ขณะที่เห็น ขณะนั้นใช้ภาษาว่ากำลังมีรูป หรือนาม เป็นอารมณ์คะ

 
ปทุม
วันที่  8 ก.ย. 2564
หมายเลข  37003
อ่าน  362

บางครั้งหนูอยากจะข้ามข้อสงสัยนี้ค่ะ แต่หนูก็นึกอีกทีว่าต่อให้เป็นแค่ภาษาแต่ก็อาจยิ่งทำให้การฟังธรรมไม่เข้าใจและก็ยิ่งงงได้

ขณะที่เห็นสี ขณะนั้นใช้ภาษาว่ากำลังมีรูปหรือนามเป็นอารมณ์คะ

ลึกๆ หนูเข้าใจว่าเห็นสีคือนาม

ขณะที่เห็น หนูเข้าใจว่ากำลังมีนามเห็นเป็นอารมณ์ เพราะเห็นเป็นจิต หนูเลยเรียกขณะที่เห็นว่ากำลังมีนามเป็นอารมณ์น่ะค่ะ

หนูเข้าใจและใช้ภาษาถูกไหมคะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 9 ก.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เห็นเป็นสภาพธรรมที่มีจริง ไม่ใช่เราเห็น แต่เป็นจิตเห็น จิตเป็นสภาพธรรมที่มีจริง เป็นสภาพรู้ สภาพที่รู้ คือ นามธรรม รูปเป็นสภาพที่ไม่รู้ ดังนั้น จิตเห็นจึงเป็นนามธรรม ส่วนเห็นเป็นสภาพรู้ ก็ต้องมีสิ่งที่ถูกรู้ ขณะเห็น ต้องเห็น สี สีจึงเป็นสิ่งที่ถูกเห็น สีเป็นอารมณ์ของจิตเห็น สี หรือสิ่งที่ปรกาฎทางตาเป็นสภาพธรรมที่ไม่รู้อะไร จะด่าว่า สี สีก็ไม่รู้ สีจึงเป็นรูปธรรม ดังนั้น เห็นเป็นจิต เป็นนามธรรม สิ่งที่ถูกเห็น คือ สี (อารมณ์ของจิตเห็น) เป็น รูปธรรม ไม่ใช่สภาพรู้นั่นเอง ครับ

การศึกษาธรรมไม่ต้องไปใส่ชื่อ แต่ฟังให้ค่อยๆ เข้าใจ ค่อยๆ เข้าใจถูกในการศึกษาขั้นการฟังว่า นาม คืออะไร รูปคืออะไร จิตเห็นคืออะไร เป็นต้น ก็จะไม่สับสน ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ปทุม
วันที่ 9 ก.ย. 2564

กราบขอบพระคุณค่ะอาจารย์

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ปทุม
วันที่ 9 ก.ย. 2564

คือบางครั้ง หนูจะได้ยินประโยคที่ว่า กำลังมีรูปหรือนามเป็นอารมณ์ ถ้ารวมๆ กันหมดก็จะเป็นตัวเรา หนูเลยข้องใจในภาษาค่ะและอยากมั่นใจว่าตนเข้าใจถูกหรือเปล่า แต่ตอนนี้หนูเข้าใจแล้วค่ะ จากขั้นการศึกษา ว่าจิตจะเกิดขึ้นเดี่ยวๆ ไม่ได้ ต้องอาศัยปัจจัย เช่นสี (ที่เรียกว่ารูปธรรม) กำลังเป็นอารมณ์

หรือกำลังมีความรู้สึกทางใจ (ที่เรียกว่านามธรรม) กำลังเป็นอารมณ์ แล้วย่อภาษาว่าขณะนั้นกำลังมีรูปหรือนามเป็นอารมณ์

คือกำลังมีสี คือรูปเป็นอารมณ์

หรือกำลังมีนาม เช่นความรู้สึกต่างๆ เช่นความสงสัย เป็นอารมณ์

เพราะจิตเป็นธาตุที่จะเกิดขึ้นเองลอยๆ ไม่ได้ แต่ต้องเกิดตามปัจจัย จึงไม่ใช่เราแม้ในขั้นการศึกษา

กราบขออนุโมทนาในกุศลจิตด้วยค่ะ

และกราบขอบพระคุณจากใจค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 9 ก.ย. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เรียน ความคิดเห็นที่ ๓ ครับ

ประโยชน์ของการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมก็เพื่อเข้าใจความจริงของสิ่งที่มีจริงๆ ในขณะนี้ ตามปกติธรรมดา แล้ว เห็นอะไร ก็ต้องเห็นสี สีเป็นอะไร สีก็เป็นสิ่งที่ถูกเห็น ดังนั้น สี จึงเป็นอารมณ์ของจิตเห็นขณะนั้น ไม่ใช่อย่างอื่น จิตเห็นไม่ได้รู้อย่างอื่น นอกจากสี ซึ่งเป็นสิ่งที่ปรากฏทางตา เท่านั้น ความเป็นจริงของธรรมเป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น ไม่สำคัญที่การเรียกชื่อ แต่สำคัญที่ความเข้าใจถูกต้อง ครับ

…ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ปทุม
วันที่ 9 ก.ย. 2564

กราบขอบพระคุณค่ะอาจารย์

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 9 ก.ย. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ