“เครื่องเนิ่นช้า” – “เครื่องปิดกั้น”

 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่  15 ก.ค. 2558
หมายเลข  26789
อ่าน  2,802

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เรียนขอคำอธิบายและข้อมูลอ้างอิง เกี่ยวกับ “เครื่องเนิ่นช้า” – “เครื่องปิดกั้น” ค่ะ

ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งสำหรับความอนุเคราะห์ให้ได้รับความรู้ค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 15 ก.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปปัญจธรรม คือ กิเลสอันเป็นธรรมเครื่องเนิ่นช้า ที่ทำให้ สังสารวัฏฏ์ ยาวนานมากขึ้น โดยมากทรงแสดงไว้ ๓ ประเภท คือ ตัณหา (โลภะ) มานะ ทิฏฐิ

ตัณหา (ความติดข้องต้องการ) จึงเป็นธรรมเครื่องเนิ่นช้า ทำให้ปัญญาไม่เจริญขึ้น หรือ แม้แต่ผู้ได้ยินได้ฟังธรรมมาบ้าง แต่เป็นผู้มีความหวัง มีความต้องการที่จะให้ได้ผลโดยเร็วจากการศึกษาพระธรรม นี่ก็เป็นเครื่องเนิ่นช้าด้วยเช่นกัน

มานะ (ความสำคัญตน) เป็นธรรมเครื่องเนิ่นช้าอีกประการหนึ่ง ไม่ให้ปัญญาเจริญขึ้น เพราะเหตุว่าเมื่อมีความสำคัญตน ย่อมไม่เข้าไปสอบถาม ไม่เข้าไปสนทนาธรรมกับท่านผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจสภาพธรรม ทำให้เป็นผู้หมดโอกาสในการเข้าใจธรรมเพิ่มขึ้น จึงเป็นธรรมเครื่องช้า ไม่เป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญา

ทิฏฐิ (ความเห็นผิด) เป็นอกุศลเจตสิกที่เกิดร่วมกับโลภมูลจิต (ทิฏฐิคตสัมปยุตต์) ทำให้เป็นผู้มีความเห็นผิดประการต่างๆ มีการยึดถือ ลูบคลำในข้อวัตรปฏิบัติที่ผิด ซึ่งไม่เป็นหนทางที่เป็นไปเพื่อการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม เพราะมีความเห็นผิด มีการยึดถือในข้อวัตรปฏิบัติที่ผิด ความเข้าใจถูก เห็นถูกในสภาพธรรม ย่อมมีไม่ได้ ครับ

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 24

สัตว์ทั้งหลายย่อมยินดีในความเนิ่นช้านั้น เพราะฉะนั้น ความเนิ่นช้านั้น จึงชื่อว่า อาราโม เป็นที่มายินดี ความเนิ่นช้าเป็นที่มายินดีของบุคคลนั้น เพราะฉะนั้น บุคคลนั้นจึงชื่อว่า ปปญฺจาราโม แปลว่าผู้มีความเนิ่นช้าเป็นที่มายินดี ความยินดีในความเนิ่นช้าของบุคคลนั้น เพราะฉะนั้น บุคคลนั้นจึงชื่อว่า ปปญฺจรตี ผู้ยินดีในความเนิ่นช้า. บทว่า ปปญฺโจ นั้น เป็นชื่อของตัณหา ทิฏฐิ และมานะอันเป็นไปแล้วโดยความเป็นอาการของผู้มัวเมาและผู้ประมาทแล้ว


ถ้าหากว่าในแต่ละวัน ชีวิตเต็มไปด้วยความสนุกสนานเพลิดเพลิน ยินดีติดข้องในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ย่อมทำให้เป็นผู้เหินห่างจากการฟังพระธรรม ไม่ได้ไตร่ตรองพิจารณาถึงพระธรรมที่ได้ยินได้ฟัง ตัณหา หรือโลภะ จึงเป็นธรรมเครื่องเนิ่นช้า ทำให้ปัญญาไม่เจริญขึ้น หรือ แม้แต่ผู้ได้ยินได้ฟังพระธรรมมาบ้าง แต่เป็นผู้มีความหวัง มีความต้องการที่จะให้ได้ผลโดยเร็วจากการศึกษาพระธรรม อยากให้สติเกิด อยากให้ปัญญาเกิด นี่ก็เป็นเครื่องเนิ่นช้าด้วยเช่นกัน เพราะความอยาก ความต้องการเป็นอกุศลธรรม

อ้างอิงจาก ... ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๑๑๘

เบาสบายด้วยความเข้าใจในพระธรรม เข้าใจว่าอย่างไร เข้าใจว่าเป็นธรรมและเป็นอนัตตา ไม่มีเราไปบังคับจัดการได้ ความเข้าใจหรือปัญญาจะเกิดขึ้นได้ก็เป็นหน้าที่ของธรรมที่จะปรุงแต่งทีละเล็กละน้อย ไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจเพราะเป็นหน้าที่ของธรรม ไม่ใช่เรา เข้าใจน้อยก็เข้าใจน้อย เป็นผู้ตรงเพราะเพิ่งเริ่มสะสม เมื่อเข้าใจว่าเป็นหน้าที่ของธรรมไม่ใช่เราแล้ว จะรู้เมื่อไหร่ มากหรือน้อยก็เป็นหน้าที่ของธรรมที่ทำหน้าที่ ก็เบาเพราะเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น รู้หรือไม่รู้ แต่อบรมได้ แต่ใช้เวลานาน ดังคำกล่าวที่ว่าพืชที่เจริญเติบโตช้าที่สุดคือ ปัญญา

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ ครับ

วันนี้รู้จักเครื่องเนิ่นช้าหรือยัง

ธรรมเครื่องเนิ่นช้า [ภูตเถรคาถา]

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 16 ก.ค. 2558

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง ไม่ใช่เพียงแค่วันเดียว ไม่ใช่เพียงชาติเดียวเท่านั้น แต่ต้องอาศัยกาลเวลาที่ยาวนานในการสะสมอบรมเป็นจิรกาลภาวนา (การอบรมที่ต้องใช้เวลาอันยาวนาน) ค่อยๆ สะสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย โดยที่ไม่ขาดการฟังพระธรรม

ธรรมที่เป็นเครื่องเนิ่นช้า คือ กุศลธรรมทั้งหลาย เป็นสิ่งที่ไม่ได้ทำให้ปัญญาเจริญขึ้น หรือ จะกล่าวว่า ขณะที่กุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นไป ขณะนั้นเนิ่นช้าต่อการเจริญขึ้นของกุศลธรรม ก็ได้ เพราะเหตุว่าเมื่อกุศลเกิดขึ้น ย่อมไม่ปล่อยให้จิตเป็นกุศลได้เลย พระธรรมที่ทรงแสดงถึงธรรมที่เป็นเครื่องเนิ่นช้า นั้น จึงเป็นเครื่องเตือนใจที่ดีสำหรับผู้ศึกษาพระธรรมทุกท่าน เพื่อความเป็นผู้ไม่ประมาทในชีวิตประจำวัน ไม่ละทิ้งโอกาสที่สำคัญของชีวิต คือ โอกาสที่ได้ฟังและเข้าใจพระธรรม เพราะประโยชน์ของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ อยู่ที่การมีโอกาสได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกเป็นปัญญาของตนเอง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
peem
วันที่ 16 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
papon
วันที่ 17 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
jirat wen
วันที่ 18 ก.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 23 ต.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Jarunee.A
วันที่ 11 ต.ค. 2566

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ