ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๒๓

 
khampan.a
วันที่  30 ก.ค. 2566
หมายเลข  46330
อ่าน  1,422

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจาก
ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษา และพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้


ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๒๓



~ ขณะที่ฟังพระธรรม เป็นขณะที่ต่างกับเวลาอื่นทั้งหมด เป็นขณะที่หายากที่สุด ตั้งแต่เช้ามาคิดเรื่องอื่นหมด ไม่เคยคิดถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและคำของพระองค์ เพราะฉะนั้น ขณะนี้เป็นขณะที่หายากที่สุดในสังสารวัฏฏ์ เพราะเป็นขณะที่จะได้รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทีละเล็กทีละน้อยจริงๆ

~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เข้าใจถูก เป็นปัญญาของผู้ฟังเอง เป็นมรดกที่ล้ำค่า เพราะเหตุว่า เราไม่มีปัญญาเองแน่ๆ ใช่ไหม? มาจากใคร? มาจากคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น ผู้ใดเข้าใจคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความเข้าใจนั้นเริ่มเกิด แล้วก็ค่อยๆ อบรมไปจนสามารถที่จะดับกิเลสได้

~ อาศัยคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ฟังแล้วบ่อยๆ ไตร่ตรอง มั่นคงจนกระทั่งสภาพที่จำสิ่งที่ได้ฟังและเข้าใจถูกต้องมั่นคงจนกระทั่งสามารถที่จะรู้สิ่งที่กำลังปรากฏเดี๋ยวนี้ได้ มิฉะนั้น คำของพระองค์ก็ไร้ประโยชน์ ถ้าไม่มีใครสามารถที่จะรู้ความจริงได้ แต่ทุกคำเป็นหนทางที่จะรู้ความจริงที่กำลังมี

~ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงทุกคำ ไม่ใช่ให้พูดตาม แต่ให้เข้าใจความจริง ที่ไม่เคยรู้ความจริงนั้นมาก่อน เป็นพระคุณสูงสุดในสังสารวัฏฏ์ที่มีโอกาสได้เข้าใจสิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้

~ ยิ่งเข้าใจธรรม ยิ่งรู้คุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มิฉะนั้น เราจะรู้จักพระองค์โดยการไม่ฟังธรรมเลย เป็นไปได้ไหม? ไม่มีทางเป็นไปได้เลย เพราะฉะนั้น ความเข้าใจนั่นแหละ ลึกซึ้งขึ้น ทำให้เห็นคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหนือบุคคลใดทั้งสิ้น เคารพสูงสุด ถ้าพระองค์ไม่ทรงแสดงธรรม ไม่มีใครรู้ได้

~ ถึงเขาจะเป็นใครก็ตาม ดีชั่วประการใดก็ตาม ถ้าเขาสะสมมาที่จะเข้าใจ เขาสามารถที่จะได้รับประโยชน์จากคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่า คำของพระองค์แม้คำเดียว ไม่นำโทษไปให้ใครเลย พระคุณแค่ไหน?

~ ต้องเป็นคนตรงอย่างยิ่ง ผิดแล้วแก้ นี่คือ คำที่ทุกคนควรใส่ใจ ไม่ว่าจะอาชีพใด ตำแหน่งใด ฐานะใด การงานใด ผิดแล้วแก้ ถ้าไม่แก้ ตลอดชีวิตก็จมดิ่งลงไปในความผิดยิ่งขึ้น

~ ปัญญาจะนำแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์มาให้เท่านั้น ปัญญาเห็นโทษของอกุศลทั้งหมด แม้ว่าอกุศลเพียงเล็กน้อย เพราะฉะนั้น ปัญญา เห็นว่าขณะใดที่เป็นกุศลเท่านั้น ที่ขณะนั้น จึงไม่เป็นอกุศล

~ ทุกคนต้องการเพื่อน คือ ผู้ที่หวังดีต่อเขา ไม่ว่าเขาจะเคยทำผิดประการใดมาก็ตามแต่ ถ้ามีใครสักคนหนึ่งซึ่งมีจิตเมตตา ไม่ได้ทำร้ายเขาเลย แต่มีความคิดที่จะให้เขาดีขึ้น เขาก็ต้องรู้ว่า คนนั้นมีความเมตตา มีความหวังดีต่อเขาจริงๆ

~ ทำไม่ดีเพราะอะไร? เพราะไม่รู้ว่าไม่ดี เพราะฉะนั้น เมื่อยังคงไม่รู้แล้วทำไม่ดีต่อไป จะรู้แจ้งสภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ไหม?

~ ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ด้วยการพิจารณาอย่างแยบคาย ก็ย่อมเห็นคุณของกุศลธรรมและเห็นโทษของอกุศลธรรมซึ่งจะทำให้มีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยการละอกุศลและเจริญกุศลยิ่งขึ้น

~ ความเป็นไปของแต่ละคนในแต่ละวัน แสดงถึงความเป็นจริงของการสะสมของแต่ละหนึ่งต่างๆ กัน เป็นธรรมทั้งหมด ถ้ารู้ความจริงอย่างนี้ มีความเข้าใจอย่างนี้ จะมีความเข้าใจ มีความเห็นใจ จะมีความเป็นเพื่อนกับทุกคนมากขึ้นได้ไหม?

~ ที่ใช้คำว่า ธรรม ก็แสดงอยู่แล้วว่า ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เป็นธรรม เพราะฉะนั้น เพียงศัพท์หรือเพียงคำที่ได้ยินคำเดียวว่า ธรรม ก็จะต้องเข้าถึงความหมายของธรรม คือ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน

~ ต้องไม่ลืมทุกคำ คำว่า ธรรม หมายถึง สิ่งที่มีจริงแน่นอน แข็งจะเป็นใครไม่ได้ เห็นจะเป็นใครไม่ได้ จำจะเป็นใครไม่ได้ เป็นแต่ละธรรมที่เป็นอย่างนั้น หลากหลายมาก จนกว่าจะรู้ทั่วในสิ่งที่มีตามปกติ

~ สิ่งที่ประเสริฐเหนือสิ่งอื่นใด คือ ปัญญาความเห็นที่ถูกต้อง ซึ่งไม่มีใครสามารถที่จะให้ได้เลย นอกจากอาศัยคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ดีแล้ว เพราะฉะนั้น ก็เริ่มด้วยการศึกษาธรรมทีละคำ ทีละคำจริงๆ อย่าพึ่งรีบร้อน เพราะว่า จะต้องเข้าใจแต่ละคำให้ถูกต้อง

~ การศึกษาธรรม เราต้องไม่ลืมว่าธรรมคืออะไร? ธรรมคือสภาพที่มีจริงๆ จะเรียกชื่ออะไรหรือไม่เรียกชื่ออะไร ธรรมก็เป็นอย่างนั้นเปลี่ยนแปลงไม่ได้ อย่างความโกรธให้เปลี่ยนเป็นเมตตาก็ไม่ได้ ความเมตตาก็คือเมตตา ความไม่รู้จะเป็นปัญญาก็ไม่ได้ ปัญญาก็เป็นปัญญา ความไม่รู้ก็เป็นความไม่รู้

~ ไม่ประมาทที่จะสะสมแม้เพียงกุศลเล็กๆ น้อยๆ เพราะใครจะรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร จะเกิดที่ไหน จะเป็นใคร จะอยู่ในครอบครัวยากจน มั่งมี มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น และอกุศลที่สะสมมาจะเพิ่มขึ้นแค่ไหน? เพราะฉะนั้น กุศลแม้เพียงเล็กน้อย ก็ไม่ควรประมาทเลย ตราบใดที่เกิดเป็นผู้ที่สามารถที่จะกระทำกุศลได้

~ ไตร่ตรองทุกคำ ธรรม คือ สิ่งที่มีจริง มีจริงหรือเปล่า? ไม่ใช่เพราะใครมาบอก แต่เมื่อฟังแล้วไตร่ตรองจนกระทั่งเป็นความเข้าใจของตนเองว่าแล้วมีจริงหรือเปล่า? เห็นเดี๋ยวนี้มีจริงหรือเปล่า? ได้ยินเดี๋ยวนี้มีจริงหรือเปล่า? เพราะฉะนั้น เริ่มมั่นคงในคำว่าธรรมเพราะเหตุว่าการฟังพระธรรม ไม่ใช่เพียงจำ แต่รอบรู้ในคำที่ได้ฟัง

~ จะเป็นคนนี้เพียงชั่วขณะที่ยังอยู่ในโลกนี้ จากไปก็ไม่มีทางที่จะรู้เลยว่า เคยเห็นอะไร? เคยชอบอะไร? เคยชังอะไร? เคยดีชั่วอย่างไร? เพราะฉะนั้น การได้ฟังพระธรรม ก็เป็นปัจจัยที่จะทำให้สามารถตั้งตนไว้ชอบ คือ เป็นผู้ตรง สำคัญที่สุด คือ เป็นผู้ตรง กุศลเป็นกุศล อกุศลเป็นอกุศล ถ้ามีปัญญาอย่างนี้ เห็นโทษของอกุศล ก็จะทำให้ตั้งมั่นในกุศลเพิ่มขึ้น

~ ถ้ามีปัญญา เห็นกิเลสไม่ยากเลย

~ สภาพธรรมทั้งหมดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงโดยละเอียด เพื่อให้มีความเข้าใจมั่นคงขึ้นว่า เป็นธรรม ไม่ใช่เรา เพราะเหตุว่า ถ้าเป็นเรา เป็นทุกข์ไหม? ไม่ได้สิ่งที่พอใจ ขวนขวายหาทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่น่าพอใจ แต่เมื่อไม่ได้ก็เป็นทุกข์ แต่ถ้ารู้ว่าได้หรือไม่ได้ ใครก็บังคับบัญชาไม่ได้ แม้แต่ทุกข์หรือสุข ก็บังคับบัญชาไม่ได้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นชั่วคราว แสนสั้น ดับแล้ว ไม่กลับมาอีกเลย จะเดือดร้อนไหม?

~ เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์ มีโอกาสที่จะทำความดีทุกอย่างทุกประการที่สามารถจะกระทำได้แม้เพียงเล็กน้อย ก็ควรทำ เพราะเหตุว่า ถ้าขณะนั้น ไม่ใช่จิตที่ดี ก็เป็นอกุศลจิต

~ ต่างคนต่างใจ ตามการสะสม ถ้าคนไหนที่โกรธบ่อยๆ เขาต้องเป็นคนที่มักโกรธ เจ้าโทสะ ถ้าคนไหนที่เห็นใครก็มีเมตตาช่วยเหลือสงเคราะห์ ทนไม่ได้ที่จะไม่ช่วยเหลือคนอื่น ก็เพราะเขาสั่งสมมาทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งเป็นอุปนิสัย คือ เป็นสิ่งที่มีกำลังที่จะทำให้เป็นอย่างนั้น คิดอย่างนั้นในขณะนั้น



ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๒๒



... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
swanjariya
วันที่ 30 ก.ค. 2566

กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
capacitor4
วันที่ 30 ก.ค. 2566

กราบขอบพระคุณและกราบอนุโมทนา อ.คำปั่นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nattawan
วันที่ 30 ก.ค. 2566

~ ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ด้วยการพิจารณาอย่างแยบคาย ก็ย่อมเห็นคุณของกุศลธรรมและเห็นโทษของอกุศลธรรมซึ่งจะทำให้มีชีวิตอยู่ต่อไปด้วยการละอกุศลและเจริญกุศลยิ่งขึ้น

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาอ.คำปั่นค่ะ

ยินดีในกุศลจิตทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
มังกรทอง
วันที่ 30 ก.ค. 2566

ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
มังกรทอง
วันที่ 30 ก.ค. 2566

สนทนาธรรมเกิดขึ้น กุศลมี ทางสื่อไลน์วิถี เลิศล้ำ อาจารย์สุจินต์ศรี ทางถูก ฟังแห่งความดีค้ำ ซึ่งล้วนปัญญา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 30 ก.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Jans
วันที่ 30 ก.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
jaturong
วันที่ 31 ก.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Lai
วันที่ 3 ส.ค. 2566

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 3 ส.ค. 2566

กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ