ไม่ให้เงินพระ (พระรับเงินต้องอาบัติตกนรก)

อย่างบางท่าน ท่านก็บอกว่า ท่านเดินผ่านคนขอทาน แล้วท่านก็ไม่ให้ พอผ่านไปแล้ว ท่านก็เกิดหิริได้ว่าควรที่จะเกิดกุศลแทนอกุศล เพราะเหตุว่าที่ไม่ให้นั้นก็เพราะได้ข่าวว่า ขอทานนี้มีเงินมาก ขอทานบางคนมีเงินฝากธนาคาร เพราะฉะนั้น ในขณะนั้นก็เป็นอกุศลจิตที่ไม่คิดจะให้ แต่เมื่อไม่ให้แล้ว หลังจากที่ได้ฟังธรรม แล้วได้เข้าใจเรื่องของหิริโอตตัปปะก็ยังเกิดระลึกได้ มีความละอายที่ไม่ให้ในขณะนั้น แต่ว่ามีเหตุผล คือ ยังเป็นผู้ที่พิจารณาในการไม่ให้ ไม่ใช่ด้วยความต้องการที่จะไม่ให้ แต่ไม่ให้เพราะพิจารณาเห็นว่า ผู้ที่ขอบางคนก็เป็นผู้ที่มีเงินมากแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นบุคคลอื่นซึ่งสมควรที่จะช่วยเหลือ ท่านผู้นั้นก็คงจะเกิดหิริโอตตัปปะ ถอยกลับจากอกุศล แล้วสงเคราะห์ช่วยเหลือคนที่ควรจะช่วย
ในการกระทำบางอย่างดูเสมือนว่าเป็นอกุศล แต่ถ้าขณะนั้นเป็นไปด้วยโยนิโสมนสิการ พิจารณาด้วยความถูกต้อง ขณะนั้นก็เป็นกุศลได้
ไม่ให้เงินพระ เพราะพิจารณาด้วยปัญญาเป็นบุญ ให้เงินพระเพราะความไม่รู้ (โมหะ) เป็นบาป ไม่ใช่บุญ
เงินเป็นสิ่งที่ไม่สมควรกับพระภิกษุ พระพุทธเจ้าทรงปรับอาบัติกับพระภิกษุที่รับและยินดีในเงินและทอง เพราะนำมาซึ่งกิเลส ผู้ที่บวช สละทุกสิ่งแล้ว ยังจะมาสะสมสิ่งที่มีโทษและสิ่งที่พระพุทธเจ้าห้ามรับอีก ก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้น คฤหัสถ์ อุบาสก อุบาสิกาผู้ฉลาดในบุญ ก็พิจารณาด้วยปัญญาว่า สิ่งใดควรให้ และสิ่งใดไม่ควรให้พระภิกษุ ควรถวายปัจจัย 4 มี อาหาร จีวร เสนาสนะ ยารักษาโรค ที่เป็นปัจจัย 4 กับพระภิกษุ แต่ไม่ใช่ เงินและทองที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ การที่บุคคลพิจารณาด้วยปัญญาแล้วไม่ให้เงินทอง พิจารณาด้วยปัญญาเช่นนี้ จึงเป็นบุญ ที่เกิดจากความเข้าใจถูก การไม่ให้เงินพระ แต่ถวายของที่เหมาะสม จึงเป็นบุญด้วยปัญญา ที่ประเสริฐกว่า บุญที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา และ
การให้เงินพระ มีโทษกับท่าน ท่านรับเงินต้องอาบัติ ตายไปตกนรก การให้เงินพระ จึงไม่ใช่บุญ เพราะเป็นโทษกับพระ ให้ด้วยความไม่รู้ (โมหะ) ไม่ใช่บุญเป็นบาป แต่ พิจารณาไม่ให้เงินพระ ด้วยปัญญา ปัญญาเป็นบุญที่ประเสริฐสุด
พระภิกษุอยู่ได้ด้วยปัจจัยสี่.แต่ปัจจุบันไม่มีป่าต้อง. อยู่ตามวัด ในสังคม.การดำเนินชีวิตของพระก็ให้สอดคล้องกับสังคม เพื่อรักษาพระศาสนาให้ยั่งยืนมั่นคง ก็มีความจำเป็น จะต้องปรับตัว. ถ้าพระไม่รับเงินแล้ว.ท่านคิดว่าพระพุทธศาสนาจะยืนหยัดอยู่ได้ถึงวันนี้หรือเปล่า. เช่นพุทธศาสนาที่หมดจากอินเดียแผ่นดินแม่.ก็คงจะมีเหตุการณ์เช่นนี้กระมัง.? กระผมคิดว่า. หลักธรรมหนึ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้. เพื่อความมั่นคงยั่งยืนของพุทธศาสนา.คือ
"มหาปเทสสี่" เป็นการปฏิบัติอนุโลมไปตามกาลเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป.
ท่านคิดว่ายังไงครับ.?
ด้วยความเคารพ.
เชิญอ่านลิ้งนี้ อธิบายข้อสงสัยแต่ละข้อ และ มหาปเทศ 4
พระภิกษุกับเงิน ความเข้าใจผิดของสังคมและที่ถูกต้องตามพระธรรมวินัย





