พ่อแม่รังแกฉัน

 
lovedhamma
วันที่  3 ส.ค. 2556
หมายเลข  23289
อ่าน  1,495

จริงอยู่นะครับว่า ถ้าลูกคนไหนทำร้ายพ่อ แม่ หรืออะไรที่ไม่ดีกับพ่อ แม่ แน่นอนว่า

บาปมาก แต่ในทางกลับกัน ถ้าผู้ที่เป็นพ่อ แม่ ทำร้ายลูกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นทางกาย

วาจา หรือใจ ลูก ก็ล้วนแล้วแต่เป็นบาปเช่นกันใช่มั้ยครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 3 ส.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สภาพธรรมที่เป็นอภิธรรม เป็นสัจจะ ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะไม่ว่าจะเกิดกับใคร

เกิดเมื่อไหร่ ขณะไหนก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นความจริง และ ไม่เปลี่ยนแปลงเลย

เพราะ ไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจาก ลักษณะของสภาพธรรมที่ไมเปลี่ยนแปลง จึง

เป็นปรมัตถธรรม แม้ สภาพธรรมที่เป็นอกุศลธรรม ที่เป็นสภาพธรรมที่ไม่ดี ก็เป็น

สภาพธรรมที่มีจริง ที่ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ ไม่ว่าเกิดกับใคร ก็ชื่อว่าไม่ดีเช่นกัน

ขณะที่เกิดจิตไม่ดีขณะนั้น ไม่มีสัตว์ บุคคล ที่สมมติว่าเป็น บิดา มารดา เป็นบุตร

แต่ จิตที่ไม่ดีเกิดขึ้นแล้ว ไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะ ชื่อว่าเป็นบาปในขณะนั้น

ขณะที่ กาย วาจาที่ไม่ดี ก็เพราะอาศัย จิตที่ไม่ดีที่เป็นอกุศลธรรมเกิดขึ้น เมื่อ

สมมติบัญญัติขึ้นมา ก็สมมติว่า กาย วาจาที่ไม่ดี จากบิดา มารดา กาย วาจาที่ไม่ดี

จาก บุตร แท้ที่จริง ก็มาจากจิตที่ไม่ดี จิตที่เป็นอกุศล จิตที่เป็นบาป ครับ

เพราะฉะนั้น จึงกล่าวสรุปได้ว่า ไม่ว่าจะอกุศลที่เป็น บาปทางกาย วาจาและใจ ไม่

ว่าเกิดขึ้นกับใคร ก็ชื่อว่าไม่ดี เป็นบาปทั้งนั้น หากแต่ว่า จะบาปมาก หรือ บาปน้อย

ก็พิจารณา อีกหลายประเด็น คือ สภาพธรรมที่เป็นจิตที่เป็นอกุศล มีกำลังมาก หรือ

มีกำลังน้อย ถ้าจิตที่เป็นอกุศลมีกำลังมาก ก็บาปมาก และอีกประการหนึ่ง วัตถุที่

ทำบาป เช่น บุตรที่ทำบาปกับบิดา มารดา ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณมาก ย่อมเป็นบาปมาก

เพราะมีพระคุณมาก แต่บิดา มารดาที่ทำบาป กาย วาจาไม่ดีกับบุตร ก็เป็นบาป

เช่นกัน แต่ ก็เป็นบาปน้อยกว่า เพราะมีพระคุณน้อยกว่า เป็นต้นก็ได้ ครับ

นี่คือความละเอียดของพระธรรม ที่ละเอียดตาม สภาพธรรมที่ไม่เปลี่ยนแปลง

ลักษณะ กุศล ก็เป็นกุศล อกุศลก็เป็นอกุศล ครับ หากแต่ว่า การเข้าใจความจริง

ของสภาพธรรมที่เป็นอกุศลที่ไม่ดี ไม่ว่าเกิดขึ้นกับใคร จึงเป็นเครื่องเตือนที่จะทำให้

เห็นโทษของอกุศลตามความเป็นจริง และ ควรที่จะประพฤติดีงาม ทางกาย วาจา

และใจ ไม่ว่าตนอยู่ในฐานะใด ก็ประพฤติดีได้ทั้ง กับ บิดา มารดา ทั้งบุตร เพื่อนมิตร

สหาย ญาติมิตร รวมทั้งพระภิกษุสงฆ์ อันเป็นสิ่งที่สมควร เพราะว่า

กุศลธรรมย่อมสมควรกับทั้งตนเอง และ ผู้อื่น ส่วนอกุศลธรรมย่อมไม่ควรกับทั้ง

ตนเอง และ ผู้อื่น ครับ ซึ่งจะพิจารณาถูกต้องได้เช่นนี้ ก็ด้วยการฟังพระธรรมที่

พระพุทธเจ้าทรงแสดง อันจะเป็นเหตุให้เกิดปัญญา ปัญญาย่อมจะทำหน้าที่ปรุงแต่ง

ให้คิดถูกต้องตามความเป็นจริง และ เกิด กุศลธรรมประการต่างๆ ทางกาย วาจาและ

ใจ และ ละเว้นอกุศลธรรม ตามสมควรกับกำลังปัญญาที่มีทางกาย วาจาและใจ ครับ

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
khampan.a
วันที่ 3 ส.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น อกุศลธรรม เป็นสภาพธรรมที่ไม่ดี เป็นธรรมฝ่ายดำ ไม่นำประโยชน์อะไรมาให้เลย

ให้ผลเป็นทุกข์เท่านั้น แต่เนื่องจากเราได้สะสมอกุศลมาอย่างยาวนานในสังสารวัฏฏ์

นับชาติไม่ถ้วน เมื่อได้เหตุได้ปัจจัย อกุศลธรรมก็เกิดขึ้นเป็นไปในชีวิตประจำวัน ยก

ตัวอย่างเช่น เวลาโกรธ ไม่สบายใจ ไม่พอใจ ถ้าโกรธมาก ก็อาจจะไปทำร้าย

เบียดเบียนคนอื่นได้ ทั้งนี้เพราะเคยสะสมโทสะมาแล้ว เป็นต้น อกุศลเกิด ย่อมไม่ดี

อกุศล ทั้งหลาย ไม่ใช่สภาพธรรมที่ดีงามเลย ถ้าเข้าใจว่า อกุศล ดี นั่นผิดแล้ว

คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงอย่างยิ่ง

พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงตลอด ๔๕ พรรษา นั้น เป็นไปเพื่อ

อุปการะเกื้อกูลแก่ผู้ที่ได้ฟัง ได้ศึกษา และมีความเข้าใจไปตามลำดับอย่างแท้จริง แม้

แต่ในเรื่องของกิเลส ซึ่งเป็นอกุศลธรรม นั้น พระองค์ก็ทรงแสดงไว้เป็นอันมากทีเดียว

เพื่อให้พุทธบริษัทได้เห็นโทษเห็นภัยของกิเลส ถ้าไม่ทรงแสดงไว้ ก็ไม่สามารถที่จะ

ระลึกถึงกิเลสของตนเองเพื่อการขัดเกลาได้เลย ถึงแม้ว่าพระองค์จะทรงแสดงไว้

อย่างนี้หรือมากยิ่งกว่านี้ แต่ผู้ที่มีกิเลสก็ไม่สามารถที่จะดับหรือละกิเลสนั้นได้ ถ้าปัญญา

ไม่เจริญขึ้นจนสามารถที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง แล้วดับกิเลสได้

เป็นขั้นๆ ตามลำดับ

เนื่องจากว่ากิเลส เป็นสภาพธรรมที่ทำให้ประพฤติในสิ่งที่ไม่สมควรต่างๆ มากมาย

ซึ่งผู้ที่มีความประพฤติที่ไม่สมควรต่างๆ นั้น ก็เพราะว่า ไม่ได้คล้อยตามพระพุทธพจน์

ไม่ได้น้อมประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เพราะเมื่อว่าโดย

สภาพธรรมแล้ว คน สัตว์ ไม่มี เพราะมีแต่ธรรมเท่านั้น แต่ถ้าเป็นผู้ได้ฟังพระธรรม

ศึกษาพระธรรม อบรมเจริญปัญญา สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปตามลำดับ ความ

ประพฤติในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ก็จะค่อยๆ เจริญขึ้นตามระดับขั้นของปัญญา ความเข้าใจ

ธรรม นำไปสู่ความดีทั้งปวงอย่างแท้จริง ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
papon
วันที่ 3 ส.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 3 ส.ค. 2556

อกุศลไม่ดี ไม่ว่าเกิดกับใคร แม้เกิดกับบิดา มารดา ก็เป็นบาป ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
JANYAPINPARD
วันที่ 6 ส.ค. 2556

ลูกทำร้ายพ่อแม่..กับ พ่อแม่ทำร้ายลูก..เป็นบาป..ต่างกันตรงระดับของบาป..เช่นลูกฆ่าพ่อแม่เป็นอนันตริยกรรม..อนนฺตร (ไม่มีระหว่าง) + อิย ปัจจัย + กมฺม (การ

กระทำ) การกระทำที่ให้ผลในภพไม่มีระหว่าง หมายถึง ครุกรรมในฝ่ายอกุศล

ซึ่งจะให้ผลเป็นชนกกรรม นำปฏิสนธิในอบายภูมิ หลังจากสิ้นชีวิตจากชาตินี้แล้วแน่

นอน ไม่ว่าจะเจริญกุศลที่มีอานิสงส์มากอย่างไร ก็ไม่สามารถลบล้างการให้ผลของ

อนันตริยกรรมได้

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
orawan.c
วันที่ 14 ส.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Parinya
วันที่ 17 ส.ค. 2556

ขออนุญาตคุณวันชัย๒๕๐๔. ผมขอนำคำสนทนาธรรม. วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า "ถ้าจะคิดถึงวันแม่ วันนั้น แม่เจ็บมาก กว่าที่เราจะมีชีวิตได้

แล้วสามารถ ทนความเจ็บปวดนั้น แล้วก็แม้แต่ "น้ำนมหยดแรก" ก็ตาม ที่การมีชีวิต

ต่อไป มาจากใคร? เพราะฉะนั้นก็จะเห็นได้ว่า คุณความดี ก็เป็นความดี แต่ถ้าพ่อแม่ไม่ดี

ความตรง ก็คือว่า ความดีส่วนหนึ่ง คือ การที่เป็นพ่อ เป็นแม่ ความไม่ดี เป็นของแต่ละ

บุคคล ใครจะเปลี่ยนแปลงบุคคลนั้น ให้เป็นอย่างอื่นไม่ได้ แต่เราจะระลึกถึง ความดี ที่คน

อื่น ทำให้ต่อเรา เราก็ รู้คุณ คือ ความดี ที่เขาได้กระทำ การตอบแทนคุณ โดยประพฤติชั่ว

ไม่ใช่การตอบแทนคุณ ต้องเข้าใจให้ถูกต้องด้วย ความดี คือ คุณ จะตอบแทนคุณ ก็คือ

ทำความดีตอบ ไม่ใช่ทำความชั่วตอบ เพราะฉะนั้น จริงๆ แล้ว อย่างที่เราบอกว่า รู้คุณ

แล้วก็ทำคุณ รู้คุณ ก็คือ รู้ความดี ถ้าเราเข้าใจผิดว่าไม่ดี ไม่ตรงใช่ใหม? มีใครบ้าง? ที่

รู้จักคุณความดีแล้วไม่ทำความดี ไม่เห็นว่าความดีมีคุณ ไม่เห็นว่าความดีมีประโยชน์

จึงกระทำความชั่ว แต่ถ้าเป็นผู้ที่รู้คุณจริงๆ ว่า คุณ คือ ความดี นำสิ่งที่ดีมาให้ ไม่สามารถ

ที่จะไปเปลี่ยนความดี ให้เป็นความชั่วได้ ถ้ารู้จริงๆ ตอบแทนคุณ คือ ทำความดี แต่ถ้า

ทำความชั่ว ไท่ใช่ตอบแทนคุณ"

ขอกราบแทบเท้า ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และ ท่านอาจารย์ วิทยากรทุกท่าน

คำสอนของท่านอาจารย์ มีความลึกซึ้งมาก ถึงแม้แม่ท่านมิได้อยู่ที่นี่แล้ว ผมก็ยังระลึกถึง

พระคุณท่านตลอดเวลา ตั้งแต่ผมจำความได้ ผมเห็นความอดทนของท่าน ที่มีต่อลูก

ที่ไม่ค่อยสนใจในการเรียนเช่นผม

ท่านต้องเลี้ยงลูกถึง 9 คน คุณพ่อก็เป็นพ่อที่มุ่งหางานทำเพื่อมาเลี้ยงครอบครัว ทุกคน

ได้เรียนCatholic แถวๆ บ้านญวน สามเสน ทุกคนก็จบการศึกษา ส่วนผมเองกว่าจะเรียนจบ

แม่ก็ต้องเหนื่อยมากๆ

ท่านไม่เคยบ่นถึง ความยากลำบาก หรือความท้อใจที่มีลูกไม่สนใจการเรียนเช่นผม ท่าน

ได้อบรมสั่งสอนด้วยเมตตาที่ท่านมีต่อลูกทุกคนตลอดเวลา. ในที่สุด ผมก็คิดสงสารแม่

ที่ท่านต้องมาเป็นห่วงผม ผมเริ่มทำงานแล้วก็มีครอบครัว แต่ก็ยังไม่ได้เป็นหัวหน้า

ครอบครัวที่ดีนัก แค่ปานกลาง

อยู่มาวันหนึ่ง เมื่อ40ปีก่อน ผมกำลังจมน้ำที่หาดพัทยา มองไปที่ฝั่งไม่เห็นเรือ ไม่เห็นใคร

เลย ผมระลึกถึงแม่ของผม เหมือนปาฏิหาริย์ มีคนขับเรือเร็วดึงผมขึ้นจากน้ำ ผมรอดตาย

ได้ ผมกลับมาบ้าน ผมเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็ยิ้มๆ แล้วท่านก็พูดว่า ทำอะไรก็ควรคิด ถ้า

ว่ายน้ำไม่เป็น แล้วจะไปเล่นเรือคนเดียวได้อย่างไร? จากนั้นไม่นานผมก็ไปศึกษา และ

ทำงานอยู่ต่างประเทศ ผมคิดถึงท่านมาก คิดถึงพระคุณของท่านตลอดเวลา จากนักเรียน

ที่ไม่เก่งก็สามารถเรียนจบ ได้ทำงาน กับหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ

ท่านสอนว่าจงขยัน หมั่นเพียร ซื่อสัตย์และอดทน และ สำคัญที่สุด ต้องมีความเคารพ

ผู้ร่วมงาน เพราะความเคารพ และศรัทธาในคำสอนของแม่ ผมก็ผ่านอุปสรรคต่างๆ ขณะที่

ทำงานอยู่ต่างประเทศ พระคุณของแม่มีมากมาย ทำให้ผมมีวันนี้ วันที่ผมได้ฟังคำสอน

จากคณะอาจารย์ ของมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา หลังจากที่ศึกษาไม่นาน-

นัก ความเขัาใจพระธรรม ก็ช่วยให้ผมมีความประพฤติตนที่ดีต่อครอบครัว และสังคม

มากขึ้น พ่อแม่ไม่รังแกผมเลย มีแต่ผมรังแกพ่อแม่ตอนผมเป็นเด็ก

ขออนุโมทนาครับ

ปริญญา

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Parinya
วันที่ 18 ส.ค. 2556

พ่อผมตีผมเพราะผมสอบตก ท่านตีเพราะมีเหตุผลที่ดี แต่ผมไม่โกรธท่าน เพราะท่าน

เป็นผู้มีพระคุณ

ผมเป็นลูกคนที่ 7 ในจำนวนลูก 9 คน ท่านก็คงไม่ตามใจกับผมแน่ เมื่อพ่อผมตีผมแล้ว

แม่ก็บอกว่า ถ้าผมยังดื้อไม่ขยันเรียน ถ้าสอบตกอีก คราวนี้ก็จะโดนแม่ตีบ้าง วันนี้ผมโต

แล้ว ผมยังระลึกถึงพระคุณของท่านตลอดมา แต่ก็สายไปแล้ว ผมไม่มีโอกาสทำความดี

ศึกษาพระธรรมเหมือนคุณ ขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ วันนี้ผมได้ศึกษาพระธรรมแล้ว ผมคิดว่า

การให้อภัยต่อผู้ที่มีพระคุณ เป็นสิ่งที่ประเสริฐสูงสุด หรึอ การให้อภัยต่อบุคคลอื่น และ

สัตว์อื่นก็เช่นกัน โลกจะสงบได้ก็เพราะมีการให้อภัย การเป็นมิตรที่ดีต่อกัน จิตที่มีแต่

ความเมตตา จะเป็นจิตที่สงบ

ขออนุโมทนาครับ

ปริญญา

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
rrebs10576
วันที่ 19 ส.ค. 2556

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลจิดของทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
peem
วันที่ 27 พ.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ