ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๒๔

 
khampan.a
วันที่  6 ส.ค. 2566
หมายเลข  46361
อ่าน  4,556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษา และพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๒๔




~ บุคคลผู้ที่มีพระมหากรุณากว่าคนอื่นทั้งหมด ก็คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะว่า สัตว์โลกมีความไม่รู้ มีความเห็นผิด เข้าใจผิดในธรรม เพราะฉะนั้น จึงทรงพระมหากรุณาแสดงพระธรรม เห็นได้เลยว่า พระธรรมมีประโยชน์ เมื่อมีความเข้าใจแล้วนำมาซึ่งสิ่งที่เป็นกุศลเพิ่มขึ้น ทั้งกาย วาจา และใจ

~ คำสอนทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้โลกซึ่งมืดด้วยความไม่รู้ ได้เข้าใจความจริงทั้งหมดทุกอย่างที่พระองค์ได้ทรงตรัสรู้แล้ว เพราะฉะนั้น ทุกคำของพระองค์สำหรับศึกษาสำหรับฟังด้วยความเคารพอย่างยิ่ง เพราะลึกซึ้ง ต้องเข้าใจให้ถูกต้อง ไม่คลาดเคลื่อน

~ พระธรรมทั้งหมดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ๔๕ พรรษา เพื่ออบรมจิต บ่มปัญญา เพื่อที่จะขัดเกลากิเลสให้ยิ่งขึ้น เพราะเหตุว่า ถ้าไม่มีปัญญา อะไรจะขัดเกลากิเลสได้

~ พระธรรมทั้งหมดที่เป็นคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นเรื่องละ ต้องไม่ลืมเลย ถ้าใครคิดว่าจะต้องการ หรือจะได้ นั่นคือ ความเป็นเรา ความเป็นตัวตน ซึ่งทำให้ต้องการ และไม่มีวันจะถึงอะไรเลย เพราะเหตุว่า โลภะเป็นเครื่องเนิ่นช้า แล้วก็ไม่สามารถที่จะทำให้เข้าใจลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ

~ ถ้าเข้าใจธรรมแล้วจะทำชั่วหรือ? มีแต่จะทำดีเท่าที่จะทำได้ ให้คนอื่นได้มีความเข้าใจธรรม พูดความจริงให้เขาค่อยๆ เข้าใจขึ้น ทำทุกสิ่งทุกอย่าง ด้วยความอดทน ถ้าไม่มีความอดทนจะสำเร็จไหม? เพราะฉะนั้น ความอดทน ก็เป็นบารมี

~ เกิดมา เป็นคนนี้ไม่นานแน่นอนก็จะหมดความเป็นบุคคลนี้ แต่คนต่อไปที่จะเกิดต่อจากการเป็นบุคคลนี้จะเป็นอย่างไรแล้วแต่ชาตินี้ด้วย ที่เป็นส่วนประกอบที่จะทำให้บุคคลนั้นเป็นอย่างที่เคยเป็นหรือเคยสะสมมาแล้ว ถ้าไม่เคยเห็นประโยชน์ของการฟังธรรมเลย กี่ชาติให้ฟังธรรม แสดงประโยชน์ เขาก็ไม่ฟัง

~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าใครจะกล่าว นำมาซึ่งประโยชน์หรือโทษ? นำมาซึ่งประโยชน์ ให้เข้าใจถูกต้อง ไม่ว่าใครพูด พูดความจริงย่อมเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ไม่ใช่ว่าคฤหัสถ์พูดไม่ได้ แต่ว่า ใครก็ตามที่กล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นคือ คำของพระองค์ไม่ใช่คำของคนนั้น เพราะฉะนั้น จะไม่ให้เขากล่าวพระธรรมวินัยตามที่ได้เข้าใจหรือ?

~ พระธรรมวินัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว เป็นศาสดาทุกยุคทุกสมัย จะเอาคนอื่นมาเป็นผู้ชี้ขาดสั่งโน่นสั่งนี่หรือว่าทำอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น เมื่อพุทธบริษัทพร้อมเพรียงกัน ก็คือ ไม่ว่ามีเรื่องใดๆ เกิดขึ้น ก็ต้องกล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเป็นศาสดาแทนพระองค์ ว่า อะไรถูก อะไรผิด ไม่ใช่ตามอำเภอใจ

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ความจริงถึงที่สุด ใครๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ ถ้าได้ฟังคำของพระองค์ ทุกคำเป็นความจริงทุกกาลสมัย เพราะไม่ได้เกิดจากความคิด แต่ว่าเกิดจากการประจักษ์แจ้งสภาพธรรมจนหมดความสงสัยและความไม่รู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง

~ พระพุทธศาสนาไม่ได้สาธารณะกับคนทั่วไป แต่ต้องเป็นคนที่สะสมมาที่จะเป็นคนตรง ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด แล้วถูกอย่างไร ผิดอย่างไร ไม่ใช่เอาตัวเองตัดสิน แต่ต้องเป็นความเป็นจริงของสิ่งนั้น ซึ่งก็คือ ธรรม เพราะฉะนั้น ถ้าจะกล่าวว่าผู้ที่นับถือธรรม ก็คือ ผู้ที่นับถือความถูกต้อง ความตรง และความจริงต่อสิ่งที่มีจริง

~ ความคิดต่างๆ ในทางที่ไม่สุจริต เป็นเหตุที่ไม่ดี ถ้ามีปัญญา รู้ว่า ถ้าทำอย่างนี้แล้วผลคืออะไร จะทำไหม? ก็ไม่ทำ แต่เพราะไม่รู้ จึงทำทุจริต จะรู้ได้เลยว่า ขณะที่ใครทำทุจริตต่างๆ ทำไม่ดีต่างๆ เพราะไม่รู้ ว่า นั่น เป็นเหตุที่จะทำให้เกิดผลที่ไม่ดี

~ ธรรม ยาก จะง่ายได้อย่างไร ไม่มีทางง่ายเลย แต่ว่ามีโอกาส มีบุญที่ได้สะสมมาที่จะมีโอกาสได้ฟังคำซึ่งคนที่ไม่สนใจ ไม่ได้สะสมมา ก็จะไม่เห็นประโยชน์ แต่ว่าถ้าเป็นคนที่สะสมมา แม้แต่คำเดียวก็สะดุดใจ รู้ว่าลึกซึ้ง และเป็นประโยชน์มากกับชีวิต

~ แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฟังเพื่อละความไม่รู้ แทนที่จะไปคิดว่าเราจะต้องเข้าใจเยอะแยะ แต่ฟังเพื่อละความไม่รู้ ซึ่งแต่ละคำ ทำให้ตรงต่อความเป็นจริงในความเป็นธรรม ซึ่งไม่ใช่เรา

~ สิ่งที่มีมาก คือ ความไม่รู้กับการยึดถือว่าเป็นเรา เราจะรู้ไหมว่ามากแค่ไหนในแสนโกฏิกัปป์ แน่นแค่ไหน หนักแค่ไหน จมลงไปแค่ไหน กว่าจะค่อยๆ รู้ความจริงได้ ต้องอาศัยความเพียรและบารมีคุณความดีประการต่างๆ จริงๆ

~ จิตที่ไม่ดีเกิดขึ้นจะมีวาจาดีได้ไหม คำพูดก็กระโชกโฮกฮาก ไร้ความเป็นมิตร แต่ถ้าจิตที่ดีเกิดขึ้น ก็จะมีความเป็นมิตร มีความเป็นเพื่อน มีความหวังดี พูดคำจริง เพราะเหตุว่าเป็นเพื่อนก็ต้องให้สิ่งที่ถูกต้อง จะให้สิ่งที่เท็จ ให้สิ่งที่ไม่จริงได้อย่างไร

~ แต่ละคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ฟังเพื่อละความไม่รู้ แทนที่จะไปคิดว่าเราจะต้องเข้าใจเยอะแยะ แต่ฟังเพื่อละความไม่รู้ ซึ่งแต่ละคำ ทำให้ตรงต่อความเป็นจริงในความเป็นธรรม ซึ่งไม่ใช่เรา

~ ถ้าเหตุไม่ดี คือ ทุจริต ทำให้เกิดเป็นคนไม่ได้ แต่ทำให้เกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉาน สัตว์ประเภทต่างๆ มีรูปร่างต่างๆ ตามความวิจิตรของกรรมที่ทำไว้ ใครก็บันดาลไม่ได้ เลือกเกิดไม่ได้

~ การฟังพระธรรมแล้วเข้าใจขึ้น ไม่ได้ทำความเดือดร้อนให้ใครเลย แม้แต่ตนเอง ถ้าเคยโกรธแล้วรู้ว่าโกรธไม่ดี ปัญญาเห็นโทษของความโกรธ ความโกรธก็ค่อยๆ ลดน้อยลง แต่ถ้ายังไม่เห็นโทษ ก็ยังโกรธอยู่นั่นแหละ

~ สิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ ชั่วคราว แสนสั้น แต่ไม่มีใครรู้จนกว่าจะได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ค่อยๆ เข้าใจขึ้น แล้วสิ่งที่พระองค์ตรัสไว้ดีแล้วทั้งหมดก็จะค่อยๆ เปิดเผยด้วยปัญญาที่เข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริง ว่า ธรรม เป็นธรรม ไม่ใช่เรา

~ ค่อยๆ ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปทีละคำ ค่อยๆ เข้าใจมั่นคงขึ้นแล้วจะรู้ว่าเกิดแล้วต้องตาย ไม่ตายไม่ได้ และจะตายวันไหนก็ไม่รู้ด้วย นี่ก็แสดงความจริงชัดเจนว่าไม่มีใครสามารถบังคับบัญชาการเกิดการตายได้เลย

~ เห็นประโยชน์อย่างยิ่งของการที่เกิดมาแล้วต้องจากโลกนี้ไป แต่จะจากไปด้วยความไม่รู้ด้วยความไม่เข้าใจอะไรเลย หรือว่า จากไป ก็ยังรู้ความจริงซึ่งจะสามารถทำให้ได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมทั้งหมด ไม่มีใครเป็นเจ้าของ ไม่มีใครสามารถที่จะบังคับบัญชาอะไรได้เลยทั้งสิ้น


ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๖๒๓

... กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และยินดีในกุศลของทุกๆ ท่านครับ ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
nattawan
วันที่ 6 ส.ค. 2566

สิ่งที่มีเดี๋ยวนี้ ชั่วคราว แสนสั้น แต่ไม่มีใครรู้จนกว่าจะได้ฟังคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ค่อยๆ เข้าใจขึ้น แล้วสิ่งที่พระองค์ตรัสไว้ดีแล้วทั้งหมดก็จะค่อยๆ เปิดเผยด้วยปัญญาที่เข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริง ว่า ธรรม เป็นธรรมไม่ใช่เรา

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาอ.คำปั่นค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 6 ส.ค. 2566

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
capacitor4
วันที่ 6 ส.ค. 2566

กราบขอบพระคุณและกราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
swanjariya
วันที่ 6 ส.ค. 2566

กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
jaturong
วันที่ 6 ส.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
shsso2551
วันที่ 6 ส.ค. 2566

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
มังกรทอง
วันที่ 6 ส.ค. 2566

สนทนาธรรมเกิดขึ้น กุศลมี ทางสื่อไลน์วิถี เลิศล้ำ อาจารย์สุจินต์ศรี ทางถูก ฟังแห่งความดีค้ำ ซึ่งล้วนปัญญา

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
มังกรทอง
วันที่ 6 ส.ค. 2566

ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Lai
วันที่ 6 ส.ค. 2566

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 7 ส.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Jans
วันที่ 7 ส.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
เมตตา
วันที่ 8 ส.ค. 2566

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง และยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
เมตตา
วันที่ 8 ส.ค. 2566

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
chatchai.k
วันที่ 5 ก.ย. 2566

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ