พระผู้มีพระภาคตรัสสรรเสริญพระสารีบุตร

 
บ้านธัมมะ
วันที่  6 ก.ย. 2565
หมายเลข  43699
อ่าน  508

ใน สังยุตตรนิกาย สคาถวรรค ภาค ๒ ... ปวารณาสูตร ที่ ๗

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับ ณ ปุพพาราม ปราสาทของวิสาขา มิคารมารตา เขตพระนครสาวัตถี พระองค์ประทับกับภิกษุสงฆ์ประมาณ ๕๐๐ รูป ล้วนเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด พระองค์ประทับนั่งในที่แจ้ง เพื่อทรงปวารณาในวันอุโบสถ ๑๕ ค่ำ พระผู้มีพระภาครับสั่งกับภิกษุทั้งหลายว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้เราขอปวารณาเธอทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะไม่ติเตียนกรรมไรๆ ที่เป็นไปทางกายหรือทางวาจาของเราบ้างหรือ

ท่านพระสารีบุตรก็ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาค ว่า พระองค์เป็นศาสดาและสาวกก็เป็นผู้ประพฤติปฏิบัติตามพระองค์ เพราะฉะนั้น ก็ไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเลยที่สาวกทั้งหลายจะติเตียนพระผู้มีพระภาคได้ เพราะพระองค์เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมกันนั้นท่านพระสารีบุตรก็ได้กราบทูลว่า พระผู้มีพระภาคจะไม่ทรงติเตียนกรรมไรๆ ที่เป็นไปทางกายหรือทางวาจา ของภิกษุทั้งหลายเหล่านี้บ้างหรือ

พระผู้มีพระภาคก็ตรัสสรรเสริญท่านพระสารีบุตร เวลาที่ท่านพระสารีบุตร กราบทูลว่า พระผู้มีพระภาคจะไม่ทรงติเตียนกรรมไรๆ ของภิกษุ ๕๐๐ รูป เหล่า นี้บ้างหรือ พระผู้มีพระภาคก็ได้ตรัสว่า พระองค์ไม่ทรงติเตียนกรรมไรๆ ที่เป็นไปทาง กายหรือทางวาจา ของบรรดาภิกษุ ๕๐๐ รูปเหล่านี้ เพราะบรรดาภิกษุ ๕๐๐ รูปเหล่านี้ ภิกษุ ๖๐ รูปเป็นผู้ได้วิชชา ๓ ภิกษุ ๖๐ รูปเป็นผู้ได้อภิญญา ๖ ภิกษุ ๖๐ รูปเป็นผู้ได้ อุภโตภาควิมุตต ภิกษุที่เหลือได้ปัญญาวิมุตติ นี่ก็เป็นเครื่องแสดงให้เห็นแล้วนะคะว่า ในการเจริญสติปัฏฐานในสำนักของพระผู้มีพระภาคนั้น แล้วแต่อัธยาศัยว่าท่านผู้ใดเคยเจริญสมาธิถึงขั้นที่จะได้ วิชชา ๓ ถึงขั้นที่จะได้อภิญญา ๖ สามารถแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ ได้ หรือสามารถที่จะได้อุภโตภาควิมุตต คือเจริญสมถะได้ฌานแล้วบรรลุมรรคผล แต่ว่าที่เป็นปัญญาวิมุตติมีมากกว่า ... แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 21


รับฟัง ... ปวารณาสูตร


เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ