สารธรรมจากการสนทนาพระสูตร ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
สนทนาพระสูตร 15 พฤศจิกายน 2557 เรื่อง ทรัพย์
@ ต้องการทรัพย์อะไร ทุกคนก็ต้องการตามความสะสม ตัวทรัพย์เอง ไม่ทำให้ใคร เดือดร้อน เพราะทำให้ปลื้มใจ แต่ว่าต้องการทรัพย์อะไร ทรัพย์อะไรที่ทำใหติดข้องเดือด ร้อน หรือทรัพย์ที่ทำให้เบาใจ ละกิเลส เพราะฉะนั้น คำว่าปลื้มใจ ต้องพิจารณาว่า ปลื้ม ด้วยกุศลหรืออกุศล เพราะฉะนั้น ผู้มีปัญญาย่อมเห็นว่าอะไรดีกว่ากัน ทรัพย์ที่ติดข้อง และทำให้เดือดร้อนจนตาย หรือ ทรัพย์ที่ทำให้คลายติดข้อง คลายความเดือดร้อนแท้ จริง
@ ก่อนได้มาก็ต้องแสวงหา ได้ก็ต้องรักษา และหายไปก็เดือดร้อน เพราะฉะนั้นทรัพย์ อย่างนั้นหรือที่จะทำให้โล่งใจ สบายใจ
@ คนที่ไม่มีปัญญา แต่มีทรัพย์มากมาย กับคนที่มีปัญญา แม้ไม่มีทรัพย์สมบัติเลย ใคร ทุกข์กว่ากัน เจ้าชายสิทธทัตถะ สละจักรพรรดิ์สมบัติ จนไม่เหลืออะไรเลย เหลือเพียง สิ่งที่ดำรงชีวิตได้ สุขไหมคะ
@ ผู้มีปัญญาพิจารณาว่า ก่อนนี้ไม่มี แล้วมีขึ้น แล้วก็ไม่มีอีก แล้วติดข้องอะไร ดังนั้น เพราะความไม่รู้จึงติดข้อง และ เดือดร้อน ปัญญาจึงประเสริฐสุด ค่ะ
@ ปุถุชนติดข้องในทรัพย์แน่นอน พระโสดาบันก็ติดข้อง ความติดข้องมีประโยชน์ไหม ไม่มีประโยชน์ แล้วทางที่จะละความติดข้องมีไหม หนทางคือเข้าใจความจริงว่าติดข้อง เป็นธรรมไม่ใช่เรา
@ สละทรัพย์ก็ว่ายาก สละความเป็นเรา เป็นตัวตนยากกว่ามากไหม แต่มีหนทาง คือฟัง ให้เข้าใจถูกว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ฟังให้เข้าใจเช่นนี้ต่อไป
@ จะละกิเลสก็ต้องรู้จักกิเลส ที่เข้าใจว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ใครรู้จักกิเลส ก็ต้องเป็น ปัญญา ถ้าไม่มีปัญญาจะรู้จักกิเลสได้อย่างไร
@ ฟังธรรมทำไม เพื่อเข้าใจว่า เป็นธรรม ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ เกิดแต่เหตุปัจจัย ไม่ใช่เรา แล้วประโยชน์อะไรที่จะเข้าใจเช่นนี้ เพื่อเข้าใจตามความเป็นจริง ในขณะนี้ที่ กำลังเห็น ขณะที่เข้าใจถูก ว่าเป็นธรรมในขณะนี้ ก็กำลังละความติดข้องแล้ว ละความ ติดข้องว่ามีเรา มีสัตว์ บุคคล
@ เห็นก็ชอบ อาหารก็ชอบ แล้วจะละติดข้องได้อย่างไร ดังนั้น จะละติดข้องได้อย่างไร ถ้าไม่เข้าใจว่าไม่ใช่เรา











