า อ้อ..มันต้องมีความอดทนที่จะรับฟัง แล้วก็หลังจากพฤศจิกายน ถึงตอนนี้ ก็เวลาไม่ถึงปีนะครับ แต่ว่า พบว่าชีวิตเปลี่ยน ดำรงชีวิตที่อยู่จริงๆ ด้วยความเข้าใจ ซึ่งพี่ๆ น้องๆ สหายธรรมที่มาวันนี้ ก็ทุกคนที่ผมได้ติดตาม ทุกคนก็ติดตามอาจารย์ ผมเข้าใจเลยว่าทำไม ได้คำตอบ การฟังแต่ละครั้ง ก็จะได้ข้อคิดกลับไปพิจารณา ใคร่ครวญตรึกตรอง

เมื่อกลางวันรับประทานอาหารกับอาจารย์ ก็ได้แลกเปลี่ยนกับอาจารย์ ก็ได้ยิ่งค้นอะไรบางสิ่งบางอย่าง ที่เรายังไม่รู้อีกเยอะแยะมากมาย ไม่รู้ว่าไม่รู้อะไร แล้วก็ไม่รู้ ไม่รู้เยอะแยะมากมายตลอดชีวิต ปีนี้ ๖๑ ปี กับการเป็นอธิการบดีอีก ๒ เดือนเศษ จะครบวาระ ๔ ปี ซึ่งก็ครั้งหนึ่ง อาจารย์สุจินต์ต้องมาที่นี่ ก็เลยเป็นวันนี้จริงๆ ก็ให้พวกเราทุกคนนะครับ สำหรับบุคคลที่เข้าใจอยู่แล้ว ก็จะได้เพิ่มความเข้าใจมากขึ้น

ก็ยินดีในกุศลที่จะเกิดสำหรับบุคคลากร และนักศึกษา หรือประชาชนคนทั่วไป ที่ยังไม่มีโอกาสได้รับฟังอาจารย์ ฟังอย่างใส่ใจนะครับ อันนี้ก็เป็นสมบัติหนึ่งที่จะเป็นประโยขน์สูงสุด ถ้าเราฟังด้วยความใส่ใจ มันก็จะเก็บไปพิจารณาไตร่ตรอง ก็ขอขอบคุณทางท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ คณะวิทยากร สหายธรรม และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดในวันนี้ ที่ทำให้มีวันนี้เกิดขึ้น..

ท่านอาจารย์ : วันนี้ก็ขอเป็นการสนทนา เพื่อที่จะได้มีความสบายใจ ไม่ได้มีความทุกข์เดือดร้อนอะไร เพราะเหตุว่าเป็นการสนทนาธรรม ถ้าคุยเรื่องอื่น สนทนาเรื่องอื่น ก็จะมีปัญหามากมาย แต่ถ้าเป็นการสนทนาธรรม ได้ยินคำว่า "ธรรมะ" และเราไม่ได้สนทนาเรื่องอื่น ที่จะเป็นเรื่องเดือดร้อนใจ แต่เป็นเรื่องที่จะต้องเบาสบาย

แต่ไม่ทราบนะคะ เพราะว่าหลายคน พอได้ยินคำว่าธรรมะ ก็รู้สึกว่าจะเป็นสิ่งที่ยาก ลึกซึ้ง ไม่สนใจ ชาตินี้คงไม่มีโอกาสจะเข้าใจแล้วหรืออะไร เป็นต้น ก็เลยห่างไกล บางคนก็หนีไปเลย!! จากธรรมะ ได้ยินบางคำก็รู้สึกว่ายากแล้ว แต่ว่าทุกคำเป็นภาษาไทย น่าอัศจรรย์ ภาษาธรรมดา ถ้าไม่ไตร่ตรอง จะไม่สามารถเข้าใจแม้คำธรรมดาที่พูดกันทุกวัน

เพราะฉะนั้น วันนี้ตรงประเด็น "อะไรคือที่พึ่งที่แท้จริง" คิดจะพึ่งอะไรใครหรือเปล่า? เห็นไหม? คิดจะพึ่งอะไรใครหรือเปล่า!! แล้วทำไมมาคิดถึงคำว่า อะไรคือที่พึ่งที่แท้จริง!!

สนทนาธรรมคือการไตร่ตรอง คำถาม หรือคำ หรือปัญหา เพราะฉะนั้น ทุกคนน่าคิด อะไรคือที่พึ่งที่แท้จริง? ส่วนใหญ่มักจะฟังคำอธิบายคำตอบ มากกว่าที่จะคิดเองเวลาที่มีคำถาม แต่ว่าคำถามทุกคำถาม ถ้าจะให้ใครตอบ ก็เป็นความเข้าใจของคนนั้นเอง แต่ถ้าไตร่ตรอง จนกระทั่งเป็นความเข้าใจของตนเอง ไม่ใช่คำของคนอื่น จะดีกว่าไหม?

นี่คือประโยชน์ว่า ฟังทำไม? ไม่ใช่ฟังเพียงจำ ตามคนอื่น!! แต่ฟังแล้วไตร่ตรอง จนกระทั่งเป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น อะไรคือที่พึ่งที่แท้จริง? คิดนิดหนึ่ง มีใครจะตอบไหม? อะไรคือที่พึ่งที่แท้จริง?

ผู้ฟัง : ในพระพุทธพจน์ ระบุไว้ชัดเจน ที่พึ่งที่แท้จริงก็คือ "อัตตาหิ อัตโน นาโถ" ตนเป็นที่พึ่งของตน

ท่านอาจารย์ : ค่ะ หนึ่งคำตอบแล้ว "ตนเป็นที่พึ่งของตน" ถ้าเป็นคนที่ถาม ก็จะถามไม่หยุดเลย แล้ว "ตน" คืออะไร? และ "ที่พึ่ง" คืออะไร? เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ฟังคำตอบแล้วพอใจ รับรอง แต่ถ้าถามต่อไป แล้ว "ตน" คืออะไร? และ "ที่พึ่ง" คืออะไร? เห็นไหม? เรื่องก็จะต้องยาวต่อไปอีกไม่รู้จบ เพราะ "ตน" คืออะไร? และ "ที่พึ่ง" คืออะไร?

โดยมากได้ฟังคำไหน เราคิดว่าเราเข้าใจแล้ว!! จบแล้ว!! พอแล้ว!! แต่ถ้ามีคนถามว่า แล้ว "ตน" คืออะไรล่ะ? และตนเป็นที่พึ่งได้อย่างไรล่ะ? ถ้ายังไม่รู้จัก "ตน" จะมีตนเป็นที่พึ่งได้ไหม? ถ้ามีคนช่างถาม ก็จะถามละเอียด เพื่อที่จะเข้าใจ ทั้งหมด ถึงที่สุด ของคำถาม!! มีท่านผู้อื่นจะตอบอีกไหม หนึ่งแล้ว ตนเป็นที่พึ่งของตน แต่ต้องรู้ว่าตนคืออะไร? ไม่อย่างนั้นเป็นที่พึ่งไม่ได้แน่นอน และ ที่พึ่งคืออะไรด้วย!!

ถ้าจะตอบ ก็ควรที่จะช่วยกันพิจารณาว่าถูกต้องไหม? "ที่พึ่งที่แท้จริง คือ ความเข้าใจความจริง" สั้นๆ น่าคิดไหม? ที่พึ่งที่แท้จริง คือ การเข้าใจความจริง!! หมายความว่าอะไร? เห็นไหม? ที่พึ่งที่แท้จริง คือ ความเข้าใจความจริง ของสิ่งที่มีจริง ค่อยๆ เพิ่มทีละคำ ที่พึ่ง ที่แท้จริง คือ ความเข้าใจความจริง ของสิ่งที่มีจริง คิดออกไหม?

คำตอบ ไม่ใช่เฉพาะวันนี้ แต่..ตลอดไปในสังสารวัฏ ยาวนานมากจนกว่าจะรู้ความจริงว่า อะไรคือ "รู้" ความจริง ของสิ่งที่มีจริง!! ความรู้คือความเห็นถูก ความเข้าใจถูก รู้ความจริงของสิ่งที่มีจริง ต้อง "เริ่มคิดตั้งแต่ต้น" เลย แล้วจะรู้ว่า ทุกคำ เป็นคำของใคร

ขณะนี้ มีอะไรที่มีจริงไหม? นี่คือ สนทนาธรรม ไม่ใช่เรื่องอื่นที่ยากเย็น ต้องไปค้นคว้าที่ไหนเลย แต่ว่า เพียงฟังคำที่ดูเหมือนง่าย เข้าใจกันในภาษาไทย ตรงไปตรงมา เดี๋ยวนี้ มีอะไรจริงหรือเปล่า? จะได้รู้ความจริง ของสิ่งที่มีจริง เมื่อรู้ความจริง การรู้ความจริงนั้นแหละเป็นที่พึ่ง!! เพราะไม่เคยรู้ความจริงมาก่อน!! เป็นความไม่รู้!! เพราะฉะนั้น ความไม่รู้ความจริง จะเป็นที่พึ่งไม่ได้!! เพราะไม่รู้!!

พราะฉะนั้น ก่อนอื่น ต้องรู้ว่า อะไรจริง!! เดี๋ยวนี้มีอะไรจริงไหม? ถ้าไม่รู้ว่าอะไรจริง ที่เราจะพูดถึงว่า การรู้ความจริงนั่นแหละ เป็นที่พึ่งที่แท้จริง ก็ไร้ประโยชน์ เพราะยังไม่รู้ว่า เดี๋ยวนี้ อะไรจริง!!

คิดว่าจะต้องพูดเรื่องอะไร คำยากๆ ๆ ในพระไตรปิฎกหรือเปล่า? ใช้คำว่าคำยากๆ ในพระไตรปิฎก แสดงว่า แม้แต่คำง่ายๆ ยังไม่รู้!! แล้วจะไปรู้คำยากๆ ในพระไตรปิฎก ได้ไหม? แต่ถ้าเริ่มมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ในเบื้องต้น ก็จะมีความเข้าใจละเอียดขึ้น!! เพิ่มขึ้น!! ตรงขึ้น!! จนกระทั่ง มีที่พึ่งที่แท้จริง คือ เข้าใจความจริง ของสิ่งที่มีจริง!! ถ้าไม่สนทนาเรื่องนี้ จะไม่ใช่การสนทนาธรรม!!

กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลของ รองศาสตราจารย์สมเจตน์ ดวงพิทักษ์ และทุกๆ ท่าน


: ขอขอบคุณภาพทั้งหมดจาก คุณนภา จันทรางศุ

ขอเชิญติดตามการเดินทางมาสนทนาธรรมครั้งแรกที่จังหวัดเลย ของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :

- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย ๑๐ - ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖


ขอเชิญติดตามบันทึกการสนทนาธรรมในครั้งนี้ ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
swanjariya
วันที่ 20 มิ.ย. 2568

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 20 มิ.ย. 2568

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
namarupa
วันที่ 20 มิ.ย. 2568

กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
สิริพรรณ
วันที่ 20 มิ.ย. 2568

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ขอบพระคุณยินดีในกุศลจิตธรรมทานค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nattawan
วันที่ 20 มิ.ย. 2568

ยินดีในกุศลจิตของทุกท่านค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ