เจตนาเกิดกับจิตทุกขณะ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  22 ก.พ. 2567
หมายเลข  47439
อ่าน  7

จิตแค่เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้สิ่งที่ปรากฏทางตา ที่เราจะใช้คำว่า เห็น เห็นขณะนี้เป็นจิต เป็นหน้าที่ของจิตที่เกิดขึ้นทำทัสนกิจ กิจของจิตทั้งหมด มี ๑๔ กิจ กิจหนึ่งก็คือกิจเห็น ภาษาไทยเราใช้คำว่ากิจเห็น ภาษาบาลีก็เป็นทัสนะ ที่จะใช้ทัศนาจรอะไรพวกนี้ ทัศนะก็คือเห็น เพราะฉะนั้นขณะนี้จิตกำลังทำกิจเห็น เมื่อเกิด ทำอื่นไม่ได้เลย ต้องเกิดขึ้นทำกิจเห็น เพราะฉะนั้น เจตสิก ที่จงใจที่จะกระทำดีก็ได้ ชั่วก็ได้ ก็เป็นสภาพของเจตสิกชนิดหนึ่ง ภาษาบาลีคือ เจตนาเจตสิก (เจ-ตะ-นา-เจ-ตะ-สิก) แต่คนไทยชอบพูดว่า เจตนา (เจด-ตะ-นา) เช่น ไม่มีเจตนาหรอก ขอโทษทำอย่างนั้นไปเพราะไม่ได้เจตนา แต่ความจริงไม่ใช่

เพราะเจตนาเจตสิกเกิดกับจิตทุกขณะ นี่ก็เป็นความละเอียดขึ้น เจตนาที่เป็นเหตุที่เป็นกุศลก็มี เจตนาที่เป็นเหตุที่เป็นอกุศลก็มี เจตนาเกิดกับจิตทุกขณะ แม้จิตซึ่งเป็นผลซึ่งเกิดจากจิตที่เป็นเหตุ ก็ต้องมีเจตนาเกิดร่วมด้วย แต่ว่าสภาพของธรรมหลากหลายมาก สภาพธรรมที่เป็นเหตุ เป็นผลไม่ได้ สภาพธรรมที่เป็นผลก็จะเป็นเหตุไม่ได้ เพราะฉะนั้นผลทั้งหลาย ต้องเกิดจากเหตุ ด้วยเหตุนี้จิตจึงจำแนกเป็น เหตุ คือ กุศลจิตเป็นกุศลเหตุ อกุศลจิตก็เป็นอกุศลเหตุ ผลต้องมีต่างกัน อกุศลกรรมเป็นปัจจัยให้เกิดอกุศลวิบากจิต ถ้าเป็นสภาพที่ไม่รู้จะเป็นผลได้อย่างไร ไม่รู้อะไร แต่ต้องเห็น ต้องได้ยิน ต้องได้กลิ่น ต้องลิ้มรส ต้องรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส นี่คือสภาพธรรมที่เป็นผลและเป็นจิต ส่วนจิตจะเกิดได้ก็ต้องมีเจตสิกอาศัยกันและกันเกิดขึ้นพร้อมกัน

ปกิณณกธรรม ตอนที่ 1290


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ