ฟังแล้วเข้าใจ..จนไม่ลืม…สนทนาธรรมที่บ้าน ซ.พัฒนเวศม์

เดี๋ยวนี้เห็น ไม่ต้องนับ ขืนไปนั่งนับก็เป็นเราอีก แต่ให้รู้ว่าเห็นมี และมีสิ่งที่ปรากฏทางตา แค่สองคำนี้กว่าจะรู้!
แม้แค่สีก็ติด แม้แค่เสียงยังไม่ปรากฏเป็นคำเป็นเรื่องราวใดๆ ก็แค่เสียงก็ติด แม้จำขณะนั้นก็ติด แม้รู้สึกขณะนั้นก็ติด จึงทรงแสดงขันธ์ห้าไม่ได้อยู่ที่อื่น ... เดี๋ยวนี้เลย ... อุปาทานขันธ์ห้า
ใครก็จำได้ตำราทั้งหมด ก่อนเห็นมีอะไร เป็นจิตประเภทไหน อย่างไรอะไรเกิดก่อน เพราะอะไร จำได้หมด!แต่รู้ไหมว่าขณะนั้นรู้หรือเปล่าว่ากำลังพูดถึงอะไร?!
อะไรจะเกิดก็แล้วแต่เหตุปัจจัย เราคิดว่าเราไปเตรียมแต่.. คิดก็เกิดแล้ว
ฟังธรรมะไม่ใช่จำ แต่ ฟังแล้วเข้าใจ.. จนไม่ลืม
ไม่ใช่เราทั้งหมดในชีวิต ต้องฟังจนกระทั่งประจักษ์แจ้ง
ฟังความลึกซึ้งว่าพระพุทธเจ้าทรงบำเพ็ญพระบารมีนานเท่าไหร่ ตรัสรู้อะไร นี้แหล่ะทุกอย่างที่มีให้ค่อยๆ เข้าใจขึ้น ไม่ใช่ให้ไปทำอะไรเลย นั่งนานๆ รู้โน่นรู้นี่..ไม่ใช่ แต่สิ่งที่มีล้อมรอบทุกขณะไม่ขาดเลย อยู่ในความมืดเป็นโน่นเป็นนี่ไปหมด
ณ กาลครั้งหนึ่ง “สนทนาธรรมบ้าน ซ.พัฒนเวศม์"
พุธ 23 เมษายน 2568


