สวัสดีทุกคนครับ คือผมเพิ่งศึกษาธรรมะครับ มีเรื่องสงสัย รบกวนพี่ๆ ช่วยตอบด้วยครับ

 
ปวีร์
วันที่  3 ส.ค. 2555
หมายเลข  21508
อ่าน  1,190

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ค่ะ

เบือนหน้าหนี ... พระสัทธรรม

ขออนุโมทนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 4 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระธรรมที่เป็นพระพุทธเจ้าทรงแสดง ทรงแสดงเหตุผล และ เป็นไปตามลำดับ

ซึ่ง พระองค์ทรงแสดง ถึง ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ

ปริยัติ คือ การฟังพระธรม ศึกษาพระธรรม

ปฏิบัติ คือ ขณะที่เจริญสติปัฏฐาน ๔ และ

ปฏิเวธ คือ ขณะที่บรรลุธรรม

เพราะฉะนั้น อาศัย ปริยัติ จึงทำให้เกิดปฏิบัติ และ อาศัย ปฏิบัติ จึงทำให้ถึงปฏิเวธได้ ดังนั้น ขาดปริยัติไม่ได้ คือ การศึกษาพระธรรม ฟังพระธรรม แม้แต่ อริยสาวกที่บรรลุธรรมในอดีต สมัยพุทธกาล ท่านก็ต้งอาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม จึงถึงการปฏิบัติ คือ ขณะที่สติปัฏฐานเกิดรู้ความจริงของสภาพธรรมในขณะนี้ และถึงปฏิเวธ บรรลุธรรมได้ ครับ

เพราะฉะนั้น การฟังพระธรม ศึกษาพระธรรม เป็นเหตุให้เกิด สติปัฏฐาน ๔ เกิดการปฏิบัติ หากไม่ฟังพระธรรมให้เข้าใจ ไม่มีความเข้าใจขั้นการฟัง ปฏิบัติ คือ สติปัฏฐาน ๔ ก็เกิดไม่ได้ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม จึงเป็นเหตุให้เกิดผล คือ ปฏิบัติ เปรียบเหมือนจะสร้างบ้าน ๒ ชั้น หากไม่มีเสา ไม่มีชั้นที่ ๑ ก่อน ก็จะไม่สามารถสร้างชั้น ๒ ได้เลย ครับ

ที่สำคัญ เราจะต้องเข้าใจให้ถูกว่าสติปัฏฐาน ๔ ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไปปฏิบัติหลีกเร้น นั่งสมาธิจึงเจริญได้ เพราะ สติปัฏฐาน ๔ ก็คือ การรู้ความจริงของสภาพธรรมที่มีในขณะนี้ ที่เป็นชีวิตประจำวัน

ดังนั้น อาศัยการอบรมปัญญาขั้นการฟัง ก็จะทำให้รู้ความจริงในชีวิตประจำวัน ปริยัติ ย่อมถึง ปฏิบัติ เพราะฉะนั้น ไม่ได้อะไรที่สำคัญกว่าใคร แต่ ทั้ง การฟัง และ ปฏิบัติธรรม อาศัยกันและกันจึงเกิดขึ้น คือ อาศัย ปริยัติที่ถูกต้อง จึงเกิดปฏิบัติ อาศัยการฟังพระธรรมที่ถูกต้อง จึงเกิด สติปัฏฐาน ๔ ครับ ครับ

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
kinder
วันที่ 4 ส.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 4 ส.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ถ้าไม่มีการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องก็เกิดขึ้นไม่ได้ ซึ่งถ้าไม่มีความเข้าใจตั้งแต่เบื้องต้นแล้ว การปฏิบัติก็ผิด ไม่สามารถดำเนินไปในหนทางที่ถูกต้องได้เลย เพราะหนทางที่ถูกต้องต้องเป็นหนทางแห่งการอบรมเจริญปัญญาเท่านั้นจริงๆ และปัญญาจะเจริญขึ้นได้ ก็ต้องเริ่มต้นที่การฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ซึ่งจะลืมข้อนี้ไม่ได้เลย ครับ

...ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
ปวีร์
วันที่ 4 ส.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
ไตรสรณคมน์
วันที่ 4 ส.ค. 2555

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ค่ะ

เบือนหน้าหนี ... พระสัทธรรม

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ธนฤทธิ์
วันที่ 5 ส.ค. 2555
ขอบคุณและขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pat_jesty
วันที่ 5 ส.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
jaturong
วันที่ 6 ส.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
Graabphra
วันที่ 7 ส.ค. 2555

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
wannee.s
วันที่ 7 ส.ค. 2555

ในพระไตรปิฎกมีแสดงไว้ ฟังอยู่ด้วยดีย่อมได้ปัญญา

และ คำว่า สาวก แปลว่า ผู้ฟัง

ในครั้งพุทธกาล เวลาที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมจบ มนุษย์ และ เทวดา ได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นอันมาก เพราะท่านเหล่านั้นได้สะสมบุญบารมีมาแล้วในอดีตชาติ ค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
captpok
วันที่ 9 ส.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ