อำนาจเป็นใหญ่ในโลก

 
เมตตา
วันที่  2 ก.ค. 2555
หมายเลข  21325
อ่าน  3,151

อำนาจ คือ สิ่งที่ทำให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นเป็นไป ซึ่งโดยมากจะเข้าใจว่า คนนั้นคนนี้มีอำนาจที่จะทำให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นเป็นไป แต่แท้จริงแล้ว อำนาจที่เป็นใหญ่ในโลก ก็คือ ธรรมะ เช่น อกุศลเกิดขึ้นเป็นเหตุให้ กาย วาจา ไหวไปทางทุจริต

ถ้ากุศลเกิดขึ้น กาย วาจา ก็เป็นไปในทางสุจริต

เห็น ขณะนี้ มีใครทำให้เห็นเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าใครก็ทำเห็น ทำได้ยิน ... ให้เกิดขึ้นไม่ได้ แต่เป็นกรรมที่ทำให้เห็นเกิดขึ้น

อำนาจของอกุศล ย่อมไม่สูงเท่าอำนาจของกุศลไปได้ เพราะอำนาจของปัญญาสูงสุด คือ อรหัตมรรค สามารถดับอำนาจของกิเลส อกุศลได้หมดเป็นสมุจเฉท

การฟังพระธรรมให้เข้าใจสิ่งที่มีจริง สิ่งที่มีจริง ก็คือ ธรรมะ ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงได้ สิ่งที่มีจริงก็เป็นอย่างนั้น ไม่เป็นอย่างอื่น อะไรทำให้เกิดขึ้น ก็เพราะมีปัจจัยให้ธรรมนั้นๆ เกิดขึ้นเป็นไป ความจริงที่ไม่มีใครเปลื่ยนแปลงได้

สูงสุด ... อำนาจที่เป็นใหญ่ในโลกก็คือ ธรรม

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ อย่างยิ่งค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 2 ก.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ทุกชีวิตที่เกิดมา และ กำลังดำเนินไป ไม่พ้นจากการเกิดขึ้นและดับไปของสภาพธรรมที่เป็น จิต เจตสิก รูป เพราะฉะนั้น สภาพธรรมทั้งหลาย จึงเป็นใหญ่ในโลก

โลกอะไร โลกทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นใหญ่ในโลก แต่ละคน หากไม่มีสภาพธรรมที่เป็น จิต เจตสิก รูปแล้ว ก็จะไม่มีโลก ไม่มีการดำเนินไป เป็นไปของชีวิต เพราะฉะนั้น ทุกชีวิตจึงตกอยู่ในอำนาจของสภาพธรรมที่ดำเนินเป็นไป ไม่สามารถที่จะบังคับบัญชาได้เลย เพราะ ตกอยู่ในอำนาจของสภาพธรรมที่เป็นไป จึงไม่มีตัวเราที่จะมีอำนาจ เรา หรือ ใคร ที่สมมติกันว่าเป็นใหญ่ในโลก มีอำนาจ นั่นก็เป็นเพียงสมมติเรื่องราว ที่ไม่เป็นความจริง เพราะ ไม่มีใครเป็นใหญ่ มีอำนาจจริงๆ เหนือสภาพธรรมที่กำลังเป็นไปอยู่ ไม่ว่า พระราชา ผู้ปกครอง เทวดา พรหม ผู้มีอำนาจ ก็เป็นเพียงอำนาจโดยสมมติ แต่ สัตว์ทั้งหลายก็ตกอยู่ในอำนาจของสภาพธรรมที่เกิดขึ้น เป็นไป เกิดขึ้นและดับไปไม่มีที่สุด ตราบใดที่ยังตกอยู่ในอำนาจของอวิชชา ความไม่รู้

ผู้ที่จะพ้นไปจากอำนาจของสภาพธรรม คือ ผู้ที่จะไม่มีการเกิดขึ้นของสภาพธรรมที่เป็น จิต เจตสิก รูปอีก นั่นคือ พ้นจากการเกิด ด้วยการดับอำนาจของกิเลส ความไม่รู้

ด้วยอำนาจของกุศลธรรม คือ อำนาจของปัญญา อันมีขึ้นได้ ด้วยการเจริญ อบรมการฟังพระธรรม เป็นสำคัญ ครับ จึงเป็นเครื่องเตือนในชีวิตประจำวัน ครับว่า กำลัง มีอำนาจอะไรในขณะนี้

ขออนุโมทนาที่ร่วมสนทนา ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ผู้ร่วมเดินทาง
วันที่ 2 ก.ค. 2555

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาพี่เมตตา, อาจารย์ผเดิม, อาจารย์คำปั่นและทุกท่านครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
khampan.a
วันที่ 2 ก.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

เมื่อวันเสาร์ที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา ชั่วโมงการสนทนาพระสูตรที่มีชื่อว่า อิสสรสูตร (ว่าด้วยอำนาจเป็นใหญ่ในโลก เป็นต้น) ท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ได้อธิบายความเป็นจริงของสภาพธรรม ที่เกี่ยวกับอำนาจ ไพเราะ ละเอียด ลึกซึ้งเป็นอย่างมาก จึงขออนุญาตถอดคำบรรยายของท่านอาจารย์ มาให้ทุกท่านได้อ่าน ได้พิจารณาร่วมกัน (ซึ่งโดยเนื้อหาสาระโดยรวม ทั้งพี่เมตตา และ อ. ผเดิม ก็ได้อธิบายอย่างครบถ้วนแล้ว) ครับ ดังนี้ :-

"ธรรมเป็นเรื่องที่ละเอียดและลึกซึ้ง แม้แต่ข้อความที่ได้ยินเพียงครั้งเดียวก็ไม่พอ เวลาที่ได้ยินได้ฟัง จะกี่ครั้งก็ตาม ต้องไตร่ตรองจนกระทั่งเป็นความเข้าใจถูกจริงๆ

เพราะฉะนั้น แม้แต่พระธรรมที่ทรงแสดงไว้สั้น แต่ว่าคนฟัง ฟังแล้วก็ฟังอีก นี่ก็แสดงให้เห็นว่า แต่ละคำเป็นสิ่งที่ควรที่จะไตร่ตรองพิจารณา

โดยความหมาย อำนาจ คือ สิ่งที่ทำให้เป็นไปได้ ถ้าไม่สามารถที่จะทำให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นไปได้ จะมีอำนาจอะไร เพราะฉะนั้น ธรรมดาอำนาจก็จะหมายความถึง สิ่งหรือธรรมที่ทำให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นไปได้ กล่าวโดยปรมัตถธรรมก็คือ ธรรมนั่นเอง มีใครสามารถที่จะเปลี่ยนธรรมได้ไหม ให้ธรรมอย่างนี้เปลี่ยนเป็นอย่างนั้น ให้สิ่งนั้น เปลี่ยนเป็นอย่างนี้ ไม่ได้

เพราะฉะนั้น แท้จริงแล้ว ใครหรือเปล่า? หรือว่าแท้ที่จริงก็คือธรรม คือ สิ่งที่มีจริง นั่นแหละ เป็นอำนาจที่จะทำให้มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นตามกำลังของธรรมนั้นๆ คือ การฟังธรรม แม้แต่คำเดียวก็ไม่เผิน ที่จะทำให้เข้าใจจริงๆ ว่า อำนาจ ไม่ใช่คน ไม่ใช่ใคร แต่ว่าเป็นสิ่งที่สามารถจะทำให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นเป็นไปได้

เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นฝ่ายธรรมที่ไม่ดี ก็ทำให้สิ่งที่ไม่ดี ทั้งกาย ทั้งวาจา ทั้งใจ เป็นไปในทางที่ไม่ดี นี่คือ กำลังของธรรมที่ไม่ดี แต่ถ้าเป็นธรรมที่ดี ตรงกันข้าม ที่จะไปทำให้สิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้น เป็นไปไม่ได้

เพราะฉะนั้น กำลังของทั้งสองอย่าง นี่ก็ต่างกัน เพราะฉะนั้น กำลังของธรรม (ฝ่ายดี) ก็ต้องทำให้สิ่งที่ดีงามเป็นประโยชน์เท่านั้นที่เกิดขึ้นเป็นไป ด้วยเหตุนี้ถ้าเข้าใจก่อนโดยความเป็นปรมัตถธรรม เป็นธรรมที่มีจริง เราก็จะไม่สับสนว่าใครมีอำนาจ ขณะนั้นเข้าใจว่าคนนั้นมีอำนาจ แต่อกุศลของคนนั้นทำให้อกุศลธรรมเป็นไปตามกำลังของอกุศลธรรมนั้นๆ ไม่ใช่เขาสามารถที่จะมีอำนาจทำให้อกุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นไป นี้คือ ทางฝ่ายอกุศล ทางฝ่ายกุศลก็เช่นเดียวกัน ใครมีอำนาจ? ไม่ใช่คนหนึ่งคนใดเลย แต่ว่าขณะนั้น เพราะกุศลธรรมเกิดขึ้นเป็นไป ก็ทำให้สิ่งที่เป็นประโยชน์ เป็นไปในทางที่ดีงามเกิดขึ้นเป็นไป เพราะฉะนั้น อำนาจจริงๆ ที่จะทำให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นเป็นไป ก็คือ ธรรม ทั้งหมด

แต่ว่า ก็มีธรรม สองอย่าง ธรรมที่เป็นฝ่ายอกุศล ไม่ดีงาม จะหมดไปได้อย่างไร ดูเหมือนมีอำนาจทำให้อกุศลทั้งหลายเกิดได้ในวันหนึ่งๆ มีสิ่งนั้นสิ่งนี้เกิดขึ้นจากการเห็น การตรึก การสร้าง การทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เกิดขึ้น ด้วยความยินดี ด้วยความต้องการ ด้วยความพอใจ แต่ว่าสิ่งที่ไม่ดีงามเหล่านั้นหมดได้ไหม หมดสิ้นได้ไหม

เพราะฉะนั้น สิ่งที่ไม่ดีที่เป็นอกุศลทั้งหลาย แม้จะดูว่ามีกำลังมีอำนาจที่จะทำให้โลกพัฒนาเจริญไปในทางต่างๆ ก็จริง แต่อกุศลก็ยังคงเป็นอกุศล อกุศลจะเป็นกุศลไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้ผู้ที่มีปัญญาที่เห็นถูกต้องตรงตามความเป็นจริง จึงสามารถที่จะเข้าใจถึงสภาพของธรรมจริงๆ ว่า ธรรมแต่ละอย่าง ไม่ปะปนกัน ไม่มีใครสามารถที่จะไปเปลี่ยนแปลงได้ แต่แม้ว่าอกุศลมีจริง ก็ยังสามารถที่จะดับหมดสิ้นไปได้ ด้วยกำลังของสภาพธรรมที่เป็นกุศล ซึ่งสามารถที่จะทำให้เป็นไปคือ ทำให้หมดกิเลสได้"

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตา และ ทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
Graabphra
วันที่ 2 ก.ค. 2555

ขอบพระคุณมาก และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
เซจาน้อย
วันที่ 2 ก.ค. 2555

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

"การคบบัณฑิตกัลยาณมิตรผู้มีปัญญา ย่อมนำมาซึ่งความเจริญทั้งปวง

ไม่นำความเสื่อมมาให้เลยแม้แต่น้อย"

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาในกุศลจิตของพี่เมตตา และ ทุกๆ ท่านด้วยครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
เข้าใจ
วันที่ 2 ก.ค. 2555

ได้อ่านแล้ว น้อมจิต เหมือนยินอยู่ ไพเราะรู้ กระทบ แล้วหลบหาย ยามกลางวัน ยามคืน ให้ผืนกาย เพื่อจะได้ เพียรจบ พบสัมมา

สิบนิ้ววันทาบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง

กราบอนุโมทนาจิตที่เป็นกุศลวิริยะขออนุญาตเรียกพี่เมตตาครับ อ.คำปั่น, อ.ผเดิมและสหายธรรมทุกๆ ท่านด้วยครับ

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
edu
วันที่ 3 ก.ค. 2555

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับผม ...

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
nong
วันที่ 4 ก.ค. 2555

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
kinder
วันที่ 4 ก.ค. 2555

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ