สังฆาทิเสสหากินไม่ขึ้นจิงหรือ

 
พระใหม่
วันที่  25 ส.ค. 2557
หมายเลข  25395
อ่าน  18,038

1. อยากถามว่าถ้าพระต้องสังฆาทิเสสแล้วไม่ได้เข้าปริวาสก่อน แล้วสึกออกไป จะหากินไม่ขึ้นจริงเหรอครับ

2. อานิสงส์จากการบวชเกิดขึ้นตอนไหน ถ้าบวชเข้ามาแล้วต้องอาบัติ แต่ไม่ได้ปลง แต่สึกออกไป อานิสงส์นั้นจะยังได้รับอยู่หรือเปล่า


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 25 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

กราบนมัสการเรียน พระคุณเจ้า ที่เคารพ

พระวินัยบัญญัติแต่ละสิกขาบท พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติด้วยพระองค์เองเพื่อให้พระภิกษุได้สำรวมระวัง ไม่ล่วงละเมิดในสิกขาบทนั้นๆ อันจะเป็นไปเพื่อฝึกหัดกาย วาจา ใจ ให้เป็นไปในทางที่ถูกที่ควร เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส ถ้าไม่ได้ศึกษาพระธรรมวินัย ให้เข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว โอกาสที่จะล่วงละเมิดสิกขาบท ก็ย่อมจะมีได้มาก รวมถึงต้องอาบัติสังฆาทิเสสด้วย ซึ่งเมื่อต้องอาบัติสังฆาทิเสสแล้ว ต้องแก้ไขด้วย การประพฤติวุฏฐานวิธี (อยู่กรรม) ตามพระวินัย จึงจะพ้นจากอาบัติสังฆาทิเสสได้ ตามความเป็นจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอาบัติหนักหรือเบา ถ้าไม่ได้แก้ไขให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยแล้ว ย่อมมีโทษแก่ภิกษุรูปนั้น เป็นเครื่องกั้นในการบรรลุมรรคผลนิพพาน และถ้ามรณภาพในขณะที่ยังมีอาบัติอยู่ ก็เป็นผู้มีอบายภูมิเป็นที่ไปในเบื้องหน้า แต่ถ้าได้แก้ไขให้ถูกต้องแล้ว ย่อมไม่เป็นเครื่องกั้น เมื่อลาสิกขาแล้ว ย่อมไม่มีอาบัติอีกต่อไป สามารถเป็นคนดี ในเพศคฤหัสถ์ได้ โดยไม่ต้องวิตกกังวลในเรื่องอาบัติ เพราะเป็นคฤหัสถ์แล้ว ไม่มีอาบัติ ไม่ใช่เพศบรรพชิตอีกต่อไป ก็ควรที่จะเป็นคนดี ควบคู่ไปกับการฟังพระธรรมให้เข้าใจ แต่ถ้ากลับเข้ามาบวชใหม่ อาบัติที่เคยต้องไว้ยังไม่ได้แก้ไขเมื่อตอนบวชครั้งก่อน กลับมาทั้งหมด ก็จะต้องแก้ไขให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย ต่อไป ครับ ดังนั้น สึกออกไปแล้ว เป็นเพศคฤหัสถ์ จึงไม่ได้กั้นความเจริญ ตามที่เข้าใจผิดกัน ครับ

ส่วนอานิสงส์ของการบวช คือ การศึกษาพระธรรมตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงหากมีความเข้าใจพระธรรม แม้สึกออกมา ความเข้าใจพระธรรมนั้นก็ยังอยู่ และเป็นประโยชน์เกื้อกูล กับการเป็นคฤหัสถ์ด้วย ส่วนอาบัติที่เคยมี เมื่อสึกออกมาแล้ว ย่อมไม่มีผลในเพศคฤหัสถ์ ครับ ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 26 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ถ้าหากยังไม่มีการแก้ไขให้ถูกต้องตามพระวินัยแล้ว ก็จะเป็นเหตุให้เกิดความไม่สบายใจอยู่ร่ำไป ไม่ใช่เฉพาะอาบัติสังฆาทิเสสเท่านั้น หมายรวมถึงอาบัติทุกกองด้วย ดังนั้น ที่ดีที่สุดที่จะไม่เดือดร้อนใจและไม่เป็นเครื่องกั้นสวรรค์มรรคผลนิพพาน ตราบใดที่ยังปฏิญญาว่าเป็นพระภิกษุอยู่ เมื่อต้องอาบัติแล้วก็จะต้องกระทำคืนแก้ไขให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย พร้อมทั้งมีความจริงใจที่จะสำรวมตามพระวินัยฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลสของตนเองต่อไป

แต่ถ้าลาสิกขาไปแล้ว ก็ไม่มีอาบัติติดตัว การจะได้รับอะไร ดีหรือไม่ดี ไม่มีใครสามารถที่จะรู้ได้ ดังนั้น ก็ขอให้ตั้งใจทำในสิ่งที่ดี สะสมเหตุที่ดี คือ กุศล ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 26 ส.ค. 2557

1. สึกแล้ว ไม่มีอาบัติติดตัว แต่มีกิเลสที่สะสมไม่สูญหายไปไหน ค่ะ

2. ถ้าบวชแล้วไม่ศึกษาพระธรรมวินัย ไม่ฟังธรรม ก็เป็นอกุศล บวชแล้วไม่รักษาพระวินัยก็เป็นอาบัติมีโทษ และ ที่สำคัญอานิสงส์อยู่ที่จิตขณะใดเป็นกุศล ขณะนั้นก็เป็นบุญ ค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ