ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๖๕

 
khampan.a
วันที่  19 ก.ค. 2563
หมายเลข  32103
อ่าน  1,913

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

* * ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๖๕ * *

~ ประโยชน์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรม คือ ทรงเห็นว่าสัตว์โลกไม่รู้ เพราะฉะนั้น ด้วยพระมหากรุณาที่จะให้เขาเห็นคุณค่าของสิ่งที่มีค่าที่สุดประเสริฐที่สุด คือ ความเข้าใจที่ถูกต้อง จึงทรงพระมหากรุณาแสดงพระธรรม แม้ว่าบุคคลนั้นจะอยู่ไกลแสนไกล ก็เพื่อให้เขาได้ฟัง ทรงอนุเคราะห์ เพราะเหตุว่า ในสังสารวัฏฏ์ที่แล้วมาและในอนาคตไม่มีวันจบสิ้น ถ้าไม่มีการรู้ว่าอะไรเป็นปัจจัยที่จะทำให้ความไม่รู้หมดไป เพราะเกิดมาด้วยความไม่รู้แล้วก็ยังไม่รู้ ก็จะต้องมีปัจจัยที่จะทำให้เกิดต่อไป

~ บุคคลผู้ที่นับถือพระพุทธศาสนา ทุกคนต้องเข้าใจพระธรรมวินัย มิฉะนั้นแล้ว ก็ประพฤติผิดๆ กันไป โดยเข้าใจว่าถูกต้อง ซึ่งจะทำให้พระพุทธศาสนาค่อยๆ เสื่อม อันตรธาน (สูญสิ้น) เพราะฉะนั้น ไม่ใช่เรื่องของใครคนหนึ่งคนใดหรือคณะหนึ่งคณะใด แต่เป็นเรื่องของทุกคนที่มีความเคารพนับถือพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งที่จะดูแลความถูกต้องและพยายามทุกทางที่จะให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อที่จะดำรงพระพุทธศาสนา

~ เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เพียงแต่เราเตือนให้ทุกคนได้คิดว่า ที่ว่าเป็นชาวพุทธแล้วก็นับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่รู้จักพระองค์หรือเปล่าที่กล่าวว่านับถือพระองค์?

~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าใครจะกล่าว นำมาซึ่งประโยชน์หรือโทษ? นำมาซึ่งประโยชน์ ให้เข้าใจถูกต้อง ไม่ว่าใครพูด พูดความจริงย่อมเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ไม่ใช่ว่าคฤหัสถ์พูดไม่ได้ แต่ว่าใครก็ตามที่กล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นคือ คำของพระองค์ไม่ใช่คำของคนนั้น เพราะฉะนั้น จะไม่ให้เขากล่าวพระธรรมวินัยตามที่ได้เข้าใจหรือ?

~ ถ้าคนอยากให้มีพระภิกษุแม้ว่าพระภิกษุจะประพฤติผิด แสดงว่า เขาเห็นแก่ตัว แค่นี้คิดหรือเปล่าว่าลึกลงไปแล้วเขาเห็นแก่ตัวที่เขาต้องการให้มีพระภิกษุสำหรับใส่บาตรสำหรับทำอะไรก็แล้วแต่ แต่ว่าโทษมากมายกับคนนั้นทำไมเขาไม่คิดบ้างว่าเป็นโทษอย่างยิ่ง ถ้าเป็นเพื่อนที่ดี เขาจะปล่อยให้เพื่อนตกนรกไหม?

~ ผู้ที่สามารถที่จะบวชได้นั้น ต้องพิจารณาตนเอง จะต้องรู้ถึงความสามารถจริงๆ ของตนเอง ว่า สามารถที่จะประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงไว้อย่างละเอียดได้จริงๆ แล้วจึงไปบวชเป็นบรรพชิต แต่ถ้าไม่สามารถ
(ที่จะเป็นอย่างนั้นได้) แม้แต่การเป็นคฤหัสถ์ที่ดี ก็ยังยาก จริงหรือไม่จริง? คฤหัสถ์ที่ดี เป็นยากหรือง่าย?

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ทุกสิ่งถึงที่สุดโดยประการทั้งปวงเพราะฉะนั้น ใครคิดจะเป็นข้าศึกกับพระพุทธเจ้า หมายความว่า เขาไม่รู้

~ พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมด้วยพระมหากรุณาผู้ที่มีโอกาสได้ยินได้ฟังเข้าใจถูก เห็นคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าพระองค์ไม่ตรัสให้คนอื่นได้ยินได้ฟัง เขาจะเข้าใจถูกได้ไหม?

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ตรัสคำให้สวด แต่ให้เข้าใจทุกคำ ถูกต้องไหม? ต้องพิจารณา เป็นผู้ตรง

~ ถ้าตราบใดที่ยังมีผู้ที่เข้าใจพระธรรมแล้วก็สามารถที่จะเกื้อกูลคนอื่นให้เข้าใจด้วย พระศาสนาก็จะดำรงอยู่ต่อไปได้ แต่เมื่อใดที่ไม่เข้าใจ เมื่อนั้น พระศาสนา สูญสิ้นไม่เหลือ เพราะฉะนั้น พระศาสนา ไม่ได้ดำรงอยู่เพราะวัด เพราะสถานที่ เพราะบุคคลหนึ่งบุคคลใด แต่ดำรงอยู่ได้ด้วยความเข้าใจถูกต้องในแต่ละคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว

~ การจะเข้าใจธรรม ต้องไม่ลืม เดี๋ยวนี้สิ่งที่มีจริงทุกอย่างเป็นธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้วทั้งหมด เพราะฉะนั้น การที่จะเข้าใจคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ถูกต้อง ต้องทีละคำ เมื่อเข้าใจคำนี้มั่นคง ต่อไปได้ยินคำอื่นๆ เพราะมีความเข้าใจคำนี้เป็นฐานก็ทำให้เข้าใจธรรมอื่นได้

~ ธรรม ทั้งหลายไม่เว้นเลย เป็นอนัตตา จะหลับจะตื่นจะเกิดจะตายไม่ว่าอะไรทั้งหมด ธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใคร สิ่งหนึ่งสิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดาที่กำลังเกิด สิ่งนั้นดับไป ไม่กลับมาอีกเลย เป็นอนัตตา

~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำ หวังดี เกื้อกูล เป็นประโยชน์ให้คนฟังได้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น กัลยาณมิตรสูงสุด ก็คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำจริง ไม่ได้หวังให้ใครเข้าใจผิด ทรงแสดงธรรมโดยนัยต่างๆ มากมาย หลากหลาย โดยประการทั้งปวง ที่จะทำให้ค่อยๆ เข้าใจขึ้น

~ การฟังพระธรรม มีพระธรรม คือ คำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว เป็นศาสดาแทนพระองค์เหมือนเมื่อครั้งที่พระองค์ยังไม่เสด็จดับขันธปรินิพพาน ตรงกันเลย คำไหนที่ตรัสไว้แล้ว คำนั้นก็ยังดำรงอยู่ เป็นคำของพระองค์ ไม่ใช่คำของคนอื่น

~ ธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งมาก เพราะเป็นสิ่งที่กว่าที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงตรัสรู้ก็ทรงบำเพ็ญพระบารมี (คุณความดีที่ทำให้ถึงฝั่งของการดับกิเลส) นานมาก เพื่อที่จะรู้ความจริง เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ว่าใครที่ไม่ฟังแล้วก็บอกว่านับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วก็จะรู้ความจริง เพราะถ้าไม่ฟัง ไม่มีทางที่จะรู้ความจริงได้ แล้วก็ไม่รู้จักว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นใครด้วย เพราะไม่รู้ว่าพระองค์ทรงตรัสรู้อะไร

~ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงความจริง เพื่ออนุเคราะห์คนผู้ไม่รู้ ซึ่งเหมือนคนตาบอดอยู่ในความมืดให้ได้มีความเข้าใจเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้น ไม่ประมาทปัญญาคิดว่ารู้แล้ว แต่เพียงกำลังสะสมความเห็นถูกเพื่อที่จะละความไม่รู้ ก็จะเป็นผู้ที่วันหนึ่งๆ มีชีวิตอยู่ด้วยความรู้ที่เพิ่มขึ้น

~ โลกไม่สงบเดือดร้อนวุ่นวายทั้งหมด เพราะกิเลส

~ ถ้าไม่ได้ระลึกเลยว่า “ความตายใกล้ที่สุด อาจจะเกิดขึ้นขณะหนึ่งขณะใด ได้ทั้งนั้น” วันหนึ่งๆ ก็ผ่านไปโดยที่ไม่ได้อบรมเจริญกุศลให้ยิ่งขึ้น เป็นผู้ประมาทมัวเมา และเป็นการมีชีวิตอยู่ที่ในโลกนี้ อย่างไม่มีประโยชน์ ไม่มีสาระจริงๆ เพราะไม่ได้ถือเอาสิ่งที่เป็นสาระ คือ กุศลประการต่างๆ พร้อมด้วยการฟังพระธรรมให้เข้าใจ จากการที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์

~ ธรรม (สิ่งที่มีจริง) ไม่ใช่ใครเลย กุศลธรรม เป็นกุศลธรรม ธรรมฝ่ายดี อกุศลธรรมเป็นอกุศลธรรม เราเรียกคำสองคำนี้บ่อยๆ แต่ไม่ได้ศึกษาโดยละเอียดว่าแล้วอะไรที่เป็นกุศลธรรมและเป็นอกุศลธรรม ต้องไม่ลืมว่าธรรมลึกซึ้ง แต่ก็เป็นบุญที่มีโอกาสได้ยินได้ฟังได้สะสมความเห็นถูกความเข้าใจถูก จนกว่าความรู้จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ด้วยความเคารพในพระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอนุเคราะห์จากการที่ทรงอบรมพระบารมีนานกว่าบุคคลอื่นใดทั้งสิ้นเพื่อให้คนอื่นสามารถจะรู้ตามที่ได้ทรงตรัสรู้ด้วย เพราะฉะนั้น ก็เป็นโอกาสที่ชาติหนึ่งที่เกิดมามีโอกาสได้ฟังธรรมได้สะสมความเข้าใจเพื่อที่จะเป็นคนดียิ่งขึ้นแล้วก็ไม่เป็นโทษเป็นภัยกับใครและแม้กับตนเอง

* * ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ครับ * *

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๖๔



...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

และยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ปาริชาตะ
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
mammam929
วันที่ 19 ก.ค. 2563

กราบขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
panasda
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
มกร
วันที่ 19 ก.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Nattaya40
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
kukeart
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Sottipa
วันที่ 20 ก.ค. 2563

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
jaturong
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
เมตตา
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขอบพระคุณและยินดีในกุศลจิตค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
มังกรทอง
วันที่ 18 ส.ค. 2568

ธรรมมีมานัสพร้อม รับฟัง อันเกิดกุศลดัง ธาตุรู้ จิตเจตสิกเป็นพลัง เสริมส่ง หนุนแฮ กราบอาจารย์สุจินต์ผู้ เปี่ยมด้วยเมตตา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ