อะไรคือตัว ความคิด ที่วัดค่าได้ด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

 
offline
วันที่  22 มี.ค. 2565
หมายเลข  42909
อ่าน  468

ปัจจุบันเราสามารถแปลง คลื่นสมอง ออกมาเป็นคำสั่ง เป็นภาพได้

เป็นคำสั่ง (ใกล้เข้าสู่ระดับอุตสาหกรรม) YouTube: Monkey Mind Pong

เป็นรูปภาพที่คิดอยู่ (อยู่ในระดับของงานวิจัย)

Voluntary control of semantic neural representations by imagery with conflicting visual stimulation

https://www.nature.com/articles/s42003-022-03137-x

(ทำลิงก์ไม่ได้)

ควรจะอธิบายเป็นลักษณะของรูปธาตุนามธาตุอย่างไรดีครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
offline
วันที่ 23 มี.ค. 2565

ขอถามคำถามเพิ่มเติม ช่วงนี้กำลังพยายามทำความเข้าใจเรื่องจิต เรื่องรูป เรื่องสมอง จากในความรู้สึกส่วนตัว เห็นว่าที่ผ่านมา มีการพยายามนำ interpretation ทางวิทยาศาสตร์แบบนิยัตินิยม เข้ามาเจือผสมผสานในการอธิบายอภิธรรม จึงอยากพยายามแยกแยะ กลั่นกรองความเข้าใจตัวเองเท่าที่จะพอทำได้ เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนขึ้นครับ คำถามคือ เคยได้ยินผู้กล่าวว่า ทั้ง หทยวัตถุ และ หทยรูป ไม่มีในพระไตรปิฎกบาลี มีการเติม หทย เข้ามาเองในการแปลไทย ข้อความนี้ มีความเท็จจริงหรือพออธิบายอย่างไรได้บ้างครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
paderm
วันที่ 23 มี.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขณะที่คิด เป็นธรรมที่มีจริงเป็น จิต ที่คิด คิดถึงเรื่องราวต่างๆ จากการได้เห็นบ้าง ได้ยินบ้าง ได้กลิ่นบ้าง รวมไปถึงในขณะที่ฝันด้วย ดังนั้น ขณะที่คิด อะไรที่มีจริง ก็ต้องเป็น จิต เป็นสภาพธรรมที่มีจริง (และเมื่อจิตเกิดขึ้น ก็ต้อง มีสภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิต คือ เจตสิก ด้วย) ส่วนเรื่องราวที่ จิต คิดนั้น ไม่ใช่สิ่งที่มีจริง ไม่ใช่รูปธรรมและนามธรรม แต่เป็นบัญญัติเรื่องราวต่างๆ เรื่องราวต่างๆ นั้น เป็นสิ่งที่จิตรู้ เรื่องราวจึงเป็น อารมณ์ของจิต ที่กำลังคิดในขณะนั้น ซึ่งก็จะเข้าใจไปถึงคำว่า อารมณ์ ด้วย เพราะสิ่งใดก็ตามที่จิตรู้สิ่งนั้นเป็น อารมณ์ ของจิต

คิดดี เป็นกุศลจิต เป็นต้น เป็นกุศลกรรม คิดไม่ดี มี อกุศลจิต เป็นอกุศลกรรม เมื่อคิดดี หรือ ไม่ดี มีการขยับ มีการแสดงออกทางกาย วาจา ขณะนั้น ด้วยกุศลกรรม และ อกุศลกรรม ไม่ใช่วิบาก ไม่ใช่ผลของกรรม ครับ ผลของกรรมที่เป็นวิบากในชีวิตประจำวัน เช่น เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้กระทบสัมผัส เป็นต้น ครับ

การรู้จักคิด ก็คือการรู้จักจิต เจตสิกที่ป็นนามธรรม รู้จักตามความเป็นจริง ด้วยปัญญา ไม่ใช่รู้จากเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ครับ เพราะ ปัญญารู้จักคิด ตามความเป็นจริงว่าไม่ใช่เราคิด แต่เป็นธรรมที่ทำหน้าที่คิด ซึ่งไม่พ้นจาก จิต เจตสิก ครับ

คลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ

ภาวรูปและหทัยวัตถุ [อภิธัมมัตถสังคหบาลี]

หทยรูปเป็นรูปซึ่งเป็นที่เกิดของจิต

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 23 มี.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
offline
วันที่ 23 มี.ค. 2565

ยังไงขอรบกวนเท่านี้เดี๋ยวขอทบทวนคำตอบอ.อีกหลายๆ ครั้ง เพื่อทำความเข้าใจเพิ่มเติม เพราะยังทำความเข้าใจไม่ครบ รีบตอบไปหน่อย ขอบคุณมากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
khampan.a
วันที่ 23 มี.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรม เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง ก็ต้องค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ ศึกษา ค่อยๆ ไตร่ตรองในเหตุในผลตรงตามความเป็นจริง แม้แต่ที่มีการกระทำอะไรต่างๆ มีการคิดที่จะผลิตสิ่งต่างๆ ออกมา สร้างสิ่งต่างๆ ที่เป็นสิ่งที่ทันยุคทันสมัย ถ้าหากว่าไม่มีสภาพธรรมที่เป็นนามธรรม คือ จิตและเจตสิกธรรมที่เกิดร่วมด้วยแล้ว ก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย และแสดงถึงความเป็นสภาพธรรมที่เป็นอนัตตาจริงๆ เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น นามธรรม คือ จิตและเจติสกธรรมที่เกิดร่วมด้วย เป็นสภาพรู้ธาตุรู้ ส่วนรูปธรรม ไม่สามารถรู้อะไรได้เลย ครับ

ขอเชิญศึกษาเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ

จิตกับสมอง

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 23 มี.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ