ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ซาบซึ้งในหทัย [ครั้งที่ ๒๓] ตอน เตรียมใจให้พร้อมที่จะฟังธรรมและมีธรรม

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  25 เม.ย. 2562
หมายเลข  30796
อ่าน  2,552

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อันเนื่องมาจากหนังสือเล่มใหม่ "เก็บไว้ในหทัย" ที่ อาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย ปธ.๙ วิทยากรของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา รวบรวมจากธรรมบรรยายโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ตามสถานที่ต่างๆ เป็นการรวบรวมและบันทึกข้อความสั้นๆ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย เฉพาะอย่างยิ่ง เป็นข้อความที่เกื้อกูลแก่ผู้ใหม่ที่เริ่มต้นสนใจในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และมีความสะสมความเข้าใจในเหตุและผลมา สามารถที่จะพอเข้าใจได้ โดยความเข้าใจในเบื้องแรกนี้เอง จะเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้บุคคลสามารถเกิดศรัทธา สนใจ มีความเพียร ที่จะศึกษา เข้าใจ ในความละเอียด ลึกซึ้ง ของพระธรรมที่ทรงแสดงยิ่งๆ ขึ้นไป ต่อๆ ไป ตามลำดับ เป็นสิ่งมีค่าสูงสุดสำหรับทุกบุคคลในสังสารวัฏ เป็นอริยทรัพย์อันประเสริฐ ที่จะติดตามไปเป็นเสบียงอันอุดม เป็น "ปุพเพกตปุญญตา" คือบุญที่ได้เคยกระทำไว้แต่ปางก่อน ที่ได้ทำไว้แล้วในชาตินี้ ของชาติหน้าและชาติต่อๆ ไป ในสังสารวัฏ

ข้าพเจ้าได้รับความกรุณาจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์อรรณพ หอมจันทร์ ส่งข้อความการสนทนาระหว่างท่านกับท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่มีต่อหนังสือ "เก็บไว้ในหทัย" เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๒ ที่ผ่านมา มาให้ข้าพเจ้าได้อ่าน เมื่อได้อ่านแล้ว ก็มีความรู้สึกซาบซึ้ง ในความเมตตาและความปรารถนาดีของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่คิดแต่จะเกื้อกูลให้ทุกคนมีความเข้าใจธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงอยู่ตลอดเวลา ในทุกการสนทนา ผู้ที่สะสมความละเอียดมา เมื่อได้พบท่าน ย่อมได้รับประโยชน์จาก "แม้คำเพียงคำเดียว" ที่ได้ฟังจากความเมตตาของท่าน หนทางของปัญญาที่จะนำพาบุคคลออกจากทุกข์ในสังสารวัฏ ย่อมมาจากปัจจัยของความเป็นผู้ละเอียด ไม่เผิน พิจารณา ไตร่ตรอง ใคร่ครวญแล้วๆ เล่าๆ จากคำที่ได้ฟังจากผู้ที่เพียรกล่าวความจริงจากการศึกษาและเข้าใจในความละเอียดลึกซึ้งยิ่งของพระธรรมที่ทรงแสดง เพื่อเกื้อกูลผู้อื่นให้เข้าใจด้วย ด้วยเมตตาอันยิ่งมาตลอดระยะเวลายาวนานกว่า ๖๐ ปีแล้ว จึงใคร่ที่จะขออนุญาตนำความที่ได้มีโอกาสอ่านนั้น มาแบ่งปันให้ทุกๆ ท่านได้ทราบและพิจารณาด้วย เพื่อประโยชน์คือความเข้าใจธรรมที่มั่นคงขึ้น ตามควรแก่กาล ดังนี้

“ เก็บไว้ในหทัย เตรียมใจพร้อมฟังธรรม

(จากการสนทนาธรรมกับท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๒)

ท่านอาจารย์สุจินต์ : หนังสือเล่มสุดท้าย ที่คุณคำปั่น รวบรวม อันนั้น เป็นการตระเตรียมใจให้พร้อมที่จะเข้าใจธรรมและมีธรรม เพราะว่า ถ้าเขาไม่รู้ว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นประโยชน์ เขาก็ไม่สนใจ แต่นี่ให้คิดถึงตัวเองว่า ความดีกับความชั่ว "เริ่มคิด" แล้วใช่ไหมว่า ทำไมความชั่วถึงจะหมดไปได้ ถ้าไม่มีความรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ที่กำลังปรากฏ ก็ยัง "เป็นเรา" ซึ่งเกิดเพราะความไม่รู้ ความชั่วนั้นก็เกิดจากความไม่รู้ คือ ต้องให้เขาเห็นประโยชน์จริงๆ ของการเข้าใจพระธรรม ไม่ใช่ว่า ฉันกำลังศึกษาพระธรรม แต่ฉันไม่รู้หรอกว่าพระธรรมเป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้มีหรือเปล่า? อะไรเป็นพระธรรม? และพระธรรมจะเป็นสติปัฏฐานได้ไหม? เมื่อไหร่? ก็ไม่มีความเข้าใจ ก็ตามตัวหนังสือไป สติปัฏฐานมี ๔ ก็นั่งว่ากันไป!!!
ผศ.อรรณพ : ก็คือค่อยๆ นำเขา จากการสนทนา มาสู่ความเป็นธรรม

ท่านอาจารย์สุจินต์ : โดยเขาไม่รู้เลยว่า หนังสือเล่มนี้ จะเป็นการเตรียมตัวเตรียมใจรับธรรม อย่างสมมติว่า เราเปิดธรรมเดี๋ยวนี้ คนที่อยู่กับเราไม่ฟัง ไม่สนใจด้วย เพราะเขาไม่ถูกเตรียมมาที่จะพิจารณาตัวเองก่อน และเพื่อที่จะเป็นคนตรง ว่าดีคือดี ชั่วคือชั่ว ลองเอามาอ่านสักอัน อันไหนก็ได้ เป็นเรื่องตรงที่เป็นการเตรียมตัวที่จะเป็นพุทธบริษัท ไม่ใช่ว่ามาฟังธรรมแล้วไม่รู้ว่าฟังทำไม!
ผศ.อรรณพ : ฟังไปเยอะแยะมากมาย
ท่านอาจารย์สุจินต์ : แต่นี่ช่วยปรับจิตใจให้เป็นคนตรง มีเหตุมีผล พิจารณาให้ถูกต้อง จนเขารู้ว่ามันไม่ใช่เรา!! อันนี้มันก็ธรรมดา แล้วก็คิด พอคิดแล้วก็เป็นคนตรง เลยรู้ว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง
ผศ.อรรณพ : ท่านอาจารย์ช่วยเพิ่มเติมหน่อยครับว่า ทำไม " เก็บไว้ในหทัย " จึงเป็นการเตรียมใจที่จะได้ศึกษาพระธรรมต่อไป
ท่านอาจารย์สุจินต์ : ต้องเอามาอ่าน คุณวรรณี อ่านเลย จะได้ฟัง จะได้คิด
วรรณี : "เข้าใจธรรมเมื่อมีปัญญาแล้ว ปัญญาก็นำไปในกิจทั้งปวง ที่ดีงาม"

ท่านอาจารย์สุจินต์ : เห็นไหม แค่นี้ถูกไหม? แม้ยังไม่รู้จักว่าปัญญาคืออะไร แต่ก็เริ่มรู้ว่า ถ้าไม่ใช่ปัญญา ก็ต้องเป็นไปในฝ่ายอกุศล
วรรณี : "สิ่งที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่สิ่งที่ผิด ไม่สำคัญว่าใครจะรัก ใครจะชัง หรืออย่างไร แต่ได้ทำสิ่งที่ถูก ก็เป็นประโยชน์ที่สุดในชีวิต"
ท่านอาจารย์สุจินต์ : แค่นี้เบาๆ แต่ว่าเริ่มคิด เป็นการเตรียมใจที่จะรับธรรม ลองคิดดู คนอื่น ขณะที่เราเปิดธรรม เขาไม่ฟัง เพราะเขาไม่ได้เตรียมใจมา
ผศ.อรรณพ : เพราะว่า ใจที่ไม่พร้อมจะรับธรรม
ท่านอาจารย์สุจินต์ : รับธรรมไม่ได้ เพราะไม่รู้ ไม่รู้คุณค่าของธรรม จึงไม่ฟัง ลองรู้คุณค่าสิ ก็ทิ้งอย่างอื่นหมดเพื่อฟัง!!! แต่พอไม่รู้คุณค่า ก็เปิดไปเถอะ ก็ไม่ฟังหรอก พูดไปสิ มากัน ๔๐๐ คน ก็ดูเวบไซต์บ้าง ทำอะไรบ้าง เราไม่ได้ต้องการอย่างนั้นเลย!!ม่ได้ต้องการจำนวน!!! อย่างเดียวคือ ขอให้คนที่สามารถเข้าใจพระธรรมได้ ได้เข้าใจพระธรรม ได้เข้าใจความจริง!!! เพราะไม่อย่างนั้นก็จมลงตลอดทุกชาติในสังสารวัฏ หาทางออกก็ออกไม่ได้!!! เพราะมันมืดมาก และมันถูกล้อมไว้หลายชั้น!!

ท่านอาจารย์สุจินต์ : จะอ่านตอนอื่นอีกไหม? แค่อ่าน แค่คิด ก็รู้แล้วว่าอะไรถูก อะไรผิด!!
วรรณี : "เมื่อต้องตาย อาจจะเป็นวันนี้หรือพรุ่งนี้ หรือเดือนหน้า หรือปีหน้า ก็ได้ ทำไมไม่ทำความดี? ทำไมไม่เริ่มฟังธรรมให้เข้าใจให้ถูกต้อง? เพราะจะเป็นที่พึ่งต่อไป"

ท่านอาจารย์สุจินต์ : แค่นี้ ทั้งเล่ม เป็นการเตรียม ก่อนที่จะรับธรรม ถ้าไม่มีการเตรียม ฟังก็ไม่รู้เรื่อง!!!
ผศ.อรรณพ : เหมือนสีรองพื้น
ท่านอาจารย์สุจินต์ : ธรรมตัวจริงไม่ติดเข้าไปหรอก ถ้าไม่ได้เตรียมใจ
ผศ.อรรณพ : ถ้าใจไม่พร้อมที่จะรับธรรม แต่ในเล่มนี้จะค่อยๆ ทำให้มีกุศลในขั้นต้น
ท่านอาจารย์สุจินต์ : คิด ... ไตร่ตรอง ... เห็นประโยชน์ ...
ผศ.อรรณพ : มีเหตุมีผล เริ่มปูพื้นฐานความเป็นกุศลและความมีเหตุมีผล ที่พร้อมจะฟังด้วยดี

(คุณแม่บุญเหนือ อักษรวิลัย ก็อ่าน "เก็บไว้ในหทัย" และบอกว่า ดีมากๆ )

ท่านอาจารย์สุจินต์ : เพราะฉะนั้น เหมาะทุกที่ ทุกสถานการณ์เลย ถ้าเป็นคนที่เริ่มไตร่ตรอง ฟังแล้วคิด!! แล้วจะเอาอะไรมาค้านประโยคไหน? (เพราะเป็นจริงทั้งหมด) แล้วก็ เป็นการนำสนทนาธรรมได้ อย่างข้อความที่ว่า "จะตายวันไหน" จริงไหม? เห็นอย่างนี้ก็ตายได้ หลังจากวิถีจิตหมดเท่านั้น แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเมื่อไหร่ และความจริงมันแสนสบาย มันไม่รู้!! เพราะว่า มันเหมือนภวังค์เลย ปฏิสนธิ ภวังค์ จุติ โลกไม่ปรากฏ ไม่มีอะไร มีแต่จิตซึ่งเกิดขึ้นทำกิจพ้นความเป็นบุคคลนี้แล้วปฏิสนธิก็สืบต่อทันที ใหม่เอี่ยม ลืมเก่า!!!

ผศ.อรรณพ : จุติก็เหมือนกับปฏิสนธิกับภวังค์ในชาตินั้น เหมือนกัน แต่พอปฏิสนธิ ก็เปลี่ยนบุคคลไปเลย แต่ความยึดถือเยื่อใย มันเยอะ

ท่านอาจารย์สุจินต์ : ใช่ จุติจิต เป็นจิตประเภทเดียวกันกับปฏิสนธิ เราไม่รู้ จุติประเภทเดียวกับภวังค์ ก็ไม่รู้อีก ใช่ไหม? อารมณ์ไม่ปรากฏ แล้วไปกลัวอะไร? แล้วมันแค่ ๒ ขณะ มันชิดกันเหลือเชื่อว่าใครจะไปรู้ได้ ใช่ไหม? ปัญจทวาราวัชชนจิต ไม่ใช่จักขุวิญญาณ เห็นไหม? เพราะฉะนั้น จุติปุ๊บ ปฏิสนธิต่อทันที ไม่มีเราเลยสักนิด!! ทั้งๆ ที่ ตอนที่ยังอยู่ ยังไม่ตาย "มีเรา" หมดเลย!! แต่ความจริง ไม่มีเรา ก็ปรากฏให้เห็นไง จากชาติก่อนคุณอรรณพเป็นใคร? ตายอย่างไร? เวลานอนหลับเหมือนเลยกับตอนปฏิสนธิ เพราะไม่มีอะไรปรากฏ มีแต่จิต ที่ต้องเกิดขึ้นเพราะผลของกรรม แล้วก็ต้องรู้สิ่งซึ่งต่อจากชาติก่อน ขณะสุดท้ายก่อนจะตายรู้อะไร (ก็รู้สิ่งนั้น) นี่ตาย คือ พ้นแล้ว หมดแล้ว เคลื่อนแล้ว ไม่เหลือแล้ว แล้วมันก็ใหม่ ก็ไม่ใช่เรา!! แต่มันเหมือนเป็นเราตั้งแต่เกิดจนตาย มันไม่มีอะไรที่น่ากลัวเลย นี่คือปัญญา แต่ถ้าไม่มีปัญญา เราก็โอย..เราจะตาย แบบไหน เราจะตายอย่างไร เราจะตายตอนนี้หรือเราจะตายตอนนั้น ไม่ต้องคิดเลย มันก็เหมือนกับตอนที่เราจะหลับนั่นแหละ!!!

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง
ขออนุโมทนา อ.คำปั่น อักษรวิลัย ผู้เรียบเรียง รวบรวม และบันทึก "เก็บไว้ในหทัย"
ขอบพระคุณและอนุโมทนา ผศ.อรรณพ หอมจันทร์ สำหรับความการสนทนากับท่านอาจารย์ที่นำมาเผยแพร่
ขออนุโมทนาคุณกัณหา อุรัสยะนันทน์ พลอากาศตรีหญิงกาญจนา เชื้อทอง และทุกๆ ท่านที่มีส่วนร่วมในการจัดทำหนังสือเล่มนี้
และ ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่าน ครับ

... ... ...

ท่านที่สนใจอ่าน "เก็บไว้ในหทัย" ขอเชิญคลิกดาวน์โหลดไฟล์ pdf จากหัวข้อนี้ด้านล่างนี้ ...
เก็บไว้ในหทัย


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
mammam929
วันที่ 25 เม.ย. 2562

น้อมกราบบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ผู้เมตตาเกื้อกูลให้ได้เข้าใจสภาพธรรมว่าเป็นจริงอย่างไร

กราบอนุโมทนากุศลจิตของอาจารย์วิทยากรทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
nualchan.deesawat
วันที่ 25 เม.ย. 2562

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ด้วยความเคารพในเมตตาจิตอย่างสูงค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
abhirak
วันที่ 25 เม.ย. 2562

หนังสือเล่มบางนี้มีคุณค่าเหลือล้นเหลือประมาณจริงๆ ครับ อ่านเริ่มที่ตรงไหนก็ได้ หน้าไหนก็ได้ เพราะทุกบทเป็นเรื่องที่ทำให้ฉุกคิด ได้ไตร่ตรองในพระธรรมทั้งนั้นครับ

ขอกราบอนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
swanjariya
วันที่ 25 เม.ย. 2562

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง ท่านเมตตาต่อทุกคนสุดประมาณ

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณท่านอาจารย์อรรณพ หอมจันทร์ ท่านอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย และท่านวิทยากรทุกท่าน

อนุโมทนาขอบคุณ คุณวันชัย ภู่งาม ที่ร้อยเรียงเรื่องราวที่ได้รับการถ่ายทอดจากท่านอาจารย์อรรณพเกี่ยวกับเหตุที่จะมาเป็นหนังสือ "เก็บไว้ในหทัย" ที่ท่านอาจารย์คำปั่นรวบรวมจากการสนทนาธรรมของท่านอาจารย์ ทั้งนี้ ยังความซาบซึ้งให้กับผู้อ่าน อีกทั้งได้ตระหนักถึงความเมตตายิ่งของท่านอาจารย์ที่มีต่อผู้เริ่มต้นศึกษาพระธรรม และผู้ที่จะแนะนำผู้อื่นให้ศึกษาพระธรรม

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Fongchan
วันที่ 25 เม.ย. 2562

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Selaruck
วันที่ 27 เม.ย. 2562

กราบแทบเท้าระลึกถึงพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์บริหารวนเขตต์

กราบอนุโมทนายิ่งกับท่านอาจารย์คำปั่น และท่านอาจารย์อรรณพค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
jaturong
วันที่ 29 เม.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chvj
วันที่ 15 พ.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Nattaya40
วันที่ 25 เม.ย. 2563

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ