มีตนส่งไปแล้ว และ สภาพรู้กำลังปรากฏ แม้ศึกษาก็เพียงรู้แต่ชื่อ

 
ใหญ่ราชบุรี
วันที่  15 ม.ค. 2557
หมายเลข  24329
อ่าน  1,089

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธธัสสะ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง

ขอเรียนถามค่ะ

๑.“มีตนส่งไปแล้ว” หมายความว่าอย่างไรคะ ยกตัวอย่างให้ด้วยค่ะ

๒. “สภาพรู้กำลังปรากฏ แม้ศึกษา ก็เพียงรู้แต่ชื่อ” หมายความว่าอย่างไรคะ ยกตัวอย่างให้ด้วยค่ะ

ขอขอบพระคุณและขออนุโมทนาสำหรับคำอธิบาย และกุศลทุกประการของทุกๆ ท่านค่ะ ด้วยความเคารพ จาก ธิดารัตน์ เดื่อมขันมณี (ใหญ่ราชบุรี)


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 15 ม.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

๑.“มีตนส่งไปแล้ว” หมายความว่าอย่างไรคะ ยกตัวอย่างให้ด้วยค่ะ

มีตนส่งไปแล้ว มุ่งหมายถึง ความเพียร ที่ผู้ที่มีความเข้าใจธรรม อบรมปัญญามามากแล้ว เจริญวิปัสสนา มีความเพียร และ มีตนส่งไปแล้ว คือ อัตภาพ ที่เป็นจิต เจตสิก คือ สติและปัญญาที่เกิดขึ้น ส่งไปแล้ว คือ เกิดขึ้นแล้ว โดยไม่เยื่อใยในชีวิต เพราะมีปัญญาที่มั่นคงที่จะเจริญอบรมปัญญาต่อไป จนบรรลุธรรม ครับ

[เล่มที่ 68] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย ปฏิสัมภิทามรรค เล่ม ๗ ภาค ๑ - หน้าที่ 118

ชื่อว่า ปหิตัตตะ มีตนส่งไปแล้ว เพราะอรรถวิเคราะห์ว่า อัตภาพอันตั้งไว้แน่วแน่ส่งไปปล่อยไป โดยไม่คำนึงถึงร่างกายและชีวิตด้วยธรรมนั้นดังนี้.


และคำว่า มีตนส่งไปแล้ว ยังมีความละเอียดลึกซึ้งอีกนัยหนึ่ง ที่เป็นการเจริญสติปัฏฐาน ซึ่งขอยกข้อความในพระไตรปิฎกที่ว่า

บทว่า ปหิตฺตโต คือ มีตนส่งไปแล้วสู่อารมณ์ที่กำลังปรากฏในขณะนี้

- แสดงถึง มี ตน คือ สติและปัญญา ที่รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ว่าเป็นแต่เพียงธรรมไม่ใช่เรา ที่เป็นอารมณ์ที่กำลังปรากฏ ในขณะนั้นที่รู้อารมณ์ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ ที่กำลังปรากฏ ด้วยปัญญา ขณะนั้นเรียกว่า ปหิตตโต มีตนส่งไปแล้ว ที่ไม่มีตัวตนที่จะส่งไป แต่ปัญญาและสติเกิดรู้ความจริงในขณะใด ขณะนั้น ชื่อว่า มีตนส่งไปแล้ว ครับ


๒. “สภาพรู้กำลังปรากฏ แม้ศึกษา ก็เพียงรู้แต่ชื่อ”

สภาพรู้กำลังปรากฏ แม้ศึกษา ก็เพียงรู้แต่ชื่อ หมายถึง ปัญญาที่เพิ่งเริ่มจากการฟังในเรื่องของสภาพธรรม ย่อมเป็นเพียงการรู้ชื่อ เรื่องราว แต่ยังไม่ได้รู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ดังนั้น ข้อความนี้จึงเป็นการแสดง ปัญญาขั้นศึกษา ที่เป็นขั้นการฟัง ว่ารู้เพียงชื่อ แต่ไม่ได้รู้ตัวสภาพธรรม แต่ขอให้เข้าใจว่า อาศัยปัญญาขั้นฟัง ขั้นศึกษาชื่อเรื่องราวในสภาพธรรม จนมั่นคง และ ยาวนาน ย่อมถึงการรู้ตัวจริงของสภาพธรรมได้ ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 15 ม.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ทรงเป็นผู้ทรงบอกทางแก่สัตว์โลกว่า ทางที่ถูก ที่เป็นไปเพื่อการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม ถึงความเป็นผู้บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลส ก็คือ การอบรมเจริญปัญญา อบรมเจริญมรรคมีองค์ ๘ มีสัมมาทิฏฐิ เป็นต้น ซึ่งเป็นทางเดียวเท่านั้นจริงๆ ที่จะเป็นไปเพื่อการดับทุกข์หมดจดจากกิเลสได้ในที่สุด ถ้าไม่มีการอุบัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ไม่มีการทรงแสดงพระธรรมให้สัตว์โลกได้เข้าใจพระธรรมตามความเป็นจริง แต่เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้นในโลก (ซึ่งเป็นการอุบัติขึ้นเพื่อเกื้อกูลแก่สัตว์โลกอย่างแท้จริง)

ทรงแสดงพระธรรมเพื่อให้สัตว์โลกผู้ที่ได้สะสมเหตุที่ดี สะสมศรัทธาสะสมปัญญามาแล้วในอดีต ได้ฟังได้ศึกษา เพื่อเข้าใจความจริงอย่างที่พระองค์ทรงเข้าใจ จึงมีผู้ที่ได้รับประโยชน์จากพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงมากมายนับไม่ถ้วน เป็นพระอริยบุคคลขั้นต่างๆ สูงสุดถึงความเป็นพระอรหันต์ ส่วนผู้ที่ไม่ได้บรรลุธรรมในชาตินั้น ก็สะสมปัญญาเป็นที่พึ่งต่อไปในภายหน้า แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการได้อบรมเจริญปัญญา อย่างแท้จริง ปัญญาที่เจริญขึ้น จากการค่อยๆ สะสมไปตามลำดับด้วยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ย่อมนำไปสู่การพ้นจากทุกข์ในสังสารวัฏฏ์ได้ในที่สุด เพราะจิตที่อบรมดีแล้วด้วยปัญญา ในที่สุดแล้วก็จะไม่ถูกกิเลสย่ำยีอีกต่อไปเนื่องจากว่า กิเลสใดที่สามารถดับได้แล้ว กิเลสนั้นๆ ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก ไม่สามารถที่จะมาทำร้ายย่ำยีเสียดแทงจิตใจได้อีกเลย

จากข้อความที่ว่า มีตนส่งไปแล้ว แสดงให้เห็นถึง ความเป็นผู้มีความตั้งใจจริง มีความบากบั่นอย่างมั่นคงด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง ที่จะอบรมเจริญปัญญาขัดเกลากิเลส จนกว่าจะถึงความดับหมดสิ้นไปในที่สุด

สภาพธรรมเป็นสิ่งมีจริงในขณะนี้ ต้องฟังเรื่องของสภาพธรรมให้เข้าใจเพราะเรื่องที่ฟังที่ศึกษานั้น ก็เพื่อเข้าถึงตัวจริงของสภาพธรรมตามความเป็นจริง เพราะถ้าไม่ฟังเรื่องของสภาพธรรมให้เข้าใจแล้ว ความเข้าใจในขั้นที่เป็นการรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรมก็มีไม่ได้ เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าจะรู้ตัวจริงสภาพธรรมไม่ได้ เพราะตามความเป็นจริงแล้วรู้ได้แต่ต้องเริ่มต้นที่การฟังพระธรรมให้เข้าใจจริงๆ ครับ

..ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 15 ม.ค. 2557

ขั้นการฟัง ยังไม่รู้ตัวธรรม ต้องเป็นขั้นปัญญา คือ ความเข้าใจ จึงจะรู้ตัวจริงของสภาพธรรม ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 16 ม.ค. 2557

ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 29 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ