[คำที่ ๗o] สุนกฺขตฺต

 
Sudhipong.U
วันที่  27 ธ.ค. 2555
หมายเลข  32190
อ่าน  462

ภาษาบาลี ๑ คำ คติธรรมประจำสัปดาห์ สุนกฺขตฺต

คำว่า สุนกฺขตฺต (อ่านว่า สุ - นัก - ขัด - ตะ) เป็นคำภาษาบาลีโดยตรง มาจากคำสองคำรวมกัน คือ คำว่า สุ (ดี) รวมกับคำว่า นกฺขตฺต  (ฤกษ์, เวลา) แปลว่า ฤกษ์ดี หรือเวลาที่ดี เมื่อได้ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็จะเข้าใจว่า ฤกษ์ดี หรือ ช่วงเวลาที่ดี คือ ขณะที่จิตเป็นกุศล ไม่ว่าจะเป็นขณะใดก็ตาม ทั้งตอนเช้า ตอนกลางวัน ตอนเย็น ดังข้อความบางตอนจาก พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต สุปุพพัณหสูตร ว่า

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย สัตว์เหล่าใด ประพฤติสุจริต ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลาเช้า เวลาเช้านั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น, สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริต ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลากลางวัน เวลากลางวันนั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น, สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริต ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ในเวลาเย็น เวลาเย็นนั้น ก็เป็นเวลาดีของสัตว์เหล่านั้น


คำว่า ฤกษ์ ที่เข้าใจสืบๆ กันมาในสังคมไทย คือ เวลาที่ดี ที่เหมาะสมในการกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด แล้วจะมีความเจริญเกิดขึ้น นี่คือ ความหมายที่เข้าใจกันเป็นส่วนใหญ่ แต่จะตรงตามพระธรรมคำสอนที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้หรือไม่ ก็จะต้องศึกษาพระธรรมให้เข้าใจจริงๆ เมื่อได้ศึกษาพระธรรมคำสอนในทางพระพุทธศาสนาแล้ว จะเข้าใจได้ว่า เหตุที่ทำให้มีความเจริญ นั้น จะต้องเป็นธรรมฝ่ายที่เป็นกุศล เท่านั้น และขณะที่ธรรมฝ่ายที่เป็นกุศลเกิดขึ้นนั้น ก็เจริญแล้ว คือ ความดีเจริญขึ้น        

เมื่อเข้าใจพระธรรม ก็สามารถพิจารณาเพิ่มเติมอีกได้ว่า ถึงแม้ว่าจะเป็นฤกษ์ดี (ตามที่สมมติกันว่า เป็นวันดี  วันธงชัย เป็นต้น) แต่ทำชั่ว ประกอบกุศลกรรม ทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสมมากมาย ก็ย่อมจะไม่เป็นเหตุแห่งความเจริญเลยแม้แต่น้อย เพราะกุศล ให้ผลเป็นทุกข์ จะให้ผลเป็นความสุขความเจริญ ไม่ได้ ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นฤกษ์ไม่ดี (ตามที่สมมติกันว่า เป็นวันอุบาทว์ เป็นต้น) แต่ได้ทำกุศล ในวันนั้นได้สะสมความดีไว้แล้วในขณะนั้น ก็ย่อมจะเป็นเหตุแห่งความเจริญได้ อย่างแน่นอน สภาพธรรมเป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น กุศล เป็น กุศล และให้ผลเป็นสุขเท่านั้น ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงไม่ได้

ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่า ฤกษ์หรือเวลา ที่ดี ที่เหมาะ ที่ควรนั้น ก็คือ ขณะที่เป็นกุศลธรรม เกิดขึ้นเป็นไป เพราะกุศลธรรมนำมาซึ่งความเจริญ ตรงตามพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงว่า เมื่อเหตุดี (คือเป็นกุศล) ผลก็ย่อมเป็นผลที่ดี แต่ถ้าเป็นเหตุไม่ดี(คือ เป็นกุศล) แล้ว   ผลก็ไม่ดีด้วย และประการที่สำคัญ คือ การทำกุศล ไม่ต้องรอเวลา ไม่ต้องคอยฤกษ์ยาม ถ้าทำกุศลตอนไหน ตอนนั้นก็เป็นฤกษ์ดี ยามดี เวลาดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการฟังพระธรรม ไม่ต้องคอยว่าจะเป็นวันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหนๆ ถ้ามีโอกาสเมื่อใดก็ควรที่จะได้ฟังพระธรรมเมื่อนั้น เพราะการฟังพระธรรมเป็นเหตุให้ปัญญาเจริญ เมื่อปัญญาเจริญ กุศลธรรมประการต่างๆ  ก็จะค่อยๆ เจริญขึ้นคล้อยตามปัญญา ด้วย สาระสำคัญของชีวิต จึงอยู่ที่การได้ฟังและเข้าใจพระธรรม อย่างแท้จริง.


อ่านคำอื่นๆ คลิกที่นี่ ... บาลี ๑ คำ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 11 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ