รู้ทั่ว คืออย่างไร

 
khundong
วันที่  29 ก.ย. 2556
หมายเลข  23720
อ่าน  951

ขอสอบถามว่า รู้ทั่วอย่างน้อยต้องรู้อะไรบ้างครับ

บางครั้งได้พูดสนทนากับเพื่อนๆ หรือบุคคลต่างๆ ส่วนใหญ่จะว่าศึกษาอะไรมาก มายขนาดนั้นมันลึกซึ้งละเอียดเกินไป ไม่สามารถเข้าใจได้ เขาอยู่ดีมีความสุขอยู่ แล้วไม่ทุกข์ไม่เดือดร้อนอะไร มีครอบครัวที่ดี มีทรัพย์สมบัติ มีบริวาร และเขาก็ได้ ช่วยเหลือบุคคลต่างๆ เป็นปรกติ แต่ไม่ได้ศึกษาธรรม ยิ่งสมัยนี้มีข่าวรายวันพระทำ ผิดวินัยอีก

จากการศึกษาและฟังท่าน อ.สุจินต์ บ่อยๆ เนืองๆ ต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 15 ปีโดยเข้าใจขึ้นทีละเล็กละน้อยจึงเข้าใจได้ว่าการกระทำ กาย วาจา ใจ ของคน ส่วนใหญ่เกิดจากการคิดเอาเองทั้งสิ้นขาดซึ่งเหตุและผล จึงไม่สามารถเข้าใจ ปรมัตถ์เพราะบัญญัติปิดบังจนหมดสิ้น ท่านอ.สุจินต์ท่านแสดงให้เราได้ยินบ่อยๆ ว่า ให้เป็นความเข้าใจของตนเองให้ได้ ซึ่งความเข้าใจนั้นไม่สามารถเข้าใจได้ในขั้นฟัง ขั้นอ่าน เมื่อเริ่มเข้าใจก็จะไถ่ถอนความมีตัวเรา สัตว์ บุคคล ซึ่งยากแสนยากละเอียด ลึกซึ้ง และจำเป็นต้องท่องจำหรือรู้ธรรมทุกๆ ข้อถึงจะเห็นแจ้งหรือเปล่าครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 29 ก.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

การจะตรัสรู้ธรรม รู้ความจริง ก็ด้วยปัญญาที่เกิดความจริงรู้สภาพธรรมที่มีในขณะนี้ โดยเริ่มจากากรฟัง การศึกษาพระธรรม ในส่วนต่างๆ และ ในเรือ่งของสภาพธรรม แต่ไมไ่ด้หมายความว่าจ ะต้องรู้พระธรรม ทุกบท ทุกข้อ เพราะนั่นไม่ใช่ฐานะ แต่ เป็นฐานะของพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น สาวก ก็ศึกษาตามกำลังของปัญญา ค่อยๆ อบรมปัญญาขั้นการฟัง โดยเฉพาะในเรื่องสภาพธรรม ย่อมเป็นปัจจัยให้เกิด สติ และปัญญารู้ความจริง ที่เป็นสติปัฏฐาน แต่ ที่สำคัญ ก็ต้องอบรมปัญญาที่รู้ทั่ว ในสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ รู้ทั่ว ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ จึงจะสามารถ ดับกิเลส ถึงการบรรลุธรรมได้ ครับ ดังนั้น การรู้ทั่ว ไม่ใช่หมายถึง รู้ทั่วในบทธรรม ทุกข้อ แต่ หมายถึง รู้ทั่ว ในสภาพธรรมที่กำลังปรากกฎทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ ทั้ง 6 ทวาร ครับ

เชิญอ่านคำบรรยายท่านอาจารย์สุจินต์ได้ที่นี่ ครับ

ข้อความบางตอนจาการสนทนาธรรมโดยท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์..

....เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นชีวิตประจำวัน ของยุคไหน สมัยไหนๆ คือในสมัยที่พระผู้มี พระภาคเจ้ายังไม่ปรินิพพาน หรือว่าปรินิพพานไปแล้ว 2500 กว่าปี หรือว่าจะ ถึง3000ปี ในอนาคตถึง 4000ปี 50000ปี ก็ตาม สติของผู้อบรมเจริญปัญญาที่จะดับกิเลส ต้องระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่ปรากฏตามปกติทั่วทั้ง 6 ทวาร แล้วก็พิจารณา สังเกตุ ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม คลายความไม่รู้ ละคลายความยึดถือสภาพธรรมว่า เป็นตัวตน ซึ่งเหตุผลทั้งหมดจะสอดคล้องกันขณะที่สติปัฏฐานเกิด ระลึกศึกษาจึงรู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่มีเหตุปัจจัยเกิดขึ้น ปรากฏ ตามความเป็นจริงว่า บังคับบัญชาไม่ได้ ถ้ารู้อย่างนี้ จะคลายการยึดถือ สภาพธรรมว่าเป็นตัวตน โดยไม่เลือกรู้บางนามบางรูป นี่เป็นความรู้ เมื่อรู้ก็ไม่เลือก เพราะว่า ไม่ว่าสภาพธรรมอย่างใดที่ปรากฏ สภาพธรรมนั้นก็เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยทั้งสี้น แต่ถ้าไม่รู้อย่างนี้ ก้จะมีการเจาะจง เลือกด้วยความไม่รู้ หรือว่าพยายาม หาทางหนึ่งทางใด ที่จะรู้นามหนึ่งนามใด โดยที่ว่าไม่รู้ตามความเป็นจริงว่าเป็น สภาพธรรมที่ปัญญาจะต้องรู้ทั่ว จึงจะละคลายได้


เชิญคลิกอ่านที่นี่ ครับ

ความจริงแห่งชีวิตอนที่ ๑๒๓ จิตตสังเขป (อย่างไร คือ ความรู้ทั่ว)

ปัญญา ด้วยอรรถว่า ย่อมรู้ทั่ว

รู้ทั่ว...ปกติ...เดี๋ยวนี้ !

กว่าจะรู้ชัด...ต้องรู้ทั่ว

รู้รอบ...รู้ทั่ว...รู้ทุกอย่าง !

รู้ทั่วคืออย่างไร

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 29 ก.ย. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ละเอียด ลึกซึ้งอย่างยิ่ง จะต้องมี ความเพียร มีความอดทนที่จะศึกษา ไม่ขาดการฟังพระธรรมเป็นปกติในชีวิต ประจำวัน เมื่อฟังบ่อยๆ พิจารณาไตร่ตรองในสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง ความเ้ข้าใจก็ จะค่อยๆ เจริญขึ้น เป็นการสะสมความเข้าใจไปทีละเล็กทีละน้อย ชีวิตที่ดำเนินไปในแต่ละวัน ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริง ตั้งแต่เกิดจน กระทั่งถึงจิตขณะสุดท้ายของภพนี้ชาตินี้ เป็นสภาพธรรมแต่ละอย่างๆ ไม่มีการ เปลี่ยนแปลงไม่ว่าจะเป็นในยุคใดสมัยใดก็ตาม สภาพธรรมที่มีจริงนั้น ไม่พ้นไปากทางตา ทางหูทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย และทางใจ ไม้พ้น ๖ ทางนี้เลย

การที่จะเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเหตุว่าธรรม เป็นเรื่องที่ละเอียด ลึกซึ้ง ยาก กว่าที่จะค่อยๆ เข้าใจขึ้นได้นั้นต้องอาศัยการฟัง การศึกษา มีความอดทนทีจะฟัง ที่จะศึกษา บ่อยๆ เนืองๆ เมื่อมีความรู้ความเข้าใจ เพิ่มขึ้นๆ ย่อมมีเหตุปัจจัยให้สติปัญญาเกิดขึ้นระลึกรู้ตรงลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง โดยที่ไม่มีตัวตนที่จะไปบังคับบัญชา เพราะการรู้สภาพธรรมตามความเป็นจริงนั้น ต้องเป็นปัญญาที่เกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ ไม่มีใครไปทำรู้ให้เกิดขึ้นได้ แต่สามารถอบรมเจริญขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน และการรู้นั้น ไม่ได้จำกัดที่จะรู้เฉพาะทางใดทางหนึ่ง หรือ รูปใดนามใด โดยเฉพาะ แต่ต้องทั่ว ทั้ง ๖ ทาง และประการที่สำคัญ จะรู้ทั่วยังไม่ได้ ถ้าหากว่ายังไม่มีความรู้ความเข้าใจในขั้นของการฟังเรื่องของสภาพธรรม ดังนั้น จึงขาดการฟังพระธรรมไม่ได้เลย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
wannee.s
วันที่ 29 ก.ย. 2556

ถ้าเข้าใจธรรมะจริง และ เหตุพร้อม แม้บทเดียวก็สามารถบรรลุธรรมได้ เช่น พาหิยะ ได้ฟังธรรมสั้นๆ จากพระพุทธเจ้าก็เป็นพระอรหันต์ แต่สมัยนี้คนมีปัญญาน้อย ก็ต้องฟังมาก พิจารณามาก ศึกษามากตลอดชีวิต ทุกภพทุกชาติ จนกว่าบรรลุ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
papon
วันที่ 29 ก.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
j.jim
วันที่ 30 ก.ย. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
khundong
วันที่ 30 ก.ย. 2556

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Sea
วันที่ 11 ธ.ค. 2564

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
chatchai.k
วันที่ 11 ธ.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ