ศึกษาธรรมเพื่อไปทำ (ลุยกับกิเลส) VS ศึกษาธรรมเพื่อหาความเข้าใจถูก

 
Bosco
วันที่  16 พ.ย. 2555
หมายเลข  22057
อ่าน  1,187

กราบสวัสดีทุกๆ ท่านที่เคารพครับ

ผมอยากแบ่งปันความเห็นเล็กๆ ของผมนะครับ ถ้าผิดถูกยังไง ช่วยชี้แนะผมด้วยครับ

ทุกวันนี้ชีวิตผม ok แล้ว ในทางโลก ทั้งความฝันตอนเด็กๆ หรือเป้าหมาย อุดมการณ์ต่างๆ แต่ทำไม วันนี้ผมรู้สึกว่าชีวิตมันไม่มีอะไรเลย เพราะทุกๆ ครั้งที่ผมไม่ได้คิดถึงสิ่งที่ผมมี หรือผมเคยทำ ผมเท่ากับไม่มีอะไรเลย ว่างเปล่า แต่พอคิด พอเห็น ก็เกิดมีซะอย่างงั้น พอบ่อยๆ เข้า เราก็เลยรู้สึกว่า โอ้ววว ... จิต มันช่างวิจิตรจริงๆ พอมันไปอยู่ที่ตรงไหน เรื่องอะไร มันก็เป็นเรื่องราว เป็นตัวเป็นตนเป็นทุกข์เป็นสุขซะงั้น พอแป๊ปเดียว มันไปนู่น ไปนี่ จนผมเบื่อมัน แบบถึงที่สุดแล้ว ผมก็เลยมีความรู้สึกว่า ทางธรรม ผมเหมือนเพิ่งเข้าเตรียมอนุบาลมากเลย ครับ พอผมรู้สึกเช่นนั้นปุ๊ป ผมก็เริ่มออกเดินทางขับรถ ตระเวนไปสำนักต่างๆ วัดต่างๆ ที่ไหนดี ที่ไหนดัง ผมก็พยายามไป เพื่อที่จะลุยกับกิเลสของผม แต่กลับกลายเป็นว่า แต่ละที่ สอนไม่ตรงกันซักเท่าไหร่ ตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง และทำไมมีหลายวิธีเหลือเกิน เลือกทำไม่ถูกเลย ผมก็เลยเอะใจว่า ในเมื่อพระพุทธเจ้ามีองค์เดียว แต่ทำไมคำสอนและวิธี มันถึงได้แตกต่างกัน ผมก็เลยคิดเอาว่า ไม่เป็นไร คงประมาณว่า จะนั่ง banana boat หรือ ตุ๊กตุ๊ก มันก็คือๆ กันละ เอาละทีนี้ ผมทั้งนั่งสมาธิ ทั้งเดินจงกลม ทั้งยุบหนอ รวมถึงอานาปานสติ, ดูจิต รู้เวทนา ผมก็ไปทำเกือบทุกแบบ แต่ผมรู้สึกว่า มันมีแต่ (ผม) ที่ไปทำ มีแต่ (อยาก) ไปทำ เอ่อ แล้วมันจะละความเป็นเรา ตอนไหน

พอดีได้มีโอกาสฟัง am ของทางรายการ ตอน ๖ โมงเช้า ผมก็เลยเข้าใจไปเอง ว่าเราไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องเดินหาแค่ฟังและศึกษา เพื่อให้เกิดความเข้าใจถูกจริงๆ แล้วสิ่งที่จะไปลุยกับกิเลสนั้น ไม่ต้องเป็นผมแล้ว แต่มันจะเป็นหน้าที่ของความเข้าใจ

ผมต้องกราบขออภัยทุกท่าน ไม่ว่าจะใช้วาจาผิด, ถูก หรือสะกดผิดสะกดถูกหรือล่วงเกินอะไรใดๆ ไป ต้องขออภัยไว้ด้วยครับ ผมอยากแชร์และอยากให้ผู้รู้ ช่วยชี้แนะว่า มันโอเคไหม ที่เราจะใช้ วิธีนี้ดำเนินชีวิตที่เหลือน้อยๆ ของผม ให้คุ้มค่าที่สุด ในฐานะที่ได้เกิดเป็นคนในชาตินี้แล้ว

ถ้ามีโอกาสจะแวะมาแชร์ต่อนะครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 19 พ.ย. 2555

ขอเชิญสหายธรรมร่วมแสดงความคิดเห็น ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
daris
วันที่ 20 พ.ย. 2555

ขออนุญาตร่วมสนทนาด้วยนะครับ

รู้สึกยินดีมาก ที่คุณ Bosco มีความสนใจในพระธรรมครับ เพราะผู้ที่จะสนใจศึกษาพระธรรม ต้องเคยสะสมความสนใจ และการเห็นคุณค่าของพระธรรมมาก่อนในอดีต ทั้งในชาตินี้ และชาติก่อนๆ เพราะธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา ไม่มีอะไรที่เกิดโดยไม่มีเหตุปัจจัย

การที่จะได้มีโอกาสฟังพระธรรมที่ถูกต้องในชาตินี้ ก็เพราะได้เคยสะสมกุศล ที่ประกอบด้วยปัญญา (มีการฟังธรรม เป็นต้น) ตั้งแต่ในชาติก่อนๆ ดังนั้น ชาตินี้ จึงได้มีโอกาสฟังอีก เป็นโอกาสที่ประเสริฐที่ไม่ควรปล่อยไป เพราะสิ่งที่จะลุยกับกิเลสได้ มีแต่ปัญญาเท่านั้น และปัญญาจะเจริญได้ต้องเริ่มจากการฟังพระธรรมที่ถูกต้องเท่านั้น ไม่มีวิธีอื่นๆ เลยครับ

ทางสายเอก คือทางสายเดียวที่จะนำไปสู่การดับกิเลสได้ มีแต่สติปัฏฐานเท่านั้น ครับ และการที่สติปัฏฐานจะเจริญได้ จะขาดการฟังพระธรรมไม่ได้เลย ตั้งแต่เราเกิดมาก็มีเรื่องมากมายทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทั้งดีใจ เสียใจ โกรธ ทุกข์ใจ เมตตา กรุณา ฯลฯ แต่เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ที่เราเคยยึดถือว่าเป็นเรา แท้จริงเป็นเพียงธรรมแต่ละอย่างๆ เท่านั้น ที่เกิดแล้วดับตามเหตุปัจจัย จนกว่าจะได้ฟังพระธรรมเท่านั้น จึงจะเริ่มมีความเข้าใจในความเป็นธรรม ของสิ่งต่างๆ ที่เราเคยยึดถือเหล่านั้น เมื่อความเข้าใจเพิ่มขึ้นๆ ก็จะเป็นปัจจัยให้สติปัฏฐานเกิด ระลึกตรงลักษณะของสภาพธรรม แต่ละอย่างๆ ทีละเล็กทีละน้อยพร้อมกับปัญญาที่ค่อยๆ เจริญขึ้น นี้คือการปฏิบัติ (คือสติเจตสิก ปัญญาเจตสิก และสภาพธรรมฝ่ายดีอื่นๆ กระทำกิจของตนๆ ... ไม่มีเราที่จะไปทำ ปฏิบัติ ด้วยความเป็นตัวตน) ซึ่งทั้งหมดจะขาดการฟังพระธรรมไม่ได้เลย

เป็นเรื่องธรรมดาที่ปัจจุบันนี้ จะมีหลายสำนักหลายแนวปฏิบัติ เพราะเป็นยุคที่พระศาสนากำลังเสื่อม การศึกษาพระธรรมโดยละเอียดมีน้อยลง ดังนั้น ผู้ที่ศึกษาโดยไม่ละเอียดก็จะถูกโลภะและอวิชชา พาไปทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่การเข้าใจธรรมที่มีจริงในขณะนี้ อาจมีบางท่านไม่แน่ใจว่าอย่างไหนถูกกันแน่ ก็ลองทำทุกอย่าง ทั้งเดิน ทั้งนั่ง ทั้งกำหนดลมหายใจ ฯลฯ บางท่านอาจคิดว่าการฟังพระธรรมก็มีประโยชน์ แต่ก็คิดว่า ไปนั่ง ไปเดิน ไปกําหนดลมหายใจด้วย ก็คงไม่เสียหาย ทําหลายๆ อย่าง คงต้องมีสักอย่างที่ถูก แต่ผู้ที่สะสมปัญญามา เมื่อได้ฟังพระธรรมแล้วก็จะค่อยๆ เพิ่มความเข้าใจ และทิ้งการกระทําที่เป็นหนทางที่ผิด ด้วยความเด็ดเดี่ยวมั่นคงในพระธรรม เพราะไปทางอื่นย่อมไม่ถึงแน่นอน

หนทางนี้ยากและยาวไกล แต่ไปถึงได้หากไม่ละทิ้งการฟังธรรม อบรมเจริญปัญญาเท่าที่จะทำได้ในชาติหนึ่งๆ วันหนึ่งก็ต้องถึงแม้จะอีกนานแสนนาน เคยฟังการบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ ครั้งหนึ่ง ท่านกล่าวว่า บนยอดภูเขาสูงๆ ก็ยังมีมดอยู่ แม้มดจะมีขาเล็กๆ แต่ค่อยๆ เดินไป วันหนึ่งก็ถึงบนยอดเขาได้

ดังนั้น ในเมื่อชาตินี้เป็นอีกชาติหนึ่งที่มีโอกาสได้ฟังพระธรรมที่ยังดำรงอยู่ โดยมีผู้ที่ทรงปัญญา สามารถอธิบายให้เราเข้าใจได้ มีท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เป็นต้น เราก็ควรที่จะเห็นประโยชน์และฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมต่อไป

ในเว็บไซต์นี้ ก็มีไฟล์เสียง การบรรยายธรรม ของท่านอาจารย์สุจินต์มากมาย ที่รวบรวมมาด้วยกุศลวิริยะ อันน่าอนุโมทนายิ่งของวิทยากรและเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ และผู้ดูแลเว็บไซต์ สามารถฟังได้ในส่วน ฟังธรรม และ ซีดีธัมมะ โดยส่วนตัวแล้วแนะนำชุด

ปกิณณกธรรม

และ

พื้นฐานพระอภิธรรม

ส่วนชุดอื่นๆ เท่าที่ได้ฟังแล้ว ก็ล้วนแต่มีประโยชน์ และมีคุณค่าควรแก่การศึกษาอย่างยิ่ง เช่นกันครับ นอกจากนี้ก็แนะนำให้อ่าน หนังสือ ปรมัตถธรรมสังเขป ของท่านอาจารย์สุจินต์ ก็ทำให้มีพื้นฐานความเข้าใจขึ้นอย่างมากครับ

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
วิริยะ
วันที่ 20 พ.ย. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pamali
วันที่ 20 พ.ย. 2555

กราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
paderm
วันที่ 21 พ.ย. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
rrebs10576
วันที่ 22 พ.ย. 2555

ดิฉันเคยเดินจงกรม กำหนดลมหายใจ รู้สึกสงบขณะนั้น หรือตอนที่อยู่สำนักปฎิบัติ ช่วงอยู่เมืองไทย ได้ฟังวิทยุจากท่านอาจารย์สุจินต์บ้าง ถ้าเปิดเจอ โชคดีที่เจอเว็บนี้ ขณะที่เพิ่งเปิดได้ไม่นานก็เข้ามาที่นี่ที่เดียวตลอดค่ะ

ฟังธรรมะจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ และคณะวิทยากร มศพ. ที่มุ่งเน้นให้ อบรม พิจารณา ไตร่ตรอง สภาพธรรม ที่มีจริงในชีวิตประจำวัน ที่สามารถพิสูจน์ได้ ดิฉันไม่เคยได้รับการสอนมาก่อน ในธรรมะที่มีจริง ขณะที่เกิด ที่มีจริง ซึ่งเป็นชีวิต ตั้งแต่เกิดจนตาย ทุกๆ ขณะ พร้อมอธิบายข้อความในพระไตรปิฎก

การฟัง ศึกษาพระธรรมที่ละเอียดลึกซึ้ง จำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจถูก ขั้นพื้นฐาน ที่ช่วยให้ดิฉัน เดือดร้อน, หวั่นไหวน้อยลง คลายทุกข์ได้ระดับหนึ่ง แม้กิเลสหรืออกุศลจะมีเยอะแยะในแต่ละวันค่ะ

การเข้าถึงอนัตตาของสภาพธรรม ยากมากจริงๆ แต่มีศรัทธาที่จะสะสมประโยชน์ค่ะ ตามกําลังของปัญญาทีละเล็กทีละน้อย เมื่อได้เกิดมาและพบพระพุทธศาสนา

ขอบพระคุณ คุณdaris และอนุโมทนาทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 25 ก.พ. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

อบรมปัญญาให้เข้าใจความจริง จะเป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้ และชาติต่อๆ ไป กุศลที่ทำได้เสมอๆ คือ การฟังพระธรรมที่พระอรหันตสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง มีคุณค่ามหาศาลสำหรับชีวิตที่ต้องเดินทางต่อไป อีกแสนไกล และกันดาร

ขอเชิญศึกษาพระธรรม ...

รวมลิงก์เมนูต่างๆ ในเว็บไซต์

พระไตรปิฎก

ฟังธรรม

วีดีโอ

ซีดี

หนังสือ

กระดานสนทนา

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ