การให้ทานที่ขัดต่อธรรมวินัย

 
lokiya
วันที่  3 ม.ค. 2565
หมายเลข  41869
อ่าน  447

ทานนั้นจะยังมีผลและมีอานิสงค์อยู่หรือไม่


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 4 ม.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

คงต้องแยกคำว่า ให้ กับ ทาน ก่อนนะครับ คำว่า ให้ ไม่ได้หมายถึงจะต้องเป็นกุศลเสมอไป บางคนให้ เพื่อแลกเปลี่ยน ให้เพราะตั้งใจจะทำร้าย ขณะที่ให้ ไม่ใช่กุศล ไม่ได้มีเจตนาสละ ที่เป็นอโลภะ ที่เป็นกุศลจิต แต่เป็นการให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งด้วยจิตที่เป็นอกุศลครับ การให้ด้วยความไม่รู้ ก็มีได้ ไม่รู้ว่าเงินไม่ควรให้พระภิกษุ ทำให้ท่านต้องอาบัติ เป็นต้น การให้ด้วยกิเลส ก็ไม่เป็นกุศล แต่การให้ที่เป็นกุศลก็มี เป็นทานครับ ดังนั้น เมื่อให้ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นกุศลเสมอไปครับ นี่พูดถึงคำว่า ให้ แต่เมื่อกล่าวถึง คำว่าทาน คือเจตนาสละวัตถุ อันเป็นอโลภะ คือ ความไม่ติดข้องในขณะนั้น ด้วยจิตที่เป็นกุศล ขณะนั้นที่เป็นทาน จะต้องเป็นกุศลเสมอครับ

-วัตถุทาน การให้ การสละวัถตุสิ่งของเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น เพราะบุคคลผู้ควรแก่การรับทานนั้นมีมาก ถ้ามีโอกาสที่จะสละวัตถุสิ่งของเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่นแล้ว ก็ย่อมเป็นสิ่งที่ควรทำ เป็นการช่วยเหลือเกื้อกูลกันให้ไม่เดือดร้อนในชีวิตประจำวัน

-อภัยทาน เป็นการให้ความไม่มีภัยแก่ผู้อื่น ไม่มีวัตถุสิ่งของที่จะให้ แต่ก็ควรพิจารณาว่า จะยากกว่าการสละวัตถุทานหรือไม่? เพราะเหตุว่าอภัยทาน เป็นการสละความเห็นแก่ตัว สละความรักตัวในการที่ไม่ให้อภัยในความผิดของคนอื่น หรือในความบกพร่องของคนอื่น ขณะที่ไม่อภัยให้บุคคลอื่น ขณะนั้นเป็นเพราะรักตัวเอง ที่ทำให้ไม่สามารถจะอภัยในความผิด หรือในความบกพร่องของคนอื่นได้ ลึกลงไปจริงๆ เป็นเพราะความรักตัว ความยึดมั่นในตัวตนนั่นเอง การสละความเห็นแก่ตัวขั้นอภัยทาน ทำให้สละความคิดร้าย สละความแค้นเคือง สละความผูกโกรธ สละความไม่หวังดี สละความไม่เป็นมิตร สละความไม่เกื้อกูล สละความไม่มีน้ำใจ ต่อคนอื่น

-ธรรมทาน การให้ธรรมเป็นทาน คือ การให้ความรู้ ให้ความเข้าใจ ให้ความเห็นถูกในธรรมะ ชี้แนวทางที่ถูกต้องให้ จะเห็นได้ว่า กุศลธรรมทั้งหลายจะเจริญขึ้นได้ ก็เพราะธรรมทาน เป็นการเกื้อกูลให้ผู้อื่นได้มีความเข้าใจถูกเห็นถูก และเมื่อมีความเข้าใจถูกเห็นถูกแล้ว ความดีประการต่างๆ ก็จะเจริญขึ้นคล้อยตามความเห็นที่ถูกต้องด้วย

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 4 ม.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 4 ม.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ยกตัวอย่าง กรณี ให้เงินกับพระภิกษุ เป็นการกระทำที่ขัดต่อพระธรรมวินัยอย่างชัดเจน ผู้ให้ ก็ไม่มีความเข้าใจถูก ทำในสิ่งที่ผิดตามๆ กันไป ก็สะสมพอกพูนความไม่ดีต่อไป และ ยังเป็นเหตุให้พระภิกษุผู้รับ ล่วงละเมิดพระวินัย ไม่เคารพยำเกรงในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และตราบใดที่ไม่แก้ไข ก็ยังเป็นผู้มีโทษติดตัว หากมรณภาพไปในขณะนั้น ก็ไปเกิดในอบายภูมิเท่านั้น ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
lokiya
วันที่ 6 ม.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ