นักบวชนิกายอื่นชื่อว่าปาราชิกไหม

 
นิรมิต
วันที่  28 ก.พ. 2556
หมายเลข  22554
อ่าน  1,531

กราบสวัสดีท่านวิทยากร และมิตรธรรมที่เคารพทุกท่าน

มีความสงสัยอยากกราบเรียนถามว่า นักบวชนิกายอื่น ดั่งเช่นในประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น ซึ่งมีวัตรปฏิบัติต่างกับพระวินัยที่ทรงบัญญัติไว้มาก ทั้งอนุญาตให้พระภิกษุมีภรรยาได้ จับเงินทองได้ ทำธุรกิจได้ หรือนิกายที่เชื่อว่านิพพานเป็นสถานที่มีพระพุทธองค์ประทับอยู่ อย่างนิกายทางจีน หรือแม้นิกายที่เห็นผิดไปมากในประเทศเราก็มี และอื่นๆ ดังนี้ มองได้สองนัยคือ นั่นเป็นพระพุทธศาสนาที่บิดเบือน และ นั่นไม่ใช่พระพุทธศาสนา คือถ้ากล่าวโดยนัยว่า นั่นคือพระพุทธศาสนา ท่านเหล่านั้นย่อมต้องปาราชิกแน่ๆ หรืออย่างน้อยก็มีอาบัติติดตัวหลายอย่าง ปิดกั้นสวรรค์ นิพพาน ต่างๆ แต่ถ้ากล่าวโดยนัยว่า นั่นไม่ใช่พระพุทธศาสนา เพราะอาศัยความผิดแผกแตกต่างกันเกินไป หรืออาศัยความแบ่งแยกแล้วซึ่งนิกาย ถือว่านับถือกันคนละแบบแล้ว ก็กลายเป็นศาสนาอื่นไปแล้ว ไม่ชื่อว่าเป็นพุทธศาสนาของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือกลายเป็นอัญญเดียรถีย์ ก็แปลว่าท่านเหล่านั้นไม่ต้องปาราชิก ไม่มีอันตรายิกธรรมที่ขวางกั้นมรรคผลนิพพาน

ไม่ทราบว่า ว่าด้วยสัจจะความจริง นิกายอื่นๆ ที่ข้อวัตรปฏิบัติ คำสอนแตกต่างกันถึงเพียงนี้ ยังจะชื่อว่าเป็นพุทธศาสนาไหม หรือถือเป็นอัญญเดียรถีย์ จะจัดแบ่งแยกด้วยนัยใด อย่างไร ด้วยเหตุใด แล้วนักบวชในนิกายนั้นๆ จะต้องอาบัติ ต้องปาราชิกหรือไม่ ประการใดครับ?

กราบขอบพระคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 1 มี.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

สำหรับพระภิกษุที่บวชด้วยวิธีการที่ถูกต้อง และ ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ ก็ยังถือว่าเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา การที่กระทำอะไรก็ตามก็จะต้องอยู่ในพระวินัยบัญญัติ หากว่ามีการเสพเมถุนธรรม ก็จะต้องอาบัติปาราชิก หากยังไม่ได้สึก ก็จะกั้นสวรรค์ มรรค ผลนิพพานแน่นอน

ส่วนความเห็นผิดของพระภิกษุที่ทำให้แบ่งเป็นนิกาย ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ไม่ใช่เครื่องที่จะทำให้ตัดสินว่า ไม่ใช่พระภิกษุในพระพุทธศาสนา ซึ่งพระพุทธเจ้าแสดงไว้ในทักขิณาวิภังคสูตรว่า ต่อไปในอนาคตกาล จะภิกษุโคตรภู ที่มีเพียงสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความเป็นภิกษุ เอาผ้ามาผูกที่หู เป็นต้น และ ข้อประพฤติย่อหย่อน ทำกิจการงาน ดังเช่น คฤหัสถ์ แต่หากผู้ใดทำบุญน้อมถวายแด่สงฆ์ ก็ชื่อว่ามีผลมาก มีอานิสงส์มาก

จากตัวอย่างนี้แสดงว่า หากมีการบวชที่ถูกตามกฎเกณฑ์และตนเองก็ปฏิญาณว่าเป็นภิกษุในศาสนานี้ ก็ชื่อเป็นสมณะ เป็นพระในพระพุทธศาสนา ส่วนความเห็นของท่าน ความเห็นของพระที่บวชให้ท่าน ก็เป็นคนละส่วนกัน ที่ทำให้บอกว่าตนเองเป็นนิกายใด แต่ก็ยังรับว่าเป็นพระพุทธศาสนา ท่านก็ต้องอยู่ในข้อบัญญัติพระวินัย หากทำผิดในข้อปาราชิก ก็ต้องปาราชิก ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ใฝ่รู้
วันที่ 1 มี.ค. 2556

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 1 มี.ค. 2556

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ความเป็นบรรพชิต ถ้ารักษาไม่ดี มีแต่จะคร่าให้ตนเองตกไปสู่ที่ต่ำ คือ อบายภูมิ โดยส่วนเดียว เป็นโทษแก่ตนเอง เพราะความเป็นบรรพชิตไม่ได้อยู่ที่เพียงเพศที่แตกต่างไปจากคฤหัสถ์ ไม่ได้อยู่ที่บริขารเครื่องใช้ที่แตกต่างไปจากคฤหัสถ์ ไม่ได้อยู่ที่เครื่องแต่งกายที่แตกต่างไปจากคฤหัสถ์ แต่อยู่ที่ความจริงใจในการที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมอบรมเจริญปัญญา ขัดเกลากิเลสยิ่งขึ้น ให้สมกับที่สละทุกสิ่งทุกอย่าง มีทรัพย์ สมบัติวงศาคณาญาติ เป็นต้น เข้าสู่เพศที่สูงยิ่ง แต่ถ้าประพฤติปฏิบัติผิด ไม่คล้อยตามพระธรรมวินัย ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุประเทศใด นิกายใด ก็ย่อมผิดทั้งนั้น มีโทษโดยส่วนเดียว ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
wannee.s
วันที่ 1 มี.ค. 2556

โดยโวหารเรียกกันว่านักบวช แต่จริงๆ จะเป็นนักบวชที่เป็นไปตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้หรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่งค่ะ แต่ในพระไตรปิฎกมีแสดงไว้ว่้า ในอนาคตข้างหน้า จะมีโคตรภูสงฆ์ หมายถึง เป็นแค่สงฆ์ในเครื่องหมายเท่านั้น ไม่ได้ประพฤติตามพระวินัย ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
nopwong
วันที่ 1 มี.ค. 2556

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
นิรมิต
วันที่ 1 มี.ค. 2556

กราบขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 26 มิ.ย. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ