รูปเป็นอนันตรปัจจัยกับรูปหรือไม่

 
papon
วันที่  24 ต.ค. 2556
หมายเลข  23905
อ่าน  761

เรียนอาจารย์ทั้งสองท่าน

รูปเป็นอนันตรปัจจัยกับรูปหรือไม่ ขอความอนุเคราะห์ด้วยครับ ขออนุโมทนาครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 25 ต.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ธรรม หมายถึง สิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริงนี้ ก็มีจริงในชีวิตประจำวัน ซึ่งเกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัยแล้วก็ดับไป ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน

อนันตรปัจจัย คือสภาพธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกที่เกิดขึ้นและดับไป เมื่อดับไปจึงเป็นปัจจัยให้จิต เจตสิกดวงต่อไปเกิดขึ้นโดยไม่มีระหว่างขั้นเลย เพราะฉะนั้น จิตเจตสิกที่ดับไปจึงเป็นอนันตรปัจจัยให้จิต เจตสิกดวงต่อไปเกิดขึ้นทันที อนันตรปัจจัย (ความเป็นปัจจัย โดยไม่มีระหว่างคั่น ไม่มีธรรมอย่างอื่นคั่น) และสมนันตรปัจจัย (ความเป็นปัจจัย โดยไม่มีระหว่างคั่นด้วยดี หรือ ที่เข้าใจกัน คือ ความเป็นปัจจัยโดยเป็นลำดับด้วยดี) นั้น ทั้งสองปัจจัยนี้ หมายถึงเฉพาะนามธรรม คือ จิต และ เจตสิกที่เกิดร่วมด้วย เท่านั้น รูปไม่เป็นอนันตรปัจจัย

เมื่อจิต (และเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย) เกิดขึ้นแล้วดับไป เป็นปัจจัยให้จิต (และเจตสิกที่เกิดร่วมด้วย) ขณะต่อไปเกิดขึ้น โดยไม่มีระหว่างคั่น ซึ่งเมื่อไม่มีระหว่างคั่นแล้ว ยังจะต้องเป็นลำดับด้วยดี ด้วย จะสับลำดับกันไม่ได้ เพราะตามความเป็นจริงของจิตแล้วจะต้องเกิดขึ้นเป็นไปตามลำดับ จิตที่เกิดขึ้นแล้วดับไป เป็นปัจจัยโดยอนันตรปัจจัยและ สมนันตรปัจจัย ให้จิตขณะต่อไปเกิดขึ้น ซึ่งจิตขณะต่อไปทีเกิดขึ้น (รวมทั้งเจตสิก) นั้น ก็เป็นผลของอนันตรปัจจัยและสมนันตรปัจจัย นั่นเอง ครับ

จึงกล่าวสรุปได้ว่า จิต เจตสิกเท่านั้นที่เป็นอนัตรปัจจัย รูปไม่เป็นอนันตรปัจจัย เพราะเหตุว่า รูปแต่ละรูป ก็มีสมุฏฐานให้เกิด รูปของตน เช่น เกิดจากกรรม จิต อุตุ อาหาร เป็นต้น ไม่ได้เกิดจาก การเกิดแล้วดับไปของรูปอีกรูปหนึ่ง ที่จะเป็นดั่งอนันตรปัจจัย ครับ แต่รูป เป็นปัจจัยของกันและกัน โดยปัจจัยอื่นได้ มี สหชาตปัจจัยเป็นต้น ครับ โดยการเกิดพร้อมกัน ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 25 ต.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความเป็นจริงของสภาพธรรมเป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้สภาพธรรมทุกอย่างตามความเป็นจริง แล้วทรงแสดงให้สัตว์โลกได้รู้ตาม การที่จะเข้าใจถูกเห็นถูก ตรงตามพระธรรมคำสอนตรงตามความเป็นจริงของธรรม ก็ต้อง ฟังต้องศึกษาพระธรรม ค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย เพราะถ้ากล่าวถึง อนันตรปัจจัยแล้ว มุ่งหมายถึงเฉพาะสภาพธรรมที่เป็นนามธรรม คือจิตและเจตสิกเท่านั้น จิตขณะหนึ่งเกิดขึ้นแล้วดับไป เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อทันที โดยไม่มีระหว่างคั่น คือ หมายถึงว่า ไม่มีจิตอื่นเกิดขึ้นคั่นเลย ต้องเป็นจิตขณะต่อไปที่เป็นลำดับด้วยดีเท่านั้นที่จะเกิดสืบต่อ เช่น จิตเห็นเกิดแล้วดับไป เป็นปัจจัยให้จิตขณะต่อไปเกิดสืบต่อทันที่ คือ เป็นปัจจัยให้สัมปฏิจฉันนจิตเกิดสืบต่อ ด้วยอนันตรปัจจัย โดยไม่มีจิตอื่นคั่นเลย นี้คือความเป็นจริงของสภาพธรรมที่เป็นจิตและเจตสิก

ส่วนรูปไม่ได้เป็นอนันตรปัจจัยเลย เพราะรูปเกิดจากสมุฏฐานของตนๆ แล้วก็ดับไป เช่น รูปที่เกิดจากกรรม ก็เกิดจากกรรมเป็นสมุฏฐาน เมื่อรูปกลุ่มนี้ดับไปแล้วไม่เป็นปัจจัยให้รูปอื่นเกิด เพราะฉะนั้นการดับไปของรูป ก่อน ไม่ได้เป็นอนันตรปัจจัยให้รูปต่อไปเกิดเลย เพราะรูปแต่ละรูป ย่อมเกิดจากสมุฏฐานของตนๆ ครับ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 25 ต.ค. 2556

อนันตรปัจจัย คือ จิตดวงหนึ่งดับไป เป็นปัจจัยให้จิตดวงใหม่เกิดขึ้น

ไม่มีระหว่างคั่น ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
j.jim
วันที่ 25 ต.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
orawan.c
วันที่ 27 ต.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ