สารธรรมจากสนทนาธรรม วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2557
@ บางคนคิดว่าการให้ เป็นเพียงการสละวัตถุ แต่ การให้มีความละเอียดมากขึ้นไปอีก ให้ความเป็นมิตร สละความไม่เป็นมิตรได้ไหม และ การสละที่สูงขึ้นไปอีก คือ การสละ กิเลสที่เกิด ไม่ให้เกิดได้ไหม นี่ก็ยากขึ้นไปอีก และ การสละที่เป็นการสละความเห็นผิด ที่ยึดถือว่าเป็นเรา เป็นสัตว์บุคคล ก็ยากยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่ง จะสละได้ ก็เพราะมีปัญญา เป็น สำคัญ
@ ศีล ที่ละเอียด คือ สละกิเลสได้ เมื่อ กิเลสปรากฎ ที่จะไม่ล่วงออกมาทางกาย และ วาจา
@ ศึกษาพระอภิธรรม อภิธรรมกำลังเผชิญหน้า ศึกษาพระอภิธรรม เป็นการเข้าใจสิ่งที่ ปรากฎว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา
@ ขณะที่ไม่ให้อภัย ให้รู้ได้เลยว่า ขณะนั้น ไม่เข้าใจสภาพธรรมในขณะนั้น
@ ชื่อมาทีหลัง แต่ การเข้าใจธรรมต้องตรง ไม่ใช่ว่า เพราะ สภาพธรรมใดเกิด ก็ไปเรียก ชื่อว่า นี่วิบาก นี่ กุศล นี่ อกุศล ค่ะ โดยไม่ต้องเรียกชื่อ ใช้ชื่อเลย
@ เวลาเห็น ไม่ต้องเรียกเห็น พยายามใส่ชื่อเมื่อไหร่ ก็ไม่เข้าใจเห็นในขณะนั้น เพราะ พยายามจำชื่อ
@ น้อมทุกครั้งที่ได้ยิน ที่ได้เข้าใจธรรม
@ ต้นไม้ที่มีรากลึก จะล้มยากไหม อวิชชาที่เป็นรากลึก จะละยากไหม ซึ่งจะค่อยๆ ละได้ ด้วยการเข้าใจว่าเป็นธรรม
@ ขณะนี้เป็นคำตอบของการมีอวิชชามากคือขณะนี้เห็นแล้ว ได้ยินแล้วรู้ความจริงหรือไม่
@ อยากจะรู้ผัสสะ รู้ผัสสะได้ไหม ไม่ได้ แล้วอยากจะรู้สติ รู้สติได้ไหม ถ้าไม่มีปัญญา จะรู้ได้อย่างไร เพราะฉะนั้น ไม่ต้องไปทำอะไร อยากรู้นั่น รู้นี่ แม้อวิชชายังไม่รู้เลย เดี๋ยวนี้ ยังไม่รู้ก็คือ อวิชชา เหมือนหลับไหม เพราะฉะนั้น ที่ถูกคือการฟัง ศึกษาพระธรรมต่อไป
@ แค่ลืมตามีคนแล้วแต่ความเป็นจริงเป็นเพียงสิ่งที่ปรากฎทางตา นี่แสดงถึงการเกิดดับ สลับกันของสภาพธรรมอย่างรวดเร็ว
@ ถ้าไม่ฟังจะเข้าใจไหม คะ เข้าใจได้ต่อเมื่อฟัง แล้วจะมีวิธีอื่นไหม
@ สิ่งที่มีจริงขณะนี้เกิดขึ้นและดับไป เริ่มเห็นความไม่มีสาระไหมคะ ก็ต้องเป็นปัญญาที่ ค่อยๆ สะสมไปทีละน้อย
@ จะไปทำอะไร หาวิธีเกินกว่านี้ นอกจากการฟัง ศึกษาพระธรรมได้ไหม
@ เสียงพัดลมเป็นเสียงหรือเป็นคำ พัดลมพูดว่าอะไรหรือเปล่า พัดลมไม่ได้พูด แต่มี เสียงแน่นอน ถ้ามีการพูดภาษาญี่ปุ่น คนไทยเข้าใจไหม แต่มีเสียงใช่ไหม เพราะ ฉะนั้นเสียงเป็นเสียง แต่ เมื่อได้ยินเสียงแล้วก็คิดนึกต่อว่าเป็นเสียงอะไร เสียงนั้น เสียงนี้
@ การละอุปทาน ควายึดถือ ไม่ใช่ขณะอื่น ตอนอื่น คือ ขณะนี้เอง ที่สภาพธรรมกำลัง ปรากฎ
@ หนทางยังไกล ไม่ต้องหวัง หวังเมื่อไหร่ ช้าเมื่อนั้น
@ เวลาที่พบกันแต่ละอาทิตย์ คือ ได้ร่วมกัน สนทนาเข้าใจธรรมในสิ่งที่มี ซึ่ง สนทนา ธรรมเป็นมงคล เป็นสิ่งที่ประโยชน์ ฟังแล้วสนทนา จะทำให้เข้าใจขึ้น
@ ขออนุโมทนาได้ไหม คะ ที่เข้าใจถูก ที่เข้าใจว่ายาก ซึ่งจริงๆ ยากกว่าที่คิด เพราะ นี่ แค่ปริยัติ ปฏิบัติ คือ สติที่จะเกิดระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมขณะนี้ ยากยิ่งกว่า เพราะ ต้องรอบรู้ปริยัติจริงๆ
@ เวลาที่ต้องการ ขณะนั้นก็ไม่สามารถเข้าใจพระธรรมได้ในขณะที่เข้าใจ
@ ปัญญานำกิจที่สมควร มีประโยชน์ ก็จะทำให้รู้ได้ว่าประโยชน์จริงๆ คืออะไร นั่นคือ กุศลธรรม และ ปัญญา
@ ถ้าไม่มีความเข้าใจที่มั่นคงในความเป็นอนัตตา จะดับ ละ ความเป็นอัตตาได้อย่างไร
@ บางคน ไม่ค้องเรียน ปฏิบัติเลย แสดงว่าผู้นั้นไม่เห็นคุณค่าของพระธรรมแต่ละคำ
@ มาฟังธรรม ก็ยังติดข้องในธรรมที่อยากรู้ อยากทำ ก็เป็นเครื่องกั้นในขณะนั้น
@ บางคนก็ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ดูแข็งแรงมาก ก็ตอบว่า ณ ขณะนี้ นะคะ ตอนนี้ แต่ ตอนอื่นก็เป็นไปตามเหตุปัจจัย
@ จับด้ามมีดก็ไม่รู้สึก ฟังขณะนี้ก็ไม่รู้สึก แต่ ขณะที่เข้าใจทีละน้อย ก็ค่อยๆ ละอวิชชา ค่ะ ซึ่ง การจับด้ามมีดที่สึกไปทีละน้อย คือ ขณะที่เข้าใจไปทีละน้อย




