ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ โรงเรียนสนามชัยเขต อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ๔ - ๕ มิถุนายน ๒๕๖๘
วันที่ ๔ - ๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ประธานกรรมการมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา และ อาจารย์มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ อรรณพ หอมจันทร์ อาจารย์กุลวิไล สุทธิลักษณวนิช อาจารย์ธีรพันธ์ ครองยุทธ อาจารย์วิชัย เฟื่องฟูนวกิจ อาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย และ อาจารย์ธนากร นรวชิรโยธิน ได้รับเชิญจาก อาจารย์ดวงรัตน์ ชิตเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนสนามชัยเขต สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ ๑๖๖ เพื่อไปสนทนาธรรมที่ โรงเรียนสนามชัยเขต อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา
ข้อความบางตอนจากการสนทนา :
ผอ.ดวงรัตน์ ชิตเจริญ : กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเตต์ ประธานมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา และอาจารย์วิทยากรของมูลนิธิฯ ที่เคารพทุกท่าน และผู้เข้าร่วมสนทนา "ความจริง ของสิ่งที่มีจริง ขณะนี้" ดิฉัน นางดวงรัตน์ ชิตเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนสนามชัยเขต และ บุคลากรทางการศึกษา ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ฉะเชิงเทรา นำโดย ดร.วงศกร ประกอบนันท์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา และท่านรองฯ วีระพล ชัยสิทธิ์ และ ผู้อำนวยการสถานศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาฉะเชิงเทรา เขต ๒ นำโดย นายนิติศาสตร์ พรมแสงใส ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ฉะเชิงเทรา เขต ๒ ผู้นำชุมชน ผู้ปกครอง และ นักเรียน รวมทั้งผู้ที่กำลังศึกษาธรรม ตรง และ ตามคำสอน ถึงสิ่งที่มีจริง ขณะนี้!!
และขอขอบพระคุณทุกคณะที่ร่วมเจริญกุศลในการจัดสนทนาธรรม มีการเผยแพร่ไปในทุก ช่องทางการสื่อสาร ทั้งเมืองไทยและต่างประเทศ ขอได้รับความขอบพระคุณจากโรงเรียนสนามชัยเขต เป็นอย่างสูง และดิฉันได้รับมอบหมายให้ดำเนินรายการสนทนา ในหัวข้อ "ความจริง ของสิ่งที่มีจริง ขณะนี้" หากท่านใดมีความประสงค์จะร่วมสนทนา ขอเรียนเชิญที่โต๊ะที่มีไมโครโฟนด้านหน้า ก่อนอื่น ขอกราบเท้าเรียนท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ถึงความจริง ของสิ่งที่มีจริง ขณะนี้ ค่ะ
ท่านอาจารย์ : ความจริง ของสิ่งที่มีจริง คงเป็นเรื่องยาวมาก ตลอดชีวิต มีสิ่งที่มีจริง แต่ว่า "ความจริงของสิ่งที่มีจริง" รู้แล้วหรือยัง? ถ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงตรัสรู้ จะไม่มีใครรู้เลย ว่า เดี๋ยวนี้ สิ่งที่มีจริง "ความจริงของแต่ละสิ่ง" ที่มีจริงนั้น คืออะไร
เพราะฉะนั้น ก็ขอเชิญทุกท่าน ร่วมสนทนา เพื่อที่จะได้รู้คุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มิฉะนั้น จะไม่มีใครสามารถรู้ความจริง ของสิ่งที่กำลังมีจริงเดี๋ยวนี้ได้เลย ขอเชิญค่ะ
ว่าที่ ร้อยตรี เกชา กลิ่นเพ็ง : เรียนท่านวิทยากรที่เคารพ ความจริงของสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ ก็เลยย้อนไปนึกถึงว่า ชาติหน้า มีจริงไหม? ทีนี้ ถ้าถามว่า ชาติหน้ามีจริงไหม? ผมก็จะย้อนตัวผมเองว่า เมื่อวานนี้มีไหม เมื่อวานก็ผ่านมาแล้ว มีจริง แต่สิ่งที่ไปข้างหน้ามีจริงไหม เรายังไม่รู้ แต่ถามว่าเมื่อวานมีไหม? เมื่อวานนี้มี เพราะมันผ่านมาแล้ว คือสิ่งที่มีจริงคือว่า เมื่อวานนี้ เป็นเรื่องจริงๆ แต่ว่า พรุ่งนี้ ก็จะเป็นคำถามว่า แล้วชาติหน้า มีอยู่จริงไหม? ก็ขอแลกเปลี่ยนกับท่านวิทยากร ขอความเมตตา ขอความรู้ตรงนี้
ท่านอาจารย์ : ชา-ติ คือ การเกิด ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมีอะไรไหม? ค่อยๆ คิด ให้ละเอียดขึ้น การเกิดขณะนี้ เดี๋ยวนี้ เมื่อวานนี้มี จึงมีวันนี้ ใช่ไหม? เมื่อวานนี้ก็ไม่รู้ว่าจะมีวันนี้แน่นอน อาจจะมีหรือไม่มีวันนี้ สำหรับคนที่เป็นคนอยู่เมื่อวานนี้ก็ได้ เพราะฉะนั้น เดี๋ยวนี้ คือ เมื่อวานนี้ ของ พรุ่งนี้!! ใช่ไหม? มีจริงไหม? เมื่อวานนี้มี "เห็น" ไม่รู้เลยว่า วันนี้ คือ พรุ่งนี้ของเมื่อวานนี้ จะเห็นอย่างนี้
ว่าที่ ร้อยตรี เกชา กลิ่นเพ็ง : วันนี้ก็คือ มีจริง เมื่อวานนี้มีจริง
ท่านอาจารย์ : เหมือนเมื่อวานนี้มีจริง จึงมีวันนี้ เพราะฉะนั้น วันนี้ มีจริง ก็จะเป็น เมื่อวานนี้ของพรุ่งนี้
ว่าที่ ร้อยตรี เกชา กลิ่นเพ็ง : วันนี้คือ เมื่อวานนี้ของพรุ่งนี้ โอเคครับ ขอบพระคุณครับ
วีระพล ไชยสิทธิ์ : กราบเรียนท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และวิทยากรที่เคารพทุกท่าน วันนี้ ท่าน ดร.วงศกร ประกอบนันท์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ฉะเชิงเทรา ได้มอบหมายให้ผม วีระพล ไชยสิทธิ์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย ท่านศึกษานิเทศก์ปัญญา คลังมนตรี ท่านศึกษานิเทศก์ศิริพร เจิมภักดี และท่านที่ได้นำเรียนสนทนาธรรมเมื่อสักครู่ ท่าน ว่าที่ ร้อยตรี เกชา กลิ่นเพ็ง ประธานสหวิทยาเขตแก้วโกวิท ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโสธรวรารามวรวิหาร แล้วก็ยังมีท่านประธานสหวิทยาเขตอื่นๆ โดยเฉพาะ สหวิทยาเขตพนมสารคาม พนมอดุลวิทยา ท่านก็จะมาร่วมด้วย พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร
มาวันนี้ ได้สนทนาธรรม ความจริงของสิ่งที่มีจริงขณะนี้ โดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ซึ่งผมก็ได้ ติดตามทางยูทูปของท่าน ได้เห็นการนำเสนอถึงพระพุทธศาสนา ผ่านทางท่านผู้มีความรู้ แล้วก็ได้ถ่ายทอดคุณธรรม จริยธรรม ผ่านทางช่องยูทูป ซึ่งเป็นคุณงามความดีที่พวกเราชาวพุทธศาสนิกชนได้เข้าไปชม แล้วก็ได้ความกระจ่างหลายเรื่อง
วันนี้ ความจริงของสิ่งที่มีจริงขณะนี้ ก็นำเรียนว่า ในเรื่องของการบริหารการศึกษา บริหารสถานศึกษา บริหารการศึกษาอยู่ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยท่านผู้อำนวยการสำนักงานเขต รองผู้อำนวยการสำนักงานเขต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ในสำนักงาน ก็จะส่งต่อถึง ผู้อำนวยการสถานศึกษา โดยประธานสหวิทยาเขตของเรามี ๔ สหวิทยาเขต ด้วยกัน ๑๑ อำเภอ ๔ สหวิทยาเขต ๒๘ โรงเรียนมัธยม ซึ่งมีโรงเรียนขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ขนาดใหญ่พิเศษ เป็นโรงเรียนที่มีนักเรียนโตแล้ว แต่ก็ยังจะต้องมีที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
ล่าสุดนั้น ยังมีนักเรียนที่เสียชีวิตจากการเล่นการพนันออนไลน์ แล้วก็ทะเลาะกับผู้ปกครอง จากนั้นนักเรียนก็ทำใจไม่ได้ ไปเอาปืนปู่มายิงตัวเองเสียชีวิต ซึ่งภาคบ่ายนี้พวกผมก็จะได้ไปร่วมงานศพด้วย เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง เป็นลูกหัวแก้วหัวแหวนของคุณพ่อคุณแม่ แต่จะต้องมาเสียชีวิต เพราะการที่มีเรื่องของการเสพที่เป็นเทคโนโลยีที่เราไม่รู้เท่าทัน แล้วก็เกิดเหตุ ที่นักเรียนไม่มีภูมิคุ้มกัน แล้วก็ต้องมาเสียชีวิต เพราะเรื่องที่เราขาดความรู้ นักเรียนขาดความรู้ และผู้ปกครองก็ไม่เข้าใจ
สิ่งที่อยากจะได้รับจากท่านอาจารย์ผู้มีความรู้ จะได้เมตตาในครั้งนี้ ก็คือ ทำอย่างไร? นักเรียนถึงจะอยู่ในความจริง ทำอย่างไร คุณครู ผู้บริหาร ถึงจะมีแนวทางในการที่ช่วยให้เขาอยู่ในปัจจุบันให้ได้ แล้วก็มี "ภูมิคุ้มกัน" ช่วยให้เราผ่านพ้น วิกฤติ ในแต่ละวัน แต่ละวัน ไปได้
เพราะว่า ทุกวันนี้ บุหรี่ไฟฟ้า การทะเลาะวิวาท เกิดจากการ บูลลี่ กันในห้องเรียนก็มี สิ่งที่เป็นภัยเงียบ จากการเสพเทคโนโลยี การพนันออนไลน์ เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งที่นักเรียนเราไม่มี "ภูมิคุ้มกัน" ทั้งสิ้น จึงอยากจะให้อาจารย์ได้ชี้นำแนวทางในการที่เราจะบริหารสถานศึกษา บริหารในเรื่องของการจัดการให้นักเรียนได้รู้ตัวตนของตนเอง รู้ความจริงและอยู่ในปัจจุบันให้ได้ ครับอาจารย์ครับ
ท่านอาจารย์ : ภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด มีไหม? หรือเพียงคิดว่า เป็นภูมิคุ้มกัน เพราะเหตุว่า "ภูมิคุ้มกัน" คือ คุ้มกันความเสียใจ ความโศกเศร้า ทุกอย่างที่ไม่น่าปรารถนา ซึ่งเกิดขึ้นแน่นอน!! ตามเหตุ ตามปัจจัย ทุกอย่าง ไม่ได้เป็นไปตามที่หวัง!!
เพราะฉะนั้น จะมี ภูมิคุ้มกันอะไร? ที่จะทำให้มั่นคง ว่า สามารถจะคุ้มกันได้ทุกเหตุการณ์ ไม่ว่าเรื่องของเด็ก เรื่องของผู้ใหญ่ เรื่องของประเทศไหน ประชาชน แล้วแต่ กำลังดำเนินการอะไรกันอยู่
เพราะฉะนั้น รู้จักภูมิคุ้มกันที่แน่นอน ที่มั่นคง หรือยัง? เ พราะเหตุว่า ถ้าเป็นคนอื่น ที่ไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า "ภูมิคุ้มกัน" ก็เพียงชั่วคราว!! ชั่วขณะ!! แต่ว่า อย่างไรๆ ก็ตาม เด็กก็จะต้องโต จนกระทั่งเป็นผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้น แม้ผู้ใหญ่เอง มีภูมิคุ้มกันแล้วหรือยัง?
เพราะฉะนั้น ภูมิคุ้มกันจากความโศกเศร้าเสียใจ จากความผิดหวัง จากการที่ว่า หวังว่าประเทศชาติจะดี เด็กจะดี คนในประเทศชาติจะสุจริต ทุกอย่าง หวังหมด!! แต่..ไม่มีอะไรที่จะให้เป็นอย่างนั้น!! เพราะเหตุการณ์ต่างๆ ก็เกิดขึ้น โดยใครก็บังคับบัญชาไม่ได้!! ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายอย่างไร สมควรไหม? ที่จะเศร้าโศก ลองคิดดู!! เสียเวลาไหม? กับสิ่งที่ล่วงแล้ว!!
แต่ว่า ที่เป็นประโยชน์ที่สุด คือ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป สามารถที่จะดีขึ้น และสิ่งที่จะนำมาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจ ที่ไม่สมควรจะเกิด ซึ่งได้เกิดแล้ว ก็จะได้น้อยลง
เพราะฉะนั้น "ภูมิคุ้มกัน" คุ้มกันตลอดไป ทุกวัย ทุกสถานการณ์ แต่ว่า คุ้มกันอะไร? เห็นไหม? ทุกคนหาสิ่งคุ้มกันต่างๆ แต่สิ่งที่คุ้มกันมั่นคง คือ คุ้มกันจิตใจ ไม่ให้หวั่นไหวไปตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดีกว่าไหม? เพราะว่าเราบังคับบัญชาโลกไม่ได้ บังคับบัญชาเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ได้ เกิดแล้ว!! แล้วทุกคนก็หวั่นไหว ก็หาทางคุ้มกัน!!
แต่ลืมว่า "คุ้มกันจิต" ไม่หวั่นไหว เป็นหนทางเดียว!! ไม่ใช่คุ้มกันอื่น แล้วจะคุ้ม จะป้องกัน ไม่ให้จิตที่ไม่ดีเกิดขึ้นได้อย่างไร ไม่ใช่ว่า ปล่อยให้ทุจริตมากมาย แล้วก็มาหวั่นไหว แต่ไม่รู้ว่า คุ้มกันจิตไม่ให้เป็นอกุศล ถึงกับทำทุจริต!!
ทั้งหมด เป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นที่พึ่งสูงสุด ซึ่งคนมองไม่เห็น มีแต่ถามคนโน้น ถามคนนี้ คนโน้น คนนี้ จะมีวิธีคุ้มกันไหม แล้วทำไมลืม ผู้ที่เป็นที่พึ่ง คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พึ่งให้รู้ความจริง!!
เพราะว่า แม้แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว จะกลับมาอีกไม่ได้เลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นสิ่งที่ดี หรือสิ่งที่ไม่ดี ถ้าเป็นสิ่งที่ดี ก็สะสมที่จะให้มีสิ่งที่ดีเกิดต่อไปข้างหน้า ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ดี ก็ปล่อยให้เป็นสิ่งที่ไม่ดี เพราะฉะนั้น สิ่งที่ไม่ดี ก็จะต้องเกิดอีกต่อไป
เพราะฉะนั้น ความที่เป็นประโยชน์สูงสุดในชีวิต คือ รู้ว่า "ภูมิคุ้มกัน" มาจากไหน? และจะคุ้มกันได้ทุกขณะ ทั้งในชาตินี้ และชาติต่อๆ ไปด้วย เป็นประโยชน์มากไหม? ภูมิคุ้มกันนี้!!
วีระพล ไชยสิทธิ์ : ครับ ขอบพระคุณครับท่านอาจารย์ครับ ก็คือ ภูมิคุ้มกันนี้ เราจะต้องเป็นภูมิคุ้มกันที่อยู่ที่ใจของทุกคน โดยเฉพาะท่านที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ก็จะต้องรู้วิธีการที่จะสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจให้กับคนอื่น ซึ่งจะยั่งยืน แล้วก็นักเรียนก็เช่นเดียวกัน ถ้าหากว่าท่านที่เป็นคุณครู ท่านที่เป็นผู้บริหาร มีภูมิคุ้มกันทางจิตใจแล้ว ก็จะเป็นแบบอย่างให้กับนักเรียนด้วย แล้วก็จะสามารถที่จะอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างมีความสุขต่อไป ขอบพระคุณครับ
ท่านอาจารย์ : ค่ะ แล้วเราจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นเอง ได้ไหม?
วีระพล ไชยสิทธิ์ : ภูมิคุ้มกัน สามารถสร้างด้วยตัวเองได้ครับ แล้วก็สามารถที่จะได้รับจากบุคคลรอบข้างได้ด้วยเช่นเดียวกันครับ
ท่านอาจารย์ : เพราะเหตุว่า ยังไม่ได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงคิดว่า เราทำได้!! แต่ว่า เราเป็นใคร? พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นใคร? เพราะฉะนั้น "ภูมิคุ้มกัน" ที่ "เราคิดเอง" นี่ จะเทียบเท่ากับภูมิคุ้มกันของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ไหม?
วีระพล ไชยสิทธิ์ : ไม่ได้!!
ท่านอาจารย์ : ค่ะ นี่เป็นเหตุที่เราละเลย ไม่พยายามที่จะรู้ ให้เข้าใจถูกต้อง ว่า การพึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงๆ นั้น พึ่งอย่างไร? มีเหตุการณ์เกิดขึ้น เราคิดถึงคนอื่น!! ไปพึ่งคนอื่น!! แต่ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้เป็นที่พึ่ง!!
แต่ถ้ารู้จักพระองค์ ในพระคุณสูงสุด ในพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ พระมหากรุณาคุณ ทรงแสดงธรรมนานเท่าไหร่ เพื่อใคร? ไม่มีใครฟังเลย แล้วจะมีประโยชน์อย่างไร? แต่ว่า ทุกคำของพระองค์ มีค่าประมาณไม่ได้เลย ทุกคำ ตั้งแต่คำแรกเบื้องต้น จนถึงสูงที่สุด คือการรู้แจ้ง ประจักษ์แจ้ง ความจริงของสิ่งที่มีจริงเดี๋ยวนี้!!
เพราะเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น เพราะ "จิตใจ" ถ้าไม่มีธาตุรู้ เรื่องต่างๆ ก็ไม่มี ธาตุรู้ มีทั้งที่ดี ที่ไม่ดี ใช่ไหม? โลภะ โทสะ โมหะ ทำอะไรให้เกิดขึ้น สิ่งที่ตรงกันข้าม ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นโทษร้ายให้เกิดขึ้น และสามารถที่จะนำประโยชน์มาให้ สูงสุดถึงการที่ว่า คุ้มกันจนกิเลสเกิดอีกไม่ได้เลย
เพราะฉะนั้น เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ถ้าเราจะเริ่มรู้จัก ที่พึ่งอันแท้จริง เริ่มฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น จะเป็นที่พึ่งทุกขณะ ทั้งชาตินี้ และชาติต่อไป!!
แต่ว่าพระธรรมลึกซึ้งมาก เพราะเหตุว่า ใครได้ฟังแล้ว ก็บอกว่า ยาก ลึกซึ้ง ก็ความจริงเดี๋ยวนี้ ไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง ยังไม่รู้ลยว่าสิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ ทำไมไม่ได้ปรากฏตามความเป็นจริง เมื่อไม่รู้ความจริง จึงไม่สามารถที่จะรู้ว่าอะไรเป็นเหตุของสิ่งที่มี ซึ่งเมื่อมีเหตุปัจจัย ต้องเกิดเป็นไปตามนั้น ไม่เป็นไปตามนั้นไม่ได้
เพราะฉะนั้น ผู้ที่เข้าใจว่าเคารพสูงสุดในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เคารพสูงสุด เมื่อเริ่มมีการฟังคำของพระองค์ ไตร่ตรอง จนกระทั่ง รู้คุณที่สูงสุด ตามลำดับ มิฉะนั้น คำสอนของพระองค์ก็อันตรธาน สูญไป ไม่มีใครรู้ว่าคำสอนที่กล่าวกันว่าลึกซึ้ง ความจริงกล่าวถึง ความลึกซึ้งของสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้!! ตั้งแต่เกิดจนตาย ตามปกติ!!
กราบเท้าบูชาคุณ ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลของ ผอ.ดวงรัตน์ ชิตเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนสนามชัยเขต สมาชิกชมรมบ้านธัมมะ มศพ. ลำดับที่ ๑๖๖ และทุกๆ ท่าน
ขอเชิญติดตามบันทึกการสนทนาธรรมในครั้งนี้ ได้ที่ลิงก์ด้านล่าง :
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ