คำว่า ปฏิบัติธรรม คืออะไร

 
Krisd
วันที่  26 เม.ย. 2557
หมายเลข  24770
อ่าน  2,546

สมถกรรมฐานหรือสมถภาวนา คือ การปฏิบัติธรรม หรือไม่ครับ

ผมฟังธรรม ได้ยินท่านอาจารย์กล่าวว่า "ปฏิบัติ" มาจาก ปฏิปัตติ คือการ ถึงเฉพาะลักษณะของสภาพธรรมะ ซึ่งเป็นขณะที่เกิดสติปัฏฐาน ซึ่งไม่ใช่ขั้นสมถภาวนา

ผมเข้าใจถูกหรือไม่ว่า การปฏิบัติธรรม เป็นการทำกิจของสภาพธรรมะ ดังนั้น สมถกรรมฐานหรือสมถภาวนา หากผู้ศึกษาธรรมจะตรงต่อพระธรรมจริงๆ ต้องไม่คิดว่าสมถภาวนาเป็นขั้นปฏิบัติธรรม ใช่หรือไม่ครับ แต่สมัยนี้ใครๆ เขาจะถือว่าเขาถึงขั้นปฏิบัติกันแล้ว แม้จะเป็นขั้นสมถภาวนา

แล้วในสมัยก่อน การเจริญสมถกรรมฐานหรือสมถภาวนานั้น เขาถือเป็นการปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมหรือไม่ครับ

คำว่า "ปฏิบัติ" พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้หลากหลายนัยหรือเปล่าครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 26 เม.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ปฏิบัติธรรมมีหลายนัย ซึ่งจะมีคำว่า ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ซึ่งหมายถึง ปฏิบัติธรรมที่เป็นกุศลทุกประการ ที่เป็นทาน ศีล ภาวนา ทั้งสมถภาวนา และ วิปัสสนาภาวนา สมควรแก่ธรรม คือ สมควรแก่ผลที่จะได้ เพราะฉะนั้น ถ้ากล่าวถึง ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติธรรมนั้นจึงกินความกว้างขวาง ที่รวมถึงกุศลทุกประการ รวม สมถภาวนาด้วย

แต่ สมัยปัจจุบัน ใช้คำว่า ปฏิบัติธรรม ที่เขาเข้าใจว่า การเจริญวิปัสสนา หรือเข้าใจว่า เป็นหนทางการดับกิเลส ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดว่า จะต้องเจริญสมถภาวนาก่อน จึงจะเจริญวิปัสสนาได้ หรือ เข้าใจผิดว่า การนั่งสมาธิเป็นการปฏิบัติธรรม เพราะฉะนั้น ก็เป็นการเข้าใจผิดตั้งแต่ต้น เพราะ การทำสมาธิด้วยอกุศลก็ไม่เป็นทั้งสมถภาวนาและวิปัสสนา เพราะ เป็นอกุศลจิต แต่ไม่รู้ และ การปฏิบัติธรรม ที่เข้าใจว่า เป็นหนทางที่จะบรรลุ เข้าใจว่าต้องเจริญสมถภาวนาก่อน จึงจะบรรลุ จึงเจริญสมถภาวนาก่อน ก็เข้าใจผิด ก็ผิดอีก และ ทำด้วยการนั่งสมาธิ เข้าใจว่าเจริญสมถภาวนาก็ผิด เพราะฉะนั้น จึงไม่ใช่การปฏฺิบัติธรรม แม้จะใช้คำว่าปฏิบัติธรรม เพราะ ไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง ไม่ใช่เป็นไปในทาน ศีล สมถภาวนา และ วิปัสสนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 26 เม.ย. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำคัญอยู่ที่ความเข้าใจถูกเห็นถูก ถึงแม้ว่าจะมีคำว่า“ปฏิบัติธรรม” ปรากฏในคำสอนที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง แต่ถ้าไม่มีความเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ก็ไม่ใช่การปฏิบัติธรรม แต่เป็นการปฏิบัติผิด ไม่เป็นไปเพื่อความเข้าใจขึ้นของปัญญา ในขณะที่ปฏิบัติผิดนั้น ก็เพิ่มพูนโลภะความติดข้องต้องการ และความเห็นผิด ให้เพิ่มขึ้น แท้ที่จริงแล้ว การปฏิบัติธรรม เป็นการอบรมเจริญปัญญา เพื่อรู้สภาพธรรมที่ปรากฏ คือ รู้นามธรรม และรูปธรรมตามความเป็นจริง ซึ่งเริ่มต้นด้วยการศึกษาให้เข้าใจในสภาพธรรมที่เป็นปรมัตถธรรมโดยประเภทต่างๆ ว่าเป็นธรรมแต่ละอย่างๆ ที่ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เมื่อมีความเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ก็ย่อมเป็นเหตุปัจจัยให้สติและปัญญา เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่สติและปัญญาเกิดขึ้นระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ เป็นการถึงเฉพาะลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริง ตามความเป็นจริง โดยที่ไม่เลือกสถานที่ กาลเวลา และไม่มีการเจาะจงที่จะรู้สภาพธรรมหนึ่งสภาพธรรมใด ทั้งหมดล้วนเป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น

สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ การฟังพระธรรม กาลสมัยนี้ ยังเป็นยุคที่พระธรรมยังดำรงอยู่ บุคคลผู้ที่เป็นกัลยาณมิตร เผยแพร่พระธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ก็ยังมีอยู่ จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่สะสมบุญมาแต่ปางก่อน เห็นประโยชน์ของการได้เข้าใจความจริง จะได้สะสมปัญญาจากการได้ฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมในแต่ละครั้ง สะสมเป็นอุปนิสัยที่ดีต่อไป จนกว่าจะถึงความสมบูรณ์พร้อมของปัญญาได้ในที่สุด เพราะการที่ปัญญาจะมีมากได้ จะเป็นเหตุให้สติเกิดขึ้นระลึกรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงได้นั้น ก็จะต้องเริ่มจากการฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก ไปทีละเล็กทีละน้อย ครับ.

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 26 เม.ย. 2557

ฟังธรรม อบรมเจริญสติปัฏฐาน เจริญกุศลทุกอย่าง คือ การปฏิบัติธรรม ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
nopwong
วันที่ 27 เม.ย. 2557

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ดวงทิพย์
วันที่ 29 เม.ย. 2557

Sadhu^^

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
jran
วันที่ 30 เม.ย. 2557

การเจริญกุศลทุกอย่างในชีวิตประจำวันก็เป็นการปฏิบัติธรรมครับ

ขอขอบคุณและอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Krisd
วันที่ 30 เม.ย. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
orawan.c
วันที่ 1 พ.ค. 2557

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
tanrat
วันที่ 1 พ.ค. 2557

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
tanrat
วันที่ 17 ก.ค. 2557

พระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแก่สาวก เป็นเรื่องของการละความติดข้องต้องการ จนสามารถดับกิเลสเป็นสมุทเฉท ผู้ที่เรียกตนว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรม มีมรรคผลเป็นที่ต้องการ หรืออยากได้ นั่นผิดจากพระธรรมที่ผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง พระธรรมยาก และลึกซึ้ง ต้องฟังด้วยจิตที่เคารพในพระผู้มีพระภาคเจ้า พิจารณาไตร่ตรอง ขั้นการฟังยังยาก แล้วจะไปปฏิบัติยิ่งยากมาก กราบอนุโมทนาสาธุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
Suth.
วันที่ 17 ก.ค. 2557

ขออนุโมทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ