รู้จิตใจของตัวเอง

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  7 ม.ค. 2568
หมายเลข  49269
อ่าน  91

ถ้าขณะใดระลึกได้ พิจารณารู้ลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ เป็นปัญญา ข้อสำคัญในขั้นต้น จะต้องทราบก่อนว่า ขณะที่หลงลืมสติกับขณะที่มีสติต่างกันอย่างไร


ถ้าปกติท่านเจริญสติทีละเล็กทีละน้อย ก็จะทำให้รู้จิตใจของตัวเอง ที่เป็นโลภะบ้าง เป็นโทสะบ้าง และที่กำลังจะล่วงเป็นทุจริต ก็สามารถวิรัติ หรือว่าสตินั่นเองวิรัติทุจริต แต่ข้อสำคัญก็คือ อย่าหวังผลที่จะบรรลุมรรคผลโดยรวดเร็ว พรุ่งนี้ เดือนหน้า หรือว่าปีหน้า ถ้าเหตุสมควรแก่ผลแล้ว ผลย่อมเกิด ช้าหรือเร็วนั่นก็แล้วแต่เหตุ คือ สติที่เกิดขึ้นและปัญญาที่รู้ลักษณะของนามและรูปเพิ่มขึ้น ขอให้เข้าใจว่าจุดประสงค์ไม่ใช่การเจริญสมถภาวนา ไม่ใช่เพื่อความสงบ แต่จุดประสงค์เพื่อการเจริญปัญญา

ถ้าขณะใดระลึกได้ พิจารณารู้ลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ เป็นปัญญา ข้อสำคัญในขั้นต้น จะต้องทราบก่อนว่า ขณะที่หลงลืมสติกับขณะที่มีสติต่างกันอย่างไร ถ้าขณะเห็น ได้ยิน เป็นเรื่องเป็นราว เป็นสัตว์ เป็นบุคคล ไปไกลมากทีเดียว นั่นคือลักษณะหลงลืมสติ เพราะเหตุว่าไม่ว่าจะเห็น จะได้ยิน สภาพลักษณะความจริงก็ปรากฏทางตาบ้าง ทางหูบ้าง ทางจมูกบ้าง ทางลิ้นบ้าง ทางกายบ้าง ทางใจบ้าง ขณะที่มีสตินั้นหมายความว่า ระลึกรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ จะเป็นทางตาก็ได้ ทางหูก็ได้ ทางจมูกก็ได้ ทางลิ้นก็ได้ ทางกายก็ได้ ทางใจก็ได้ ถ้ายังไม่ทราบความต่างกัน ท่านเคยหลงลืมสติอย่างไร ก็เหมือนกันอย่างนั้น หรือไม่ก็ไปจดจ้องให้เกิดสมาธิขึ้น ซึ่งยังไม่ใช่การเจริญสติอยู่นั่นเอง [ตอนที่ 42]

รับฟัง ... เกิดนิมิต ภาพหลอน


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ