ปฏิจจสมุปบาท

 
ผู้มาใหม่
วันที่  31 มี.ค. 2567
หมายเลข  47669
อ่าน  121

เจตนาเจตสิกที่เกิดใน มหากุศลจิต รูปาวรจิตและอรูปาวจรจิต ถึงแม้ว่าจะยังให้เกิดภพ แต่ไม่มีโมหเจตสิกอยู่ในจิตพวกนี้ด้วยดังนั้นจะกล่าวว่าอวิชชาเป็นปัจจัยให้เกิดสังขารพวกนี้ได้เช่นไรกันครับ

ขอบพระคุณมากครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 8 เม.ย. 2567

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สภาพธรรมที่จะเกิดขึ้น ล้วนเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยทั้งสิ้น เพราะอาศัยอวิชชา ความไม่รู้เป็นปัจจัย จึงทำให้มีการทำกุศลกรรมและอกุศลกรรม ซึ่งถ้าจะพิจารณาจริงๆ แล้ว จะเห็นได้ว่าถ้าหากไม่มีอวิชชาแล้ว ก็หมายถึงว่าดับกิเลสทั้งหลายทั้งปวงได้อย่างหมดสิ้นถึงความเป็นพระอรหันต์ ผู้ที่เป็นพระอรหันต์ดับกิเลสหมดสิ้น ไม่มีอวิชชา เมื่อไม่มีอวิชชา จึงไม่มีกุศลกับอกุศลเกิดขึ้นอีกเลย นี้คือ แสดงถึงความต่างที่เห็นอย่างชัดเจนระหว่างผู้ที่ยังมีอวิชชาอยู่กับผู้ที่ดับอวิชชาได้อย่างหมดสิ้นแล้ว เพราะฉะนั้น ตราบใดที่ยังมีอวิชชา จึงยังเป็นปัจจัยให้มีการทำกุศลกรรมและอกุศลกรรมได้ และ เมื่อมีการทำกุศลกรรม และอกุศลกรรมที่เป็นเหตุแล้ว ก็ย่อมเป็นเหตุให้เกิดผลในภายหน้าได้

ประโยชน์จริงๆ คือ ได้รู้ตัวเองว่า ยังเป็นผู้มีอวิชชาอยู่ หนทางที่จะเป็นไปเพื่อขัด เกลาความไม่รู้และกิเลสทั้งหลาย นั้น ก็คือ หนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญา ซึ่งจะขาดการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมไม่ได้เลย ทีเดียว พระธรรมที่ได้ฟังได้ศึกษาล้วนเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกโดยตลอด ครับ

... ยินดีในกุศลของผู้มาใหม่และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 8 เม.ย. 2567

การสะสมความคิดของแต่ละคน ในแต่ละวัน จะค่อยๆ ปรับปรุงเจริญขึ้น ทางฝ่ายกุศล ทางฝ่ายปัญญา จนกว่าจะเป็นไปตามคลองของสภาพธรรมที่จะพิจารณาเห็นว่า ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล และพิจารณารู้ถึงเหตุปัจจัยของ สภาพธรรมนั้นๆ ด้วย

ขอกล่าวถึงพุทธวิปัสสนา ซึ่งท่านผู้ฟังก็คงจะใคร่ที่จะทราบว่า เมื่อพระโพธิสัตว์จะตรัสรู้เป็นพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น พระองค์ทรงพิจารณาธรรมอย่างไร

ที่มา อ่าน และฟังเพิ่มเติม ...

ปฏิจจสมุปบาท แผ่นที่ ๑

ปฏิจจสมุปบาท แผ่นที่ ๒

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ผู้มาใหม่
วันที่ 10 เม.ย. 2567

ขอบพระคุณอาจารย์มากครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ