ตอนบวชเป็นพระได้แอบดูข้อมูลในโทรศัพท์ผู้อื่นปาราชิกหรือป่าวครับ

 
Tom_Tom
วันที่  20 ก.ค. 2558
หมายเลข  26806
อ่าน  929

ตอนที่ผมได้บวชเป็นพระได้ขอยืมโทรศัพท์พระด้วยกันเพื่อใช้ในการโทร แต่เกิดความสงสัยอยากรู้เลยแอบดูข้อมูลการโทรเข้า-ออกในโทรศัพท์โดยพระเจ้าของโทรศัพท์ก็ไม่รู้ อยากถามครับว่าผมต้องอาบัติปาราชิกหรือป่าวครับ ทุกวันนี้ไม่ค่อยสบายใจเลยรู้สึกผิดมาก


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 20 ก.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปาราชิก คือ ประเภทของโทษที่เกิดจากการล่วงละเมิดสิกขาบทประเภทครุอาบัติ อาบัติหนักที่สุด ที่เรียกว่าอาบัติปาราชิก พระภิกษุต้องอาบัติปาราชิกสี่ ข้อใดข้อหนึ่ง แม้จะไม่กล่าวลาสิกขาบท ก็ถือว่าขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที เมื่อความผิดสำเร็จ

ปาราชิก มี 4 ข้อ อยู่ใน ศีล 227 ได้แก่

1. เสพเมถุน แม้กับสัตว์เดรัจฉานตัวเมีย (ร่วมสังวาสกับคนหรือสัตว์)

2. ถือเอาทรัพย์ที่เจ้าของไม่ได้ให้ มาเป็นของตน จากบ้านก็ดี จากป่าก็ดี (ขโมย)

3. พรากกายมนุษย์จากชีวิต (ฆ่าคน) หรือ แสวงหาศาสตรา อันจะนำไปสู่ความตายแก่ร่างกายมนุษย์

4. กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรมอันเป็นความเห็นอย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้าในตัวว่า ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ (ไม่รู้จริง แต่โอ้อวดความสามารถของตัวเอง)

ซึ่งจากเหตุการณ์ที่กล่าวมา ไม่มีเจตนาลักขโมย และ ของไม่มีมูลค่า ถึง 5 มาสก เพียงแอบดูข้อมูลเท่านั้น จึงไม่ต้องอาบัติปาราชิก ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 20 ก.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ขณะที่เป็นพระภิกษุ ไม่ควรใช้โทรศัพท์ ไม่ควรมีสิ่งเหล่านี้ เพราะไม่เป็นไปเพื่อการขัดเกลากิเลส จากประเด็นคำถามแม้จะไม่ถึงอาบัติหนักถึงขั้นขาดจากความเป็นพระภิกษุ แต่ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควร เพราะเหตุว่า เพศบรรพชิตเป็นเพศที่สูงยิ่ง ซึ่งจะต้องมีความจริงใจในการที่จะศึกษาพระธรรมวินัย อบรมเจริญปัญญา น้อมประพฤติในสิ่งที่ถูกต้อง และละเว้นในสิ่งที่ผิดที่ไม่เหมาะไม่ควร ถ้าหากขณะนี้ได้ลาสิกขาเป็นคฤหัสถ์แล้ว ก็ไม่มีอาบัติติดตัวแต่อย่างใด เพราะไม่ใช่ภิกษุแล้ว ก็ขอให้ตั้งใจเป็นคฤหัสถ์ที่ดี ด้วยการทำดีและฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ ครับ
...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Tom_Tom
วันที่ 21 ก.ค. 2558

ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตอบคำถามด้วยครับ ขอถามเพิ่มนะครับ ผมสามารถบวชใหม่ได้อีกใช่ไหมครับ แล้วถ้าผมมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวานจะบวชได้หรือไม่ครับ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ประสาน
วันที่ 21 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
khampan.a
วันที่ 21 ก.ค. 2558
อ้างอิงจาก ความคิดเห็นที่ 3 โดย Tom_Tom

ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตอบคำถามด้วยครับ ขอถามเพิ่มนะครับ ผมสามารถบวชใหม่ได้อีกใช่ไหมครับ แล้วถ้าผมมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวานจะบวชได้หรือไม่ครับ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

ข้อที่ควรพิจารณา คือ เพศบรรพชิต เป็นเพศที่สูงยิ่ง ถ้ารักษาไม่ดี ประพฤติผิดแม้นิดเดียว ก็เป็นเหตุที่จะนำไปสู่อบายภูมิแล้ว เกิดในอบายภูมิได้โดยง่ายเลยทีเดียว จึงเป็นเรื่องของผู้มีอัธยาศัยน้อมไปในการบวชจริงๆ ขัดเกลาจริงๆ ที่ควรแก่การเป็นบรรพชิต ดังนั้น แม้ไม่ได้บวชก็ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญาได้ เหมือนกับตั้งใจว่าจะบวชเพื่อศึกษาพระธรรม เมื่อมีจุดประสงค์ว่า จะศึกษาพระธรรม แล้ว ก็ฟัง ก็ศึกษาได้เลยแม้ในขณะที่เป็นคฤหัสถ์นี้เอง ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
Miracle
วันที่ 19 พ.ย. 2561

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Jarunee.A
วันที่ 12 ต.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ