ละความพยายามเป็นกุศลหรือไม่

 
ภาคภูมิอรุณศรี
วันที่  27 ก.ย. 2564
หมายเลข  37491
อ่าน  389

ชวนจิตเป็นอกุศลเกิดขึ้นต่อจากอกุศลวิบากที่ได้เห็นได้ยิน ที่พยายามบอกผู้อื่นซึ่งใกล้ให้รู้จักพระพุทธเจ้าให้เข้าถึงรัตนตรัยโดยศึกษาจากคำจริงเพื่อไม่ให้เห็นผิด แต่ไม่สำเร็จไม่เป็นผล แต่เป็นอกุศลด้วยโทสะมูลจิตโดยแท้ อุทธัจจะ อนัตตาโดยแท้

กาลสมัยนี้เท่าที่ศึกษามีแต่ อ. สุจินต์ เท่านั้นที่สืบต่อพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ละเอียดที่สุด ด้วยเมตตา วิริยะ ขันติฯ

ขอกราบขอบคุณและอนุโมทนาบุญและบารมี อาจารย์สุจินต์และคณะ มศพ ทุกท่านครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 28 ก.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรม ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นคําจริง เป็นคําอนุเคราะห์เกื้อกูลให้เข้าใจถูก เห็นถูกตามความเป็นจริง เกิดจากการตรัสรู้ของพระองค์ ที่กว่าจะได้ตรัสรู้นั้น พระองค์ต้องบําเพ็ญพระบารมีสะสมคุณความดีประการต่างๆ ตลอดระยะเวลาที่ยาวนานถึงสี่อสงไขยแสนกัปป์ พระบารมีที่พระองค์ทรงบําเพ็ญมาทั้งหมดก็เพื่อโยชน์เกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง ให้มีความเข้าใจถูก เห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง พร้อมทั้งน้อมประพฤติปฏิบัติตาม จนกระทั่งถึงความเป็นผู้หมดจดจากกิเลสในที่สุด จะเห็นได้ว่าเมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงแสดงพระธรรมตลอด ๔๕ พรรษา ทรงพร่ำสอนพุทธบริษัทบ่อยๆ เนืองๆ ตั้งแต่เริ่มประกาศพระศาสนาจนกระทั่งถึงเวลาพระองค์จวนจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า พระธรรมมีประโยชน์มาก ทําให้ผู้ได้ฟังได้ศึกษามีความเข้าใจถูกเห็นถูก เป็นไปเพื่อขัดเกลาละคลายกิเลสจนกว่า กิเลสจะดับหมดสิ้นไป พระธรรมจึงเป็นประโยชน์สําหรับผู้ที่ได้สะสมบุญมาแล้วตั้งแต่ชาติปางก่อนเท่านั้นซึ่งเป็นผู้มีศรัทธาเห็นประโยชน์ของพระธรรมได้ยินได้ฟังมาแล้วในอดีต ส่วนบุคคลผู้ที่ไม่ได้สะสมบุญมาย่อมไม่ได้รับประโยชน์จากพระธรรม พระธรรมย่อมเป็นสิ่งที่ไม่มีค่าสําหรับเขา ซึ่งจะตรงกับคําที่ว่า “พระธรรม ไม่สาธารณะกับทุกคน” อย่างแท้จริง

ประการที่สําคัญที่ควรจะตระหนักอยู่เสมอ คือ เราไม่สามารถทําให้คนทุกคนหันมาเป็นผู้สนใจ ศึกษาพระธรรมเหมือนกันหมด หรือ ไม่สามารถทําให้ทุกคนดําเนินชีวิตเป็นไปอย่างที่เราคิดได้ เพราะเป็นไปตามการสะสมของแต่ละบุคคลจริงๆ เมื่อรู้ว่าเขาไม่สามารถที่จะเกื้อกูลได้ ก็เข้าใจถึงการสะสมของแต่ละบุคคล ไม่เดือดร้อน ขณะนั้น ไม่ใช่อกุศล แต่ถ้าเดือดร้อน วุ่นวาย เกิดโทสะ ขณะนั้น ก็ต้องเป็นอกุศล เพราะฉะน้ันแล้ว กิจที่ควรทําสําหรับผู้ที่เห็นประโยชน์ของพระธรรม ก็คือจะต้องมีความอดทน มีความเพียร มีความจริงใจที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาต่อไป ไม่ละเลยโอกาสที่สําคัญในชีวิตที่จะทําให้ตนเองได้เข้าใจถูกเห็นถูกในธรรมตามความเป็นจริงซึ่งเป็นขณะที่ประเสริฐ และหายากเป็นอย่างยิ่ง ครับ

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
petsin.90
วันที่ 29 ก.ย. 2564

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 29 ก.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ภาคภูมิอรุณศรี
วันที่ 4 ต.ค. 2564

กราบขอบพระคุณ และ อนุโมทนา ครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ