เนกขัมมะ ในชีวิตประจำวัน

 
suntarara
วันที่  31 พ.ค. 2550
หมายเลข  3855
อ่าน  33,024

ในการดำรงชีวิตประจำวัน อย่างไรที่เรียกว่าเป็นการเจริญเนกขัมมะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
study
วันที่ 1 มิ.ย. 2550

คำว่า เนกขัมมะ หมายถึง การออกจากกาม ๒ อย่าง ได้แก่ กิเลสกาม และวัตถุกาม การออกจากกามมี ๒ อย่าง คือ ด้วยการบรรพชา ๑ ด้วยข้อปฏิบัติ ๑ การออกบวชของผู้ที่เห็นคุณของเนกขัมมะ การเว้นกิจของคฤหัสถ์ ถือเพศบรรพชิต เป็นผู้ไม่ครองเรือน ไม่แสวงหาทรัพย์ ไม่รับเงินและทอง เป็นต้น ชื่อว่า ออกจากวัตถุกาม ด้วยการบรรพชา ข้อปฏิบัติคือ อุโบสถศีล สมถภาวนาวิปัสสนาภาวนา สติปัฏฐาน เป็นต้น ชื่อว่า ออกจากกิเลสกาม ด้วยข้อปฏิบัติบางนัย หมายรวมถึงกุศลธรรมทุกประเภทเป็นการออกจากกาม (เนกขัมมะ) ฉะนั้นเนกขัมมะ โดยนัยที่ ๒ ในชีวิตประจำวันของคฤหัสถ์ ขณะใด ที่เป็นไปกับกุศลทั้งหลายคือ การให้ทาน การรักษาศีล การฟังธรรม การสนทนาธรรม การเจริญสมถะ การเจริญสติปัฏฐาน เป็นต้น ชื่อว่าเนกขัมมะ อีกอย่างหนึ่ง การค่อยๆ ออกจากการสะสมวัตถุกาม ด้วยการรู้จักพอ ในสิ่งที่ตนมีอยู่ ไม่แสวงหา หรือสะสมมากจนเกินไป รู้จักยินดีในของที่ตนมีอยู่ ด้วยสันโดษ ขณะนั้น ก็เริ่มค่อยๆ ที่จะออกเริ่มสะสมเนกขัมมะ ให้ค่อยๆ มีกำลังขึ้น

ขอเชิญคลิกอ่านได้ที่ ...

เนกขัมมะ ชื่อว่าทวนกระแสตัณหา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wannee.s
วันที่ 1 มิ.ย. 2550

การเจริญเนกขัมมะของคฤหัสถ์ในชีวิตประจำวัน คือ การรู้จักพอ ไม่แสวงหาของใช้เพิ่มเพื่อขัดเกลา และเสียสละกิเลส ที่เคยติดข้องในกามคุณ ๕ ลดลงบ้าง เช่น เรามีเสื้อผ้าพอใช้อยู่แล้ว เราก็ไม่ไปแสวงหาซื้อเสื้อผ้าใหม่มาเพิ่มอีก ฯลฯ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
study
วันที่ 1 มิ.ย. 2550

เนกขัมมบารมี คือ การสละความสุข การติด การตรึกหรือกามวิตก พยาปาทวิตกวิหิงสาวิตก ซึ่งสละได้โดยเพศคือเป็นบรรพชิต หรือโดยการอบรมเจริญสติปัฏฐาน ละกามวิตก พยาปาทวิตก วิหิงสาวิตก ในขณะใด ขณะนั้นก็เป็นเนกขัมมบารมี การไม่ตรึกเป็นไปในกาม ในความพยาบาท หรือในการเบียดเบียนบุคคลอื่น

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ปุถุชนคนหนึ่ง
วันที่ 1 มิ.ย. 2550

ขออนุโมทนา

กุศลวิตกทั้งหมด คือ เนกขัมมบารมี

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
แล้วเจอกัน
วันที่ 1 มิ.ย. 2550

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

เนกขัมมะ หมายถึงกุศลทุกประการได้ แต่ถ้าเป็นเนกขัมมบารมีแล้ว ต้องเป็นธรรมที่ทำให้ถึงฝั่งคือ ดับกิเลส กุศลทั่วไปเช่น การให้ทาน ก็มีแม้ของบุคคลนอกศาสนานี้แต่ไม่ได้เห็นโทษของกิเลส และวัฏฏะ แต่ก็ให้ ขณะนั้นเป็นกุศล เป็นเนกขัมมะ (กุศลทุกประการเป็นเนกขัมมะ) แต่เป็นเนกขัมมบารมีหรือเปล่า ดังนั้น เนกขัมมบารมี ต้องประกอบด้วย ปัญญาที่เห็นโทษของกิเลส และการเกิดหรือการอยู่ในวัฏฏะ เพราะฉะนั้น กุศลทุกประการ เป็นเนกขัมมะ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็น เนกขัมมบารมีครับ ดังข้อความ ในพระไตรปิฎกเรื่อง เนกขัมมบารมี

[เล่มที่ 74] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้าที่ 577

จิตเกิดขึ้นเพื่อจะออกจากกามภพมีการเห็นโทษเป็นอันดับแรก กำหนดด้วยความ เป็นผู้ฉลาดในอุบายแห่งกรุณา เป็นเนกขัมมบารมี.

[เล่มที่ 74] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้าที่ 578

เนกขัมมบารมี มีการออกจากกามและจากความมีโชคเป็นลักษณะ. มีการประกาศโทษของกามนั้นเป็นรส. มีความหันหลังจากโทษนั้นเป็นปัจจุปัฏฐาน. มีความสังเวชเป็นปทัฏฐาน

[เล่มที่ 74] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยาปิฎก เล่ม ๙ ภาค ๓ - หน้าที่ 636

อนึ่ง เพราะการเกิดขึ้นแห่งกุศลจิตเป็นไปแล้ว ด้วยการออกจากกามและภพทั้งหลาย มีการเห็นโทษเป็นเบื้องต้น กำหนดด้วยความเป็นผู้ฉลาดในอุบายคือกรุณา ชื่อว่า เนกขัมมบารมี

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
study
วันที่ 1 มิ.ย. 2550

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
suntarara
วันที่ 2 มิ.ย. 2550

ขอบคุณทุกๆ ท่านค่ะ ตอนนี้ตัวเองพยายามให้ทาน รักษาศีล ฟังธรรม เป็นประจำ คิดว่าค่อยๆ สะสมไปเรื่อยๆ สติ ปัญญาคงจะเจริญขึ้นบ้างค่ะ

ขออนุโมทนากับทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
อิสระ
วันที่ 26 มิ.ย. 2550

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 16 ก.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 16 ก.ค. 2564
 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 31 ธ.ค. 2566

ยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ