ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๗๓

 
khampan.a
วันที่  14 ส.ค. 2565
หมายเลข  43474
อ่าน  941

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น


ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๗๓



~ ตลอดพระชนม์ชีพ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงให้ประโยชน์กับคนอื่นจากแต่ละคำ แม้ว่าเขาจะอยู่แสนไกล หรือใกล้ที่จะปรินิพพาน ก็ไม่ทรงละเว้นโอกาสที่จะให้คนอื่นได้รับสิ่งที่จะเป็น ประโยชน์แก่เขาต่อไปในสังสารวัฏฏ์

~ แต่ละคำ ไม่ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสเรื่องอะไร ก็กล่าวถึงสิ่งที่มีจริงในขณะนี้ ฟังจนกว่าจะเข้าใจขึ้น นี้คือ ประโยชน์ของการฟังพระธรรม มีค่าทุกครั้งที่ความเข้าใจเกิดขึ้น

~ คนที่มีความเข้าใจธรรม ก็รู้ว่า เป็นผู้ที่มีความเมตตา มีความเป็นมิตร มีความเป็นเพื่อนที่ดีกับทุกคนได้ เพราะเป็นกุศลประเภทหนึ่ง ความเข้าใจอย่างนี้จะทำให้มีทานบารมีและศีลบารมีด้วย เพราะเมื่อมีความหวังดีกับใคร มีความเป็นเพื่อนจะไม่ทำร้ายคนนั้นเลย เป็นศีลบารมี เว้นทุจริตที่จะทำให้คนอื่นเดือดร้อน

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงให้เห็นความจริงว่า ธรรมที่เป็นฝ่ายอกุศล มี และ ธรรมที่เป็นกุศล ก็มี แต่ว่าตราบใดที่ศรัทธายังไม่มั่นคง อกุศลก็ต้องเกิดมาก เช่นทุกวัน ใช่ไหม? เพราะฉะนั้น การได้ฟังอย่างนี้ ก็เป็นการเตือนให้แต่ละคนไม่ประมาทที่จะเห็นโทษของอกุศลและเห็นประโยชน์ของกุศลแม้เพียงเล็กน้อย

~ ทุกคนสามารถที่จะให้ทุกอย่างที่มีกับคนอื่นได้ไหม นี่เป็นความจริงเพราะยังมีกิเลส แต่สิ่งที่สามารถจะให้ได้ เมื่อมีความเห็นที่ถูกต้อง คือ ให้คนอื่นมีความเข้าใจที่ถูกต้อง แม้ว่าจะไม่สามารถให้ทุกอย่างที่มีกับคนอื่นได้

~ ควรไหมที่จะอนุเคราะห์ด้วยคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระมหากรุณาแสดงความจริงของทุกคำ เพื่อให้เกิดปัญญาความเข้าใจที่ถูกต้อง ถ้าอะไรที่ไม่ถูกต้อง ควรอนุเคราะห์ด้วยคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ถูกต้อง

~ ทดแทนคุณพ่อแม่ ก็ด้วยการเป็นคนดี พ่อแม่ทุกคนหวังให้ลูกเป็นคนดี มีใครอยากให้ลูกเป็นโจรบ้างไหม มีใครอยากให้ลูกทุจริตบ้างไหม มีใครอยากให้ลูกโกหกบ้างไหม มีใครอยากให้ลูกทำไม่ดีบ้างไหม? เพราะฉะนั้น เมื่อจะตอบแทนคุณ ก็ทำดี ดีกว่าบวชแล้วทำไม่ดี เพราะฉะนั้น บวชไปไม่ได้แทนคุณ เพราะผิดพระวินัย

~ หนักในความโกรธ ไม่เห็นโทษของความโกรธมากแค่ไหน? ความโกรธนิดเดียว ถ้าเห็นว่าเป็นโทษ จะปล่อยให้มากจนกระทั่งหนักในความโกรธไหม? แต่เพราะเหตุว่า ไม่เห็นโทษแม้เพียงเล็กน้อยของสิ่งที่เป็นโทษ ก็ประมาทในสิ่งนั้น สิ่งนั้น ก็เพิ่มขึ้นจนหนักในความโกรธ เมื่อเป็นคนที่หนักในความโกรธแล้วทำอะไรได้บ้าง? สารพัดอย่าง ที่เวลาไม่โกรธทำไม่ได้ หรือเวลาโกรธเพียงเล็กน้อยก็ทำไม่ได้อีกเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ทั้งหมดขึ้นอยู่กับเพราะไม่รู้จึงเป็นอย่างนั้น แต่เมื่อรู้ความจริงเมื่อไหร่ ความเข้าใจความถูกต้องในสิ่งที่มีจริง สงบไหม?

~ ทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ที่จะให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะเหตุว่า ถ้าไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้อง มีหรือที่กุศลทั้งหลายจะเจริญขึ้น

~ สิ่งใดที่ล่วงไปแล้วไม่สามารถจะแก้ไขได้ แต่ต่อไปนี้ ก็จะทำสิ่งที่ถูกต้อง เพราะรู้ว่าสิ่งใดผิดก็ไม่ทำ นี่คือปัญญา ถ้าเป็นผู้ที่มีปัญญาเห็นถูก จะไม่ทำสิ่งที่ผิด เพราะปัญญานำไปในกิจทั้งปวงที่เป็นกุศล

~ ชาติหน้า อาจจะมาถึงเร็วมาก โดยไม่รู้ตัวเลย เพราะฉะนั้น เวลาที่ยังเหลืออยู่ซึ่งไม่รู้ว่าจะมากน้อยเท่าไหร่ก็ควรจะเป็นเวลาที่มีค่าที่ได้ความเข้าใจจากพระธรรม เพราะว่าสามารถที่จะทำให้เกิดเป็นมนุษย์หรือว่าเป็นเทวดาก็แล้วแต่ แต่ก็มีโอกาสได้ฟังพระธรรมต่อไป เพราะสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตในสังสารวัฏฏ์ ก็คือ การเข้าใจความจริงที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้

~ เหตุกับผลต้องตรงกัน เพราะฉะนั้น อกุศลธรรม ธรรมฝ่ายไม่ดี ก็จะต้องนำไปสู่ภพภูมิที่ไม่ดี ตรงกันข้าม ธรรมฝ่ายดีก็ต้องนำไปสู่ภพภูมิที่ดี ชีวิตประจำวัน ไปนรกง่ายไหม? ลองคิดดู เพราะอกุศล มาก แต่ตราบใดที่ยังไม่ถึงขั้นที่กระทำทุจริตกรรม คือ เบียดเบียนให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ยังไม่ใช่เหตุที่สมควรที่จะนำไปสู่อบายภูมิ แต่ว่าสามารถที่จะสะสมสืบต่อในจิตทำให้เป็นผู้ที่มีอุปนิสัยอย่างนั้น

~ ทุกอย่างเกิดแล้วดับไป ไม่กลับมาอีก เพราะฉะนั้น จะเป็นเราหรือจะเป็นของใคร ไม่ได้ ข้อสำคัญ คือ ต้องเกิดอีก ต้องมีคนใหม่ที่มาจากคนนี้ ดีชั่ว อย่างไร ที่ได้สะสมไว้ในชาตินี้ และในชาติก่อนๆ ก็จะติดตามสืบต่อไป เป็นคนต่อไป เพราะฉะนั้น ถ้าเห็นโทษของความไม่ดี ชาตินี้ก็เป็นคนดีที่สุด เท่าที่จะดีได้ ด้วยการเข้าใจธรรมขึ้นทีละเล็กทีละน้อย

~ คนที่มีกิเลสมาก ธรรมก็ไม่ฟัง แค่จะฟังก็ยังไม่ฟังแล้วจะไปละกิเลสอะไรได้ เพราะฉะนั้น ก็รู้ได้เลยพระธรรมที่ทรงแสดง เพื่อให้เข้าใจถูกว่าอะไรดี อะไรชั่ว และเมื่อรู้แล้ว ท่านใช้คำว่าก็อบรม ท่านใช้คำว่าฝึกก็ได้ อะไรก็ได้ หมายความว่าจากที่ไม่เคยเป็น ก็เป็นได้ จากที่ไม่เคยมี ก็มีได้ คือ จากความโกรธที่มากเหมือนกับว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่โกรธ แต่เมื่อฟังพระธรรมแล้ว สิ่งที่ไม่คิดว่าจะมี ก็มีได้ คือ ไม่โกรธ คิดว่าจะไม่อภัย แต่ฟังธรรมแล้ว เป็นได้ คือ อภัยได้

~ ถ้าทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้คนอื่น รู้ไหมว่านั่นคือประโยชน์ของตนเอง ไม่ต้องไปหาประโยชน์มาให้ตัวเองอีก แค่นั้นแหละนั่น ก็เป็นประโยชน์ของตนเองแล้ว เพราะสามารถที่จะทำความดีได้ สามารถที่จะละความติดข้อง แล้วก็สามารถที่จะเห็นว่าคนอื่นที่เราสามารถที่จะช่วยเขาได้ในทุกอย่างด้วยความหวังดีอย่างแท้จริง นั่นคือ ความเป็นมิตรที่ดี

~ เมื่อเกิดมาแล้ว ทำดีและศึกษาพระธรรม ก็คุ้มแล้วกับที่เกิดมา

~ เราไม่สามารถที่จะแก้ไขใครได้เลย แต่ความเข้าใจต่างหากที่แก้ไขกิเลสซึ่งแต่ละคนมีสะสมมา ซึ่งคนอื่นก็แก้ไขให้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นหนทางเดียว คือ ยิ่งทำให้คนมีโอกาสได้ฟังได้เข้าใจธรรม ก็จะเป็นประโยชน์ เพราะทุกคนต้องแก้ไขตัวเอง

~ จะละชั่ว ละทุจริตทั้งหมดได้ ก็ด้วยคุณความดี และที่สำคัญที่สุด ก็คือ ความดีจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีปัญญา

~ มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น แต่เพื่อที่จะเข้าใจธรรม ศึกษาธรรม อบรมเจริญปัญญา ขัดเกลากิเลส

~ ธรรมที่เป็นฝ่ายกุศลที่สะสมมายังไม่มากพอที่จะเท่ากับทางฝ่ายอกุศล ถ้าเห็นอย่างนี้จริงๆ ก็ยิ่งต้องเพิ่มความเพียรทางฝ่ายกุศลขึ้น ความเพียรขั้นต้นของการเจริญกุศล ก็คือ ต้องเพียรฟังพระธรรมให้เข้าใจเพิ่มขึ้น ไม่ใช่วันนี้วันเดียว แต่ว่าวันอื่นๆ ต่อไปด้วย



ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๕๗๒



...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
เจียมจิต สุขอินทร์
วันที่ 14 ส.ค. 2565

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
capacitor4
วันที่ 14 ส.ค. 2565

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง กราบขอบพระคุณอาจารย์คำปั่น กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
puttara2424
วันที่ 15 ส.ค. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
meenalovechoompoo
วันที่ 15 ส.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
jaturong
วันที่ 15 ส.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
มังกรทอง
วันที่ 15 ส.ค. 2565

ลึกซิ้งมากขอรับ ด้วยจิตและเจตสิก ไม่ใช่เรา จักเข้าถึงปัญญาเมื่อใดนั้นอยู่ที่กุศลธรรมที่สะสมมา น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
tim7755tim
วันที่ 15 ส.ค. 2565

กราบขอบพระคุณค่ะท่านอาจารและกัลยานมิตทุกท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
tim7755tim
วันที่ 15 ส.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้นกราบอนุโมทนากุศลค่ะท่านอาจาร

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
สิริพรรณ
วันที่ 15 ส.ค. 2565

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ ด้วยความเคารพอย่างสูง
กราบขอบพระคุณยินดีในกุศล อ.คำปั่นด้วยค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 15 ส.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
xaychlisaengthxng7
วันที่ 16 ส.ค. 2565

ขอนอบน้อมแดพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น กราบอนุโมทนากุศลธรรมค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
เข้าใจ
วันที่ 16 ส.ค. 2565

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 17 ส.ค. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 17 ส.ค. 2565

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
tim7755tim
วันที่ 18 ส.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
กราบอนุโมทนากุศลค่ะท่านอาจารย์และกัลยาณมิตทุกท่าน
ชีวิตที่เหลือเพื่อเข้าใจพระธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
kukeart
วันที่ 21 ส.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ