พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๕. ฉวาลาตสูตร ว่าด้วยบุคคล ๔ จําพวก ที่ ๔

 
บ้านธัมมะ
วันที่  23 ต.ค. 2564
หมายเลข  38885
อ่าน  277

[เล่มที่ 35] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 269

ทุติยปัณณาสก์

อสุรวรรคที่ ๕

๕. ฉวาลาตสูตร

ว่าด้วยบุคคล ๔ จําพวก ที่ ๔


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 35]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 269

๕. ฉวาลาตสูตร

ว่าด้วยบุคคล ๔ จำพวก ที่ ๔

[๙๕] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๔ จำพวกนี้ ฯลฯ คือบุคคลไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตนและไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นพวก ๑ บุคคลปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์คนพวก ๑ บุคคลปฏิบัติเพื่อ

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 270

ประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นพวก ๑ บุคคลปฏิบัติทั้งเพื่อประโยชน์ตน ทั้งเพื่อประโยชน์ผู้อื่นพวก ๑

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ดุ้นฟืนเผาศพ ที่ไฟไหม้ปลาย ๒ ข้าง ตรงกลางก็เปื้อนคูถ ย่อมไม่สำเร็จประโยชน์ที่จะใช้เป็นเครื่องไม้ในบ้านในป่า ฉันใด เรากล่าวบุคคลผู้ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่นนี้ว่า มีอุปมาฉันนั้น

ในบุคคล ๒ พวก (ข้างต้น) บุคคล (ที่ ๒) ผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน ดีกว่าประณีตกว่า

ในบุคคล ๓ พวก (ข้างต้น) บุคคล (ที่ ๓) ผู้ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ตน แต่ไม่ปฏิบัติเพื่อประโยชน์ผู้อื่น ดีกว่าประณีตกว่า

ในบุคคลทั้ง ๔ พวก บุคคล (ที่ ๔) ผู้ปฏิบัติทั้งเพื่อประโยชน์ตน ทั้งเพื่อประโยชน์ผู้อื่น เป็นผู้เลิศ เป็นผู้ประเสริฐสุด เป็นประธาน เป็นผู้อุดม เป็นผู้สูงสุด

เปรียบเหมือนน้ำนมโค นมส้มดีกว่าน้ำนม เนยข้น ดีกว่านมส้ม เนยใส ดีกว่าเนยข้น ยอดเนยใส (สัปปิมัณฑะ) ดีกว่า เนยใส ทั้งหมดนั้น ยอดเนยใส (สัปปิมัณฑะ) นับว่าเป็นเลิศฉันใด ในบุคคลทั้ง ๔ จำพวก บุคคลจำพวกที่ผู้ปฏิบัติทั้งเพื่อประโยชน์ตน ทั้งเพื่อประโยชน์ผู้อื่นเป็นเลิศ เป็นประธาน เป็นผู้อุดม เป็นผู้สูงสุด ฉันนั้นเหมือนกัน

ภิกษุทั้งหลาย นี้แล บุคคล ๔ จำพวก มีปรากฏอยู่ในโลก.

จบฉวาลาตสูตรที่ ๕

 
  ข้อความที่ 3  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 27 มี.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้า 271

อรรถกถาฉวาลาตสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในฉวาลาตสูตรที่ ๕ ดังต่อไปนี้ :-

บทว่า ฉวาลาตํ ได้แก่ ดุ้นฟืนเผาศพในป่าช้า. บทว่า มชฺเฌ คูถคตํ ได้แก่ ตรงกลางก็เปื้อนคูถ. บทว่า เนว คาเม กฏตฺถํ ผรติ ความว่า ไม่สำเร็จประโยชน์ที่จะใช้เป็นเครื่องไม้ในบ้าน เพราะไม่ควรนำเข้าไปเพื่อประโยชน์แก่ทัพสัมภาระมี อกไก่ ไม้กลอนหลังคา เสา และบันได เป็นต้น ไม่สำเร็จประโยชน์ที่จะใช้เป็นเครื่องไม้ในป่า เพราะไม่ควรนำเข้าไป ทำขาค้ำกระท่อมในนา หรือขาเตียง เมื่อจับที่ปลายทั้งสองก็ย่อมไหม้มือ เมื่อจับที่ตรงกลางก็เปื้อนคูถ. บทว่า ตถูปมํ ความว่า บุคคลนั้นก็เหมาะสมกัน. บทว่า อภิกฺกนฺตตโร คือดีกว่า. บทว่า ปณีตตโร คือ สูงุสุดกว่า. บทว่า ควา ขีรํ ได้แก่ น้ำมันแต่แม่โค. ในบทว่า ขีรมฺหา ทธิ เป็นต้น ความว่า แต่ละอย่างเป็นของเลิศกว่าก่อนๆ. ส่วนสัปปิมัณฑะ หัวเนยใสเป็นยอดเยี่ยมในน้ำมันเป็นต้นเหล่านั้น แม้ทั้งปวง. ในบทว่า อคฺโค เป็นต้น พึงทราบว่าเป็นผู้เลิศประเสริฐเป็นประมุขสูงสุดและล้ำเลิศ ด้วยคุณทั้งหลาย. บุคคลผู้ทุศีลตรัสเปรียบด้วยดุ้นฟืนเผาศพ แต่พึงทราบว่าตรัสบุคคล ผู้มีสุตะน้อย ผู้ละเลยการงานเปรียบด้วยโคดังนี้.

จบอรรถกถาฉวาลาตสูตรที่ ๕