สัตว์ที่ได้วิมุตติรสมีเป็นส่วนน้อย

 
บ้านธัมมะ
วันที่  18 พ.ค. 2566
หมายเลข  45926
อ่าน  93

อังคุตตรนิกาย ข้อ ๒๐๕

ข้อความต่อไป

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

สัตว์ที่ได้ข้าวอันเลิศและรสอันเลิศมีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ไม่ได้ข้าวอันเลิศและรสอันเลิศ ยังอัตตภาพให้เป็นไปด้วยการแสวงหา ด้วยภัตรที่นำมาด้วยกระเบื้อง มากกว่าโดยแท้

ทรงย้อนกลับมาถึงชีวิตตามปกติ เพื่อที่จะให้เห็นว่ากุศลธรรมมาก หรือว่าอกุศลธรรมมาก ซึ่งจะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่น่าพอใจและไม่น่าพอใจ ที่จะต้องสลดใจ ปรารภความเพียรโดยแยบคาย เพราะว่าเห็นชีวิตของสัตว์โลกส่วนมากเป็นอย่างไร น่าสลดใจไหมกับชีวิตที่เป็นไปตามกรรม ตามเหตุปัจจัยที่ว่า ผู้ใดจะได้สิ่งที่ประณีตอันเลิศนั้นมีเป็นส่วนน้อยจริงๆ ตามเหตุ คือ กุศล แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วไม่เป็นอย่างนั้น

ข้อความต่อไป

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

สัตว์ที่ได้อรรถรส ธรรมรส วิมุตติรสมีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ไม่ได้อรรถรส ธรรมรส วิมุตติรสมากกว่าโดยแท้

เมื่อพูดถึงรสของข้าวของอาหารก็ยังเห็นว่า ผู้ที่ได้อย่างประณีตนั้นเป็นส่วนน้อย แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ที่ได้ข้าว ได้รสของข้าวของอาหาร เลิศหรือไม่เลิศก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์ที่ได้อรรถรส ธรรมรส วิมุตติรสแล้วมีเป็นส่วนน้อย สัตว์ที่ไม่ได้อรรถรส ธรรมรส วิมุตติรสมากกว่าโดยแท้ พูดถึงรสของธรรมยิ่งน้อยกว่าผู้ที่ได้รสของข้าวอันเลิศ อาหารอันเลิศ เพราะว่าเป็นเรื่องที่แสนยากจริงๆ เป็นเรื่องที่จะต้องอาศัยการอบรมจนกว่าจะบรรลุถึงอรรถรส ธรรมรส วิมุตติรส

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

เปรียบเหมือนในชมพูทวีปนี้ มีสวนที่น่ารื่นรมย์ มีป่าที่น่ารื่นรมย์ มีภูมิประเทศที่น่ารื่นรมย์ มีสระโบกขรณีที่น่ารื่นรมย์เพียงเล็กน้อย มีที่ดอน ที่ลุ่ม เป็นลำน้ำ เป็นที่ตั้งแห่งตอและหนาม มีภูเขาระเกะระกะเป็นส่วนมาก ฉะนั้น เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ได้อรรถรส ธรรมรส วิมุตติรส

ดูกร ภิกษุทั้งหลายเธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล

จบลงด้วยพระธรรมเทศนาที่ว่า พึงศึกษาอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ได้อรรถรส ธรรมรส วิมุตติรส พระธรรมเทศนาทั้งหมด ไม่พ้นไปจากการเจริญสติปัฏฐาน แม้ในขณะที่ท่านผู้ฟังกำลังฟัง ถ้ามีความเข้าใจการเจริญสติปัฏฐานแล้ว ก็เป็นธรรมกถาที่ทำให้ท่านผู้ฟังเกิดวิริยะ ความเพียรที่สติจะระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมตามปกติ ตามความเป็นจริง เพื่อที่จะได้บรรลุถึงอรรถรส ธรรมรส และวิมุตติรส

ขณะใดที่สติระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม ในขณะนั้นไม่ใช่เพียงขั้นการฟัง แต่เป็นขั้นปฏิบัติ ที่สติกำลังระลึกแล้วรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมถูกต้องตามความเป็นจริงได้ ปกติธรรมดา ไม่ต้องไปดิ้นรนขวนขวายที่จะไปทำอย่างอื่นด้วยความเป็นตัวตน แต่ลักษณะของสติ คือ ขณะที่ระลึกรู้สภาพธรรมที่กำลังปรากฏ

ที่ใช้คำว่า ระลึกรู้ เพราะเหตุว่าขณะใดที่สติระลึกรู้ จะมีการปรากฏลักษณะของธรรม เพราะลักษณะของสติซึ่งเป็นนามธรรม มีการระลึกได้เป็นลักษณะ มีการไม่หลงลืมเป็นกิจ มีการรักษาอารมณ์ ซึ่งหมายความถึง การปรากฏลักษณะของอารมณ์ เป็นอาการปรากฏ มีสัญญาอันมั่นคงเป็นปทัฏฐาน หรือมีสติปัฏฐาน ๔ เป็นปทัฏฐาน คือ เป็นเหตุใกล้ให้เกิด ที่จะทราบว่าขณะใดมีสติ เพราะมีการปรากฏลักษณะของอารมณ์ มีสติปัฏฐาน ๔ เป็นเหตุใกล้ให้เกิด

ถ้าบุคคลหนึ่งบุคคลใดกล่าวว่า ขณะนั้นสติระลึกไม่ได้ ขณะนี้สติระลึกไม่ได้ นั่นเป็นคำกล่าวที่แสดงความไม่รู้ในลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม หรือเป็นคำกล่าวที่แสดงความเคลือบแคลง ความสงสัย ความคิดว่า จะรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมไม่ได้ ในเมื่อเป็นของจริง มีจริง มีลักษณะปรากฏที่สติสามารถที่จะระลึกได้ ทำไมกล่าวว่า ขณะนั้นเจริญสติปัฏฐานไม่ได้ ถ้ากล่าวอย่างนั้น ก็เป็นคำที่แสดงความไม่รู้ แสดงความเคลือบแคลงสงสัยในลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม

อย่างทางตา กำลังเห็นอย่างนี้จะกล่าวว่า ขณะนี้เจริญสติปัฏฐานไม่ได้ กล่าวอย่างนี้ผิดหรือถูก กำลังเห็นแล้วกล่าวว่า ขณะนี้เจริญสติปัฏฐานไม่ได้ เป็นคำที่แสดงความไม่รู้ในลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม แสดงความเคลือบแคลงสงสัยว่า จะรู้ได้หรือ และแสดงความเคลือบแคลงสงสัยว่า จะรู้ได้อย่างไร เพราะเหตุว่าข้อปฏิบัติที่ปฏิบัติอยู่นั้นไม่ใช่ข้อปฏิบัติที่จะทำให้รู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริงได้

กำลังได้ยิน กำลังสนุก กำลังรื่นเริง กำลังโศกเศร้า กำลังอาลัยอาวรณ์ สารพัดอย่างที่จะเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยในวันหนึ่งๆ ตามที่แต่ละท่านได้สะสมมา เป็นสิ่งที่สติจะต้องระลึก แล้วก็ละ ไม่ใช่ไปบังคับไว้ เป็นเรื่องจริง เป็นชีวิตจริง เป็นนามธรรม เป็นรูปธรรมจริงๆ ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ซึ่งจะต้องอบรมเจริญสติปัญญาเรื่อยไป จนกว่าปัญญานั้นจะคมกล้า สามารถแทงตลอดในสภาพที่ไม่ใช่ตัวตน เกิดขึ้นและก็ดับไปของนามธรรมและรูปธรรมจริงๆ เป็นสิ่งที่ทุกท่านสามารถจะประจักษ์ได้ด้วยการเจริญสติปัฏฐานเป็นปกติ แต่ถ้าไม่เจริญเป็นปกติ ไม่มีทางที่จะประจักษ์สภาพธรรมตามความเป็นจริงได้ ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 230


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ