เรื่องของวิญญาณ
ถ้าพูดถึงเรื่องของวิญญาณ ก็คือเรื่องของจิต พระธรรมที่ทรงแสดง จะแสดงเรื่องของธรรมดา ธรรมชาติ แต่ปัญญาของผู้ฟังจะต้องใคร่ครวญ พิจารณา ไตร่ตรอง ระลึก ศึกษา จนกระทั่งสามารถเข้าใจแม้เพียงคำที่พระผู้มีพระภาคตรัสสั้นๆ ว่า ธรรม หรือธาตุ ให้รู้จริงๆ ว่า เป็นธาตุ ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคลจิต
ใช้คำว่า จิต ก็ได้ หรือที่ภาษาไทยเราใช้คำว่า ใจ หรือบางท่านก็ใช้คำว่า วิญญาณ แต่ท่านที่ไม่ได้ศึกษาพระพุทธศาสนาจะเข้าใจคำว่า วิญญาณ ผิด คือ คิดว่าวิญญาณมีหลังจากที่ ตายแล้วเท่านั้น โดยไม่รู้ว่า คำว่า วิญญาณ ก็ดี หรือคำว่า จิต ก็ดี มีความหมายเหมือนกัน คือ เป็นสภาพที่เป็นใหญ่ในการรู้สิ่งที่กำลังปรากฏ
ในขณะนี้เอง มีวิญญาณ แต่ถ้ารู้เพียงสั้นๆ อย่างนี้ว่า มีวิญญาณ มีจิต ก็ไม่สามารถละคลายการยึดถือวิญญาณหรือจิตว่าเป็นตัวตน เป็นเรา ด้วยเหตุนี้พระผู้มีพระภาคจึงทรงแสดงพระธรรมเรื่องของสภาพธรรม แม้ในเรื่องของจิต หรือเจตสิก หรือรูป ตลอด ๓ ปิฎกใน ๔๕ พรรษา เป็นธรรมประการต่างๆ ทั้งในพระสูตรบ้าง ในพระอภิธรรมบ้าง ซึ่งบางท่านที่ได้ศึกษาพระอภิธัมมัตถสังคหะอาจจะคิดว่า เรื่องของวิญญาณธาตุ มโนธาตุ และมโนวิญญาณธาตุ มีในพระอภิธรรมเท่านั้น แต่ความจริงแม้ในพระสูตร พระผู้มีพระภาคก็ทรงแสดง
ซึ่งข้อความใน สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ธาตุสังยุต นานัตตวรรคที่ ๑ ธาตุสูตร ข้อ ๓๓๓ มีว่า
ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่าน อนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียก ภิกษุทั้งหลาย แล้วได้ตรัสว่า ...


