ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๑๕
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษา และพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๑๕

~ ถ้าไม่ได้ศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะไม่เห็นความละเอียดลึกซึ้งของแต่ละคำ ซึ่งถ้าไม่มีความเข้าใจในคำสอนที่พระองค์ได้ตรัสไว้ดีแล้ว ทุกอย่างก็ผิดพลาด เพราะไม่ได้รู้ความจริงตามที่พระองค์ได้ทรงแสดง
~ ธรรม คือ สิ่งที่มีจริง เริ่มเข้าใจ ไม่ต้องไปแสวงหาธรรมที่ไหน เดี๋ยวนี้ก็มี แต่ละคำที่ได้ฟังแล้ว ต้องไตร่ตรองเพิ่มขึ้น ละเอียดขึ้น ธรรมคือสิ่งที่มีจริง แสดงว่าต้องมีจริงทุกหนทุกแห่ง อะไรที่มีจริง เป็นธรรมทั้งหมด
~ ธรรมเป็นสิ่งที่ลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะเหตุว่าทุกขณะเป็นธรรม ไม่ต้องไปหาที่ไหนเลย แม้แต่เดี๋ยวนี้เป็นธรรม แต่ความลึกซึ้งของสภาพธรรมที่มีจริงในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมโดยละเอียด โดยเข้าใจจริงๆ ก็ไม่สามารถเห็นความลึกซึ้งของธรรมได้
~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นความจริงถึงที่สุด จึงเปลี่ยนไม่ได้เลย ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา แม้เดี๋ยวนี้ก็เป็นอนัตตา แต่ความเข้าใจอนัตตา น้อยมาก
~ ถ้าไม่ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยความเคารพสูงสุด จะเข้าใจคำของพระองค์ผิด เพราะฉะนั้น เราสามารถที่จะไตร่ตรอง แม้คำเดียวที่พระองค์ตรัสแล้ว ให้เข้าใจละเอียดลึกซึ้งขึ้น
~ จะเข้าใจอะไร จะรู้อะไร? ก็รู้ตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า
~ ตั้งแต่ศีรษะตลอดเท้า เห็นอยู่ภายในที่สุด สิ่งที่ปรากฏให้เห็นเป็นภายนอก เป็นสิ่งที่ปรากฏเฉพาะเมื่อจักขุวิญญาณหรือเห็นเกิดขึ้นเท่านั้น
~ เป็นผู้ตรง กำลังเห็น เป็นธรรมหรือยัง ถ้าเป็นธรรม ไม่มีคน ไม่มีสิ่งของ ธรรมละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง ฟังเผินๆ จะเข้าใจความละเอียดลึกซึ้งได้ไหม
~ ก่อนการฟังพระธรรม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า จงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว ถ้าไม่ตั้งใจ ไม่ใส่ใจด้วยดี จะเข้าใจได้อย่างไร
~ เกิดแล้วก่อนตายไม่รู้อะไรเลย กับ เกิดแล้วก่อนตาย ได้เข้าใจความจริงในขณะนี้ อะไรเป็นประโยชน์ เพราะฉะนั้น ผู้ที่เห็นประโยชน์ จึงฟังพระธรรม รู้ความลึกซึ้งก็ค่อยๆ ไตร่ตรอง จนกระทั่งเข้าใจถูกต้อง เป็นสัมมาทิฏฐิ เป็นมรรคองค์แรกในมรรคมีองค์ ๘
เป็นเราหรือเปล่า? เป็นธรรม ค่อยๆ ละคลายความเป็นเรา ด้วยความเข้าใจทีละเล็กน้อย จนกว่าจะหมดความเห็นผิดว่าเป็นเรา
~ ถ้าไม่มีความเข้าใจเลย คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็อันตรธาน (สูญสิ้น)
~ ความเข้าใจธรรมอยู่ที่ไหน? อยู่ที่ขณะที่เข้าใจ
~ ถ้าไม่มีปัจจัยให้โกรธเกิด โกรธเกิดได้ไหม ถ้าไม่มีปัจจัยให้สติเกิด สติเกิดได้ไหม เมื่อรู้ปัจจัยแล้ว ก็ละความเป็นผู้ต้องการทำสติ เพราะทำไม่ได้ ทำปัญญาได้ไหม ทำได้ยินได้ไหม ทำคิดได้ไหม (ไม่ได้) เริ่มเข้าใจว่าในบรรดาธรรมที่เกิด ปัญญาประเสริฐสุด
~ ศึกษาธรรม คือ ศึกษาสิ่งที่มีจริงในชีวิตประจำวันซึ่งเป็นสิ่งที่มีจริงทั้งหมด
~ ธรรม คือ สิ่งที่มีจริงในขณะนี้ ในชีวิตจริงๆ
~ อกุศลทั้งปวงไม่สามารถจะทำให้รู้ความจริงได้ เพราะฉะนั้น
โอกาสของกุศลแม้เพียงเล็กน้อยหนึ่งขณะ ก็มีประโยชน์ เพราะขณะนั้นที่กุศลเกิด อกุศลเกิดไม่ได้ เพราะฉะนั้น ผู้นั้นไม่ประมาทในกุศลแม้เพียงเล็กน้อย นี่เป็นการสะสมบารมี ถ้ายังคงมีอกุศลมาก มีโลภะมาก ไม่สามารถที่จะเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ เมื่อเข้าใจประโยชน์ของกุศลแม้เพียงเล็กน้อย จะมีกุศลแม้เพียงเล็กน้อยเพิ่มขึ้นไหม?
~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นคุณอย่างยิ่งชี้ให้เห็นโทษของธรรมที่เป็นฝ่ายอกุศลแม้เพียงเล็กน้อย และชี้ให้เห็นคุณของกุศลแม้เพียงเล็กน้อย
~ บารมีทั้งหมด สิ่งที่สำคัญที่สุดที่แม้พระโพธิสัตว์ ที่บำเพ็ญบารมี
ก็ไม่ล่วงคือสัจจบารมี คนอื่นทำผิด บอกว่าเขาทำถูกได้ไหม? ไม่ได้
แล้วเราทำผิด บอกว่าเราถูกได้ไหม? ไม่ได้ ทุกคนทำผิดเมื่อไม่รู้ความจริงเพราะกิเลส เพราะฉะนั้น อกุศลธรรมเป็นอกุศลธรรม
~ ธรรมดาคือความเป็นไปของธรรม โลภะเปลี่ยนไม่ได้ ต้องเป็นไปตามโลภะ เมตตาเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ต้องเป็นเมตตา เพราะธรรมคือเมตตา ต้องเป็นไปตามความเมตตาเท่านั้น
~ ฟังธรรมเพื่อรู้ความจริงว่าอะไรถูกอะไรผิด ต้องมีการรู้ความจริง ความจริงเปลี่ยนไม่ได้
~ ไม่มีเรา แต่มีธรรมเท่านั้น
~ ถ้าไม่รู้โทษของอกุศลทั้งหมด ก็ไม่ละ
~ ถ้าเห็นไม่เกิด ไม่มีเห็น เห็นเป็นธรรม แต่ไม่รู้ จึงเป็นเราเห็น
~ เริ่มตรงทีละเล็กทีละน้อย จนกว่าจะรู้ความจริง
~ ถ้าไม่มีความเข้าใจธรรมเลย จะระลึกถึงพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ไหม
~ ความไม่รู้มากแค่ไหน เป็นผู้ตรงว่าความไม่รู้มากมายมหาศาล เพราะไม่ใช่เพิ่งจะไม่รู้วันนี้ แต่ไม่รู้มาตลอดทุกชาติ ธรรม ละเอียด ลึกซึ้งยากที่ใครจะรู้ได้ด้วยตัวเอง แต่ว่าการฟังธรรมเป็นมงคล ทำให้ได้ฟังความจริงของสิ่งที่มีจริง จนกว่าจะประจักษ์แจ้งอย่างที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้
~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นประโยชน์สูงสุด เปลี่ยนความจริงไม่ได้
~ อกุศลที่ได้ทำไปแล้วไม่ใช่แต่เฉพาะชาตินี้ชาติเดียว ชาติก่อนๆ ก็มากมายมหาศาล ไม่ทราบว่าใครจะได้ทำกรรมอะไรไว้ แต่สามารถที่จะเข้าใจพระธรรม แล้วกระทำความดีต่อไปให้ยิ่งขึ้น
~ เราจะเป็นคนเห็นแก่ตัวต่อไปทำไม่ดีต่อไป หรือว่า จะทำดีเป็นประโยชน์กับทุกคน? คนดีมีให้เห็นมากมาย แล้วทำไมเราจะทำดีเหมือนเขาไม่ได้ แล้วคนดีจะมีมากขึ้น
~ ความชั่วมีมากมาย เกินที่จะประมาณได้ ผู้ที่ไม่เคยรู้ความจริงจึงประพฤติชั่ว เพราะฉะนั้น เมื่อฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงเห็นคุณอย่างยิ่งที่คำของพระองค์เท่านั้นที่จะทำให้สามารถละชั่วได้ เพราะฉะนั้น ฟังพระธรรม ไตร่ตรองพระธรรม เข้าใจพระธรรม เพื่อละชั่วหรือเปล่า ถ้าไม่ละชั่ว ก็เพิ่มความชั่วขึ้นอีกมากมายด้วย
ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ
ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๗๑๔


... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...
ถ้าไม่ละชั่ว ก็เพิ่มความชั่วขึ้นอีกมากมายด้วย ... อนุโมทนาค่ะ..
แต่ละคำองค์พระศาสดา จักศึกษาจนเข้าใจ
หนักแน่นไม่หวั่นไหว ด้วยเข้าใจในอนัตตา
กราบอาจารย์สุจินต์ให้ เมตตาได้ทุกเวลา
อีกเปี่ยมความกรุณา น้อมศรัทธาอาจารย์เทอญ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในกุศลจิตครับ
ถ้าไม่มีความเข้าใจเลย คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็อันตรธาน (สูญสิ้น)
ยินดีในกุศลจิตค่ะ







