การบรรลุธรรม ...พาหิยทารุจีริยะ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  24 ก.ย. 2549
หมายเลข  2175
อ่าน  2,519

[เล่มที่ 44] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 127-128

พาหิยสูตร

ว่าด้วยการตรัสถึงที่สุดแห่งทุกข์

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนพาหิยะ เพราะเหตุนั้นแล พึงศึกษาอย่างนี้ว่า เมื่อเห็นจักเป็นสักว่าเห็น เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟ้ง เมื่อทราบจักเป็นสักว่าทราบ เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง ดูก่อนพาหิยะ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล ดูก่อนพาหิยะ ในกาลใดแล เมื่อท่านเห็นจักเป็นสักว่าเห็น เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง เมื่อทราบจักเป็นสักว่าทราบ เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มี ในกาลใดท่านไม่มี ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มีในโลกนี้ ย่อมไม่มีในโลกหน้า ย่อมไม่มีระหว่างโลกทั้งสอง นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์

ลําดับนั้นแล จิตของพาหิยทารุจีริยกุลบุตรหลุดพ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลายเพราะไม่ถือมั่นในขณะนั้นเอง ด้วยพระธรรมเทศนาโดยย่อนี้ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ลําดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสอนพาหิยทารุจีริยกุลบุตรด้วยพระโอวาทโดยย่อนี้แล้ว เสด็จหลีกไป.

[๕๐]  ครั้งนั้นแล เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จหลีกไปแล้วไม่นาน แม่โคลูกอ่อนขวิดพาหิยทารุจีริยะให้ล้มลงปลงเสียจากชีวิต ครั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเที่ยวบิณฑบาตในพระนครสาวัตถี เสด็จกลับจากบิณฑบาตในเวลาปัจฉาภัต เสด็จออกจากพระนครพร้อมกับภิกษุเป็นอันมาก ได้ทอดพระเนตรเห็นพาหิยทารุจีริยะทํากาละแล้ว จึงตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจงช่วยกันจับสรีระของพาหิยทารุจีริยะยกขึ้นสู่เตียง แล้วจงนําไปเผาเสีย แล้วจงทําสถูปไว้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พาหิยทารุจีริยะประพฤติธรรมอันประเสริฐเสมอกับท่านทั้งหลาย ทํากาละแล้ว

ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว ช่วยกันยกสรีระของพระพาหิยทารุจีริยะขึ้นสู่เตียง แล้วนําไปเผา และทําสถูปไว้ แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ได้นั่งอยู่ ณ ที่ควรข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สรีระของพาหิยทารุจีริยะ ข้าพระองค์ทั้งหลายเผาแล้ว และสถูปของพาหิยทารุจีริยะนั้นข้าพระองค์ทั้งหลายทําไว้แล้ว คติของพาหิยทารุจีริยะนั้นเป็นอย่างไร ภพเบื้องหน้าของเขาเป็นอย่างไร.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พาหิยทารุจีริยะเป็นบัณฑิต ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ทั้งไม่ทําเราให้ลําบากเพราะเหตุแห่งการแสดงธรรม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พาหิยทารุจีริยะปรินิพพานแล้ว ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึงทรงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า ดิน น้ำ ไฟและลม ย่อมไม่หยั่งลงในนิพพานธาตุใด ในนิพพานธาตุนั้น ดาวทั้งหลายย่อมไม่สว่าง พระอาทิตย์ย่อมไม่ปรากฏ พระจันทร์ย่อมไม่สว่าง ความมืดย่อมไม่มี ก็เมื่อใด พราหมณ์ ชื่อว่าเป็นมุนี เพราะรู้ (สัจจะ ๔) รู้แล้วด้วยตน เมื่อนั้น พราหมณ์ ย่อมหลุดพ้นจากรูปและอรูป จากสุขและทุกข์

จบพาหิยสูตรที่ ๑๐

จบโพธิวรรคที่ ๑


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ปุถุชนคนหนึ่ง
วันที่ 11 ก.พ. 2550

สาธุ ...

เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ของท่านที่ได้อบรมสร้างสมปัญญาบารมีมาจนถึงพร้อมที่จะกระทำที่สุดแห่งทุกข์ แม้ด้วยการได้ฟังพระธรรมเพียงข้อความสั้นๆ ปุถุชนอย่างเราไม่ควรคิดจะเอาอย่างนะคะ เพราะถ้ายังไม่มีเหตุปัจจัย ยังไงก็ไม่บรรลุค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 11 ก.พ. 2550
ขออนุโมทนา
 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
suwit02
วันที่ 18 พ.ค. 2552

สาธุ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
pornpaon
วันที่ 18 พ.ค. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
สามารถ
วันที่ 30 ม.ค. 2553

เพราะมากครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 4 พ.ค. 2564

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
chatchai.k
วันที่ 6 มิ.ย. 2564

ขอเชิญอ่านเพิ่มเติม ...

ประวัติท่านพาหิยะ ทารุจีริยะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ