จิตหลากหลาย มีเจตสิกเกิดร่วมด้วย
ธรรมตรงมาก ทรงแสดงเรื่องของจิตหลากหลายโดยประการทั้งปวง เพราะอะไร ขณะนี้เป็นจิต แต่ไม่รู้ ความรู้สึกต่างๆ ก็มีซึ่งไม่ใช่เรา แล้วความรู้สึกก็ไม่ใช่จิต แสดงว่าทันทีที่จิตเกิด เป็นสภาพรู้ เป็นนามธรรม จะมีสภาพธรรมซึ่งเป็นนามธรรมที่เกิดกับจิต ทำให้จิตหลากหลายตามสภาพของนามธรรมนั้นๆ
พระพุทธเจ้าทรงใช้คำบัญญัติเรียกธรรมซึ่งเป็นนามธรรมที่เกิดกับจิตว่า เจตสิกะ ภาษาบาลี แต่คนไทยก็ชอบตัดพยางค์สุดท้ายก็เป็น เจตสิก มีจิตเกิดเมื่อไหร่ก็มีเจตสิกเกิดร่วมด้วยทุกขณะ จิตจะเกิดโดยไม่มีเจตสิกไม่ได้เลย แล้วเราก็ไม่เคยรู้ว่าลักษณะของจิตกับเจตสิกไม่ใช่อย่างเดียวกัน บางขณะเราโกรธ ซึ่งก่อนโกรธก็ไม่ได้โกรธ เพราะอะไร จิตเป็นสภาพรู้แจ้งสิ่งที่ปรากฏเท่านั้น ไม่ทำหน้าที่อื่นใดจากนี้เลย เพียงแต่เกิดเมื่อไหร่ก็มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จิตกำลังรู้ ฟังยากใช่ไหม เพราะว่าเป็นเราเห็น แต่ขณะนี้มีสิ่งที่ปรากฏ ปรากฏได้อย่างไร ถ้าไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น สิ่งนี้จะปรากฏไม่ได้เลย
ภาษาชาวบ้านเราก็บอกว่า สิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ ปรากฏเพราะเราเห็น ขณะไหนที่ไม่เห็นสิ่งที่กำลังปรากฏทางตาขณะนี้ก็ปรากฏไม่ได้ แต่ตามความเป็นจริง ถ้าไม่มีสภาพซึ่งสามารถจะเห็น สิ่งที่กำลังปรากฏทางตาขณะนี้ก็ปรากฏไม่ได้ นี่คือโลก เกิดมาก็เห็น แต่ไม่รู้ความจริงของเห็น

