สนทนาธรรมที่ฮานอย ซาปา 2559 (5)
วันที่ 25 ต.ค. 59
วันนี้สหายธรรมอีกกลุ่มมาร่วมสมทบอีก 17 ท่าน ตามกำหนดการจะสนทนาธรรมถึง 10.30 น. เพราะต้องเดินทางไปนอนที่ซาปาที่ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง
แต่ก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่อ้างว่า ศึกษาพระไตรปิฏกมาทั้งหมด ตั้งใจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญพระไตรปิฏก มาถามว่า ทรงแสดงบารมี 7 ไม่ใช่บารมี 10 ท่านอาจารย์ถามว่า เคยได้ยินบารมี 30 ทัศไหม เขาบอกว่าไม่เคย เลยแนะนำให้อ่านอรรถกถาด้วย เขาบอกว่า อรรถกถาเกิดหลังพุทธปรินิพพานแล้วกว่า 1,000 ปี ไม่ใช่พุทธพจน์ ท่านอาจารย์บอกว่า คำจริงทั้งหมดเป็นพระพุทธพจน์ และสุดท้ายที่ทำให้เสียเวลามากก็คือ เขาอ้างพระสูตรหนึ่งว่า พระพุทธเจ้าไม่ทรงตอบปัญหาของพราหมณ์คนหนึ่งว่า เป็นอัตตาหรือไม่ แต่อาจารย์กลับบอกว่า พระพุทธเจ้าตรัสว่า ทุกอย่างเป็นอนัตตา แล้วเด็กหนุ่มก็พูดเวียดนามยาวเหยียด คนแปลก็ไม่ยอมแปล ได้แต่ทำหน้าเมื่อย ในที่สุดท่านอาจารย์ก็ถามให้เขาตอบว่า ยอมรับไหมว่า เห็น , ได้ยิน ดับ เขาบอกว่ายอมรับ ท่านอาจารย์บอกว่า นั่นแหละอนัตตา เพราะไม่เที่ยง ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา ผู้ฟังในห้องทั้งหมดส่งเสียงสาธุพร้อมกัน 3 ครั้ง
กว่าจะได้รับประทานอาหารกลางวันและออกเดินทางก็บ่ายสองครึ่ง รถบัสใหญ่ 2 คันพาพวกเราไปซาปาผ่านทางหลวงใหม่เพิ่งสร้างเสร็จได้ไม่ถึง 2 ปี เป็นทางหลวงที่ดีที่สุดของเวียดนาม ทางหลวงนี้ไปถึงจีน เพราะเมืองลาวไ (Lao Cai) อยู่ติดกับคุนหมิง ตอนใต้ของจีน เส้นทางนี้จะลดเวลาเดินทางได้ 3 ชั่วโมง แต่ไม่ค่อยมีรถแล่น เพราะจะต้องจ่ายค่าผ่านทางถึง 30 $ จึงมีแต่รถที่พานักท่องเที่ยวไปซาปา มาครั้งก่อนใช้รถไฟ ออกสามทุ่มถึงลาวไคตีห้า แล้วต่อรถจากลาวไคขึ้นเขาไปซาปา (Sapa) อีก 30 กม. คราวนี้มาทางรถบัสจึงสะดวกกว่ามาก เพราะมีที่พักริมทางให้ซื้ออาหารและใช้ห้องน้ำหลายแห่ง หลังแวะพักทานอาหารเย็นแล้วเดินทางต่อ
ท่านอาจารย์สนทนาธรรมกับคุณถั่ง ไกด์เวียดนามที่มาเรียนภาษาไทยที่เมืองไทย 3 ปี คุณถั่งเป็นเด็กหนุ่ม อายุไม่น่าถึง 30 เธอบอกว่าไม่มีศาสนา เพราะเวียดนามเป็นคอมมิวนิสต์ ถ้าบอกว่าไม่นับถือศาสนาใดๆ จะหางานทำได้ง่ายกว่า แต่บรรพบุรุษเป็นพุทธ ในเทศกาลสำคัญครอบครัวก็จะพากันไปวัดไหว้พระขอพรให้ได้สิ่งที่ปรารถนา โดยไม่เข้าใจว่า พระพุทธเจ้าสอนอะไร ท่านอาจารย์ถามว่า อยากเข้าใจไหม เขาบอกว่า อยากเข้าใจ ท่านอาจารย์ก็กรุณาเริ่มต้นอธิบาย พร้อมกับซักถามให้คิดแล้วตอบ ตั้งแต่ทรงแสดงความจริงของสิ่งที่มีจริงที่เกิดเพราะเหตุปัจจัย เกิดแล้วดับไป ไม่กลับมาอีกจึงไม่ใช่ตัวตน สัตว์ บุคคล ไม่ใช่เรา ไม่ใช่คุณถั่ง จนกระทั่งคุณถั่งบอกว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย ท่านอาจารย์บอกว่า ถ้าไม่มีการตรัสรู้และไม่ทรงแสดงก็จะไม่มีใครมีโอกาสได้ยินความจริงอย่างที่สุดนี้เลย
เวลาเดินทางในรถจึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว มาถึงโรงแรมที่พักที่อยู่บนยอดเขาสองทุ่มครึ่ง
ขอเชิญคลิกชมตอนอื่นๆ ได้ที่นี่...
สนทนาธรรมที่ฮานอย ซาปา 2559 (1)
สนทนาธรรมที่ฮานอย ซาปา 2559 (2)
สนทนาธรรมที่ฮานอย ซาปา 2559 (3)
สนทนาธรรมที่ฮานอย ซาปา 2559 (4)
สนทนาธรรมที่ฮานอย ซาปา 2559 (6)
สนทนาธรรมที่ฮานอย ซาปา 2559 (7)