ไวพจน์ของตัณหา ตอนที่ 5 [สัทธัมมปัชโชติกา]

 
wittawat
วันที่  15 ม.ค. 2568
หมายเลข  49376
อ่าน  53

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขอกราบระลึกถึงคุณท่านพระอัครสาวกธรรมเสนาบดีสารีบุตรเถระ

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย มหานิทเทส เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้า 97
ชื่อว่า สันถวะ ด้วยความสามารถแห่งความเชยชิด.
อธิบายว่า เกี่ยวข้อง สันถวะนั้นมี ๒ อย่าง คือ ตัณหาสันถวะ ความเชยชิดด้วยตัณหาหนึ่ง. มิตตสันถวะ ความเชยชิดด้วยไมตรีหนึ่ง.
ใน ๒ อย่างนั้น ในที่นี้ประสงค์เอาตัณหาสันถวะ.
ชื่อว่า เสน่หา ด้วยสามารถแห่งความรัก.
ชื่อว่า อเปกขา ความเพ่งเล็ง เพราะอรรถว่า เพ่งเล็งด้วยสามารถ กระทำความอาลัย.
สมจริงดังที่กล่าวไว้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ พระนครแปดหมื่นสี่พันของพระองค์เหล่านี้. มีกุสาวดีราชธานีเป็นประมุข ขอพระองค์จงยังความพอพระราชหฤทัยให้เกิดในพระนครนี้เถิด พระเจ้า ข้า. ขอพระองค์โปรดการทำความเพ่งเล็งในชีวิตเถิด.
ก็ในข้อนี้มีเนื้อ ความดังนี้ว่า จงกระทำความอาลัย.
ชื่อว่า ปฏิพันธา เพราะอรรถว่า ผูกพันในอารมณ์เฉพาะอย่างๆ หรือผู้มีอารมณ์เฉพาะอย่างผูกพัน ด้วยอรรถว่าเป็นญาติ.
ชื่อว่าพวกพ้อง ที่เสมอด้วยตัณหาของสัตว์ทั้งหลาย แม้ด้วยอรรถว่า อาศัยเป็นนิจ ย่อม ไม่มี.


ขุทฺทกนิกายฏฺฐกถา มหานิทฺเทสวณฺณนา (สทฺธมฺมปชฺโชติกา) - หน้าที่ 54
สนฺถวนวเสน (๕) สนฺถโว สํสคฺโคติ อตฺโถ ฯ
โส ทุวิโธ ตณฺหาสนฺถโวจ (๖) มิตฺตสนฺถโว จ ฯ
เตสุอิธ ตณฺหาสนฺถโว อธิปฺเปโต ฯ
< ๕. ม. สนฺถวนวเสน ฯ ๖. ม. จสทฺโท นตฺถิฯ >
ขุทฺทกนิกายฏฺฐกถา มหานิทฺเทสวณฺณนา (สทฺธมฺมปชฺโชติกา) - หน้าที่ 55
สิเนหวเสน เสฺนโห ฯ
อาลยกรณวเสน [๑] อเปกฺขตีติ อเปกฺขา ฯ
วุตฺตมฺปิ เจตํ อิมานิ เต เทว จตุราสีติ นครสหสฺสานิกุสาวตีราชธานิปฺปมุขานิ เอตฺถ เทว ฉนฺทํ ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหีติฯ
อาลยํ กโรหีติ อยํ เหตฺถ อตฺโถ ฯ
ปาฏิเอเก ปาฏิเอเก (๒) อารมฺมเณ พนฺธตีติ (๓) ญาตกฏฺเฐน วา ปาฏิเยกฺโก พนฺธูติปิ ปฏิพนฺธา (๔) ฯ
นิจฺจสนฺนิสฺสิตฏฺเฐนปิ สตฺตานํ ตณฺหาสมา (๕) พนฺธุ นาม นตฺถิฯ
<# ๑. ม. เอตฺถนฺตเร กมฺปมฺปมานาติ ทิสฺสติฯ
๒. ม. ปาฏิเยกฺเก ปาฏิเยกฺเก ฯ
๓. ม. พนฺธตีติ ปฏิพนฺธุฯ
๔. ม. ปาฏิเยกฺโก พนฺธูตีปิ ปฏิพนฺธุฯ
๕. ม. ตณฺหาสโม ฯ >


[สรุป ตัณหา ตอนที่ 5]
ไวพจน์ของตัณหา ตอนที่ 5 (9 วรรคต่อมา)
ตัณหา หรือ โลภเจตสิก ท่านแสดงด้วยชื่ออื่นๆ มีดังนี้ ได้แก่
>> ชื่อว่า สันถวะ หมายถึง การเชยชิด ด้วยความสามารถแห่งความเชยชิด. (สันฺธะ (สันถะ) แปลว่า "การเชื่อมโยง", "การรวมตัว", "การติดต่อสัมพันธ์")
>> ท่านกล่าวว่า สันถวะ มี 2 ประเภท คือ ตัณหาสันถวะมิตรสันถวะ
>> ในสองอย่างนั้น, ในที่นี้ประสงค์ที่จะกล่าวถึงตัณหาสันถวะ (การเชยชิดด้วยความปรารถนา) .
>> ชื่อว่า เสน่หา หมายถึง ความรัก ด้วยเหตุแห่งความรัก.
>> ชื่อว่า อเปกขา หมายถึง ความเพ่งเล็ง (อเปกขา = "คาดหวัง, ตั้งใจ") เพราะอรรถว่า เพ่งเล็งด้วยสามารถ กระทำความอาลัย ( อาลยกรณ = การกระทำที่มีจุดมุ่งหมาย) .
>> สมจริงดังที่กล่าวไว้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ พระนครแปดหมื่นสี่พันของพระองค์เหล่านี้. มีกุสาวดีราชธานีเป็นประมุข ขอพระองค์จงยังความพอพระราชหฤทัยให้เกิดในพระนครนี้เถิด พระเจ้า ข้า. ขอพระองค์โปรดทำความเพ่งเล็งในชีวิตเถิด.
>> ก็ในข้อนี้มีเนื้อความดังนี้ว่า จงกระทำความอาลัย.
>> การผูกพันในอารมณ์เฉพาะอย่างๆ ด้วยอรรถว่าเป็นญาติ หรือผู้มีอารมณ์เฉพาะอย่างผูกพัน ก็เรียกว่า ปฏิพันธา หมายถึง ความผูกพัน.
>> แม้ด้วยอรรถว่า การอาศัยเป็นนิจ ( นิจฺจสนฺนิสฺสิต หมายถึง การอาศัยเป็นนิจ) ก็ไม่มีผู้ที่ชื่อว่า พันธุ (พนฺธุ = ญาติ, พวกพ้อง) ใด ที่เสมอด้วยตัณหาของสัตว์ทั้งหลาย.


กราบเรียนอาจารย์คำปั่น
1. "ชเนหิ ชีวิเต อเปกฺขํ กโรหีติ" ที่ท่านแปลว่า "โปรดทำความเพ่งเล็ง (คาดหวัง, ตั้งใจ, มุ่งหมาย) ในชีวิตเถิด" โดยบริบทนี้ อเปกขาก็ดี อาลัยก็ดี อันนี้ท่านอธิบายว่าเป็น การเพ่งเล็งในชีวิต ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นภาษาเก่า ยุคนี้จะหมายถึง การคาดหวังการตั้งเป้าหมายต่างๆ ในชีวิต เช่น การมีสุขภาพที่ดี การมีทรัพย์สมบัติ มีการงาน แต่งงาน มีลูก มีญาติ มีเพื่อน มีบริวาร ต่างๆ ใช่ไหมครับ ซึ่งขณะนั้นเป็นโลภะ ความต้องการประเภทหนึ่ง
2. คำว่า "การผูกพันในอารมณ์เฉพาะอย่างๆ ด้วยอรรถว่าเป็นญาติ" ที่แปลมาจาก "ปาฏิเอเก ปาฏิเอเก อารมฺมเณ พนฺธตีติ ญาตกฏฺเฐน" อันนี้ท่านหมายถึง ตัวตัณหาที่เข้าไปผูกพันหรือติดข้องในอารมณ์เฉพาะอย่างๆ มีวัตถุสิ่งของที่น่าพอใจ เป็นต้น อุปมาว่าตัณหาเปรียบเหมือนญาติหรือเพื่อนสนิทที่มาหาเราบ่อยๆ ซึ่งแท้จริงตัณหามาหาเราบ่อยยิ่งกว่าญาติสนิทด้วยซ้ำไปใช่ไหมครับ

กราบอนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 18 ม.ค. 2568

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ยินดีในกุศลวิริยะของคุณวิทวัตอย่างยิ่ง ความคิดเห็นในข้อที่ ๑ และ ๒ นั้นถูกต้องแล้วนะครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ