โรคที่จะต้องรักษาด้วยความเข้าใจธรรมะ

 
nattawan
วันที่  18 พ.ค. 2567
หมายเลข  47753
อ่าน  142

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

🍀แค่เห็นเกิดขึ้นแล้วไม่รู้ความจริงว่าเห็นเป็นธรรมะ โรคเกิดแล้ว และสะสมโรคนี้ไปทุกวันทุกขณะโดยไม่รู้ตัวเลย สะสมมากขึ้นจนกระทั่งโรคนั้นล่วงออกมาเป็นทุจริตต่างๆ ทางกาย ทางวาจา ถึงจะรู้ตัวว่าเป็นโรคที่จะต้องรักษาด้วยความเข้าใจธรรมะ
🍀🍀พระพุทธเจ้าทรงเป็นนายแพทย์ผู้ฉลาดที่สุด เพราะทรงรู้จักโรค ทรงรู้จักยารักษาโรค และทรงรู้จักวิธีการรักษาโรคคือกิเลสทั้งหลายให้หายขาดได้โดยสิ้นเชิงเมื่อถึงความเป็นพระอรหันต์ เมื่อเป็นพระอรหันต์แล้วก็ไม่มีโรคทางใจ เมื่อปรินิพพานแล้วก็ไม่มีการเกิดอีก โรคทางกายก็ไม่มี สามารถรักษาทั้งโรคกายและโรคใจได้โดยสิ้นเชิง เพราะฉะนั้นหนทางเดียวที่จะค่อยๆ พ้นไปจากโรคได้ตามลำดับ คือ การเข้าใจความจริงของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้นั่นเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในสังสารวัฏฏ์
🍀ยาดีที่สามารถรักษาโรคกิเลสได้ทุกโรค คือ ธรรมโอสถ หรือพระธรรมของพระพุทธเจ้า และการที่จะเข้าใจธรรมะที่ได้ก็ต่อเมื่อได้ยินได้ฟังคำของพระองค์บ่อยๆ เนืองๆ

บ้านธัมมะ 18 พ.ค. 59

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 18 พ.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อกล่าวถึง พุทธะ แล้ว ควรที่จะได้เข้าใจว่า มีพุทธะ ๓ ประเภท คือ
๑. สัมมาสัมพุทธะ หมายถึง พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงตรัสรู้สภาพธรรมด้วยพระองค์เอง โดยไม่มีใครเป็นครูอาจารย์ พร้อมทั้งทรงแสดงพระธรรม ประกาศพระศาสนา ให้สัตว์โลกได้เข้าใจธรรม ตาม ด้วย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นเอกบุคคลทรงเป็นบุคคลผู้เลิศที่สุด เจริญที่สุด ประเสริฐที่สุดในโลก โดยไม่มีใครเสมอเหมือน ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะไม่ทรงอุบัติขึ้นพร้อมกัน ๒ พระองค์
๒. ปัจเจกพุทธะ หมายถึง พระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้สภาพธรรมด้วยตนเอง ทรงบำเพ็ญพระบารมีมาตลอดระยะเวลา ๒ อสงไขย แสนกัปป์ จึงจะตรัสรู้ได้ แต่ไม่สามารถตั้งศาสนา เพราะไม่สามารถบัญญัติศัพท์ที่เป็นคำพูดให้เข้าถึงสภาพธรรม อีกทั้งไม่มีอัธยาศัยใหญ่ในการอนุเคราะห์เกื้อกูลสัตว์โลกเหมือนกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, พระปัจจเกพุทธเจ้า อุบัติขึ้นพร้อมกันๆ หลายพระองค์ได้ และจะอุบัติขึ้นได้เฉพาะในกาลสมัยที่ว่างจากพระพุทธศาสนา หรือ ว่างจากการอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เท่านั้น
๓. อนุพุทธะ หรือ สาวกพุทธะ หมายถึง ผู้ที่ได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง แล้วได้ตรัสรู้ตามเป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ เช่น พระอัญญาโกณฑัญญะ พระสารีบุตร พระมหาโมคคัลลานะ เป็นต้น
ถ้าไม่เคยได้ฟังพระธรรมมาเลยตั้งแต่ในอดีต ย่อมไม่สามารถถึงความเป็นพุทธะได้เลย เพราะการถึงความเป็นพุทธะ เป็นได้ด้วยปัญญา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nattawan
วันที่ 18 พ.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาค
อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ข้อความโดยสรุป
คันธสูตร
(ว่าด้วยกลิ่นหอม ๓ อย่าง)

พระอานนท์เถระ กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า รากไม้หอม แก่นไม้หอม และดอกไม้หอม สามารถส่งกลิ่นหอมไปตามลม แต่ไม่สามารถส่งกลิ่นหอมทวนลมได้ แล้ว สิ่งที่สามารถส่งกลิ่นทั้งตามลม
และทวนลม มีหรือไม่

พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า สิ่งที่สามารถส่งกลิ่นทั้งตามลม
และทวนลม มี ได้แก่ ผู้ที่มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง มีศีล มีคุณธรรม ยินดีในการให้ทาน ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใด สมณพราหมณ์ทั้งหลายในทิศต่างๆ ย่อมกล่าวชื่นชมสรรเสริญ แม้เทวดาทั้งหลายก็กล่าวชื่นชม
สรรเสริญ

Photo cr. Path To Peace

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 19 พ.ค. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ